ทั้งนี้ตั้งแต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕ พลเรือตรี กิตตินันท์ งามศิลป์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการรพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ท่านมีแนวคิดในการบริหารรพ.ฯ

คือ กระตุ้นให้ทุกคนในองค์กรมุ่งสู่ทิศทางเดียวกันตามวิสัยทัศน์ของรพ.ที่จะเป็นเลิศในการบริหารจัดการและมีมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้รพ.เป็นที่ยอมรับของข้าราชการทหารเรือและครอบครัว รวมถึงประชาชนในภาคตะวันออก และอยากเป็นรพ.แรกๆที่ประชาชนนึกถึงและพึ่งพาได้ในยามเจ็บป่วย
รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์เป็นโรงพยาบาลหลักของกองทัพเรือ จึงต้องสามารถตอบสนองภารกิจทางทหารได้ทุกเมื่อ ในขณะเดียวกันต้องสามารถดูแลประชาชนทั่วไปได้เพิ่มขึ้น ไม่ปฏิเสธผู้ป่วยฉุกเฉิน หากมีข้อบ่งชี้ รพ.พร้อมรับไว้ในทุกสิทธิหากมีเตียงว่าง ตลอดจนพัฒนาทีมการรักษาให้มีความเชี่ยวชาญสูงขึ้น เพื่อแสดงความเป็นรพ.ตติยภูมิ และได้ประกาศโรคที่มีความเชี่ยวชาญ และพร้อมเป็นรพ.รับส่งต่อ ได้แก่

• สาขาอายุรกรรม ได้แก่ ผู้ป่วยที่มี Acute Coronary Syndrome โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องทำการสวนหลอดเลือดหัวใจ
• กุมารเวชกรรม ได้แก่ ผู้ป่วยโรคหัวใจแต่กำเนิด และเด็กที่ต้องสวนหัวใจเพื่อใส่เครื่องมือปิดรูรั่ว
• สูตินรีเวชกรรม ได้แก่ ผู้ป่วยที่ทารกในครรภ์มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการขาดออกซิเจน
• ศัลยกรรม ได้แก่ ผู้ป่วยโรคศัลยกรรมทรวงอกและโรคหลอดเลือด
• ออร์โธปิดิกส์ ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีการแตกหักของกระดูกสะโพก และกระดูกสันหลัง
• เวชศาสตร์ความดันบรรยากาศสูง การรักษาโรคที่เกิดจากการดำน้ำ ภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ
• ทันตกรรม ได้แก่ ผู้ป่วยกระดูกตายจากการฉายรังสี ผู้ป่วยอุบัติเหตุบริเวณกระดูกขากรรไกรและใบหน้า ผู้ป่วยผ่าตัดขากรรไกรร่วมกับการจัดฟัน ผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ ผู้ป่วยที่มีเนื้องอกของขากรรไกรและใบหน้า
• จักษุกรรม ได้แก่ โรคเส้นเลือดแดงใหญ่หลอดเลือดตาอุดตัน

ด้านการศึกษา มีการลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยบูรพาในการสอนนักศึกษาแพทย์ชั้นคลินิก โดยจะมีนักศึกษาแพทย์มาหมุนเวียนและฝึกปฏิบัติที่รพ.ในปี ๒๕๖๙ และในสายการพยาบาล มีการลงนามความร่วมมือกับสถาบันปัญญาภิวัฒน์ในการสอนนักเรียนพยาบาล

ด้านเทคโนโลยี สนับสนุนให้รพ.เป็น Smart Hospital ใช้เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วย เช่น การเข้าถึงข้อมูลผลการตรวจแลป ผลเอกซเรย์ ชนิดของยาที่ใช้ย้อนหลัง นอกจากนี้ มีการเตรียมพร้อมรับ EEC โดยการเตรียมพร้อมเป็นรพ.ในเขตเมืองการบินและการเตรียมความพร้อมการดูแลบรรเทาสาธารณภัย สร้างแผนกใหม่ที่สำคัญ คือ CCU (Critical Care Unit) เพื่อดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะวิกฤตที่เกี่ยวข้องกับหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งท่านได้กล่าวว่าแนวคิดทั้งหมดนี้สามารถเกิดขึ้นได้ แม้ผู้นำสูงสุด คือผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะเปลี่ยนแปลงไปตามวาระ (๑-๒ ปี) เนื่องจากผู้นำทุกท่านสานต่องานเดิมและต่อยอดสิ่งที่ดีเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ก่อให้เกิดความต่อเนื่องของนโยบาย ส่งผลให้คนในองค์กรมั่นใจและปฏิบัติตาม