Page 12 - ฉบับเดือน มีนาคม ๒๕๖๘
P. 12

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter


                                                โรคหัด




                             ภัยเงียบที่อาจใกล้กว่าที่คิด


            โดย...น.อ.หญิง ภาศรี  มหารมณ์ หน.ศูนย์การแพทย์แผนไทยหมอพรและการแพทย์ผสมผสาน/อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า พร.



       คุณรู้หรือไม่
              โรคหัดเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายมาก เพียงแค่นั่งอยู่ในพื้นที่ที่มีเชื้อก็อาจติดโรคได้ แต่ข่าวดีก็คือ วัคซีนสามารถป้องกันโรคนี้
       ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเราได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วนก็สามารถลดการระบาดของโรคนี้ได้

       โรคหัดคืออะไร?

              โรคหัดเกิดจาก ไวรัส Measles ซึ่งแพร่กระจายผ่านละอองฝอยในอากาศจากการไอหรือจามของผู้ป่วย เชื้อสามารถ
       อยู่ในอากาศและบนพื้นผิวได้นานถึง ๒ ชั่วโมง

       อาการของโรคหัด

              หลายคนมักเรียก “ไข้ออกผื่น” ว่า “โรคหัด” แต่จริงๆ แล้วอาจเกิดจาก
       เชื้ออื่นได้ด้วย อาการของโรคหัดจริงๆ มักปรากฏขึ้น ๑๐ - ๑๔ วัน หลังได้รับเชื้อ

       และมีลักษณะดังนี้
              ระยะแรก : ไข้สูง น�้ามูกไหล ไอ ตาแดง

              ก่อนเกิดผื่น : จะตรวจพบว่ามีจุดขาวเล็กๆ ในปาก หรือที่เรียกว่า Koplik spots
       ซึ่งเป็นสัญญาณส�าคัญของโรค
              ระยะผื่นขึ้น : ผื่นแดงเริ่มจากใบหน้าและกระจายลงล�าตัว

       ภาวะแทรกซ้อนที่ต้องระวัง

              แม้โรคหัดจะหายได้เองแต่บางคนอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น
                      -   ปอดอักเสบ     เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตที่ส�าคัญของผู้ป่วยโรคหัด โดยพบว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน

       ที่ร้ายแรงได้
                      - สมองอักเสบ อาจท�าให้เกิดอาการชักเกร็ง หมดสติ และสามารถท�าให้สมองถูกท�าลายเป็นการถาวรได้
                      - การติดเชื้อในหู อาจส่งผลให้สูญเสียการได้ยินถาวร

                      -     โรคสมองเสื่อมจากโรคหัด   (Subacute   Sclerosing  Panencephalitis, SSPE)   โดยจะพบในผู้ป่วยที่เคย
                                         เป็นหัดตอนเด็กและเกิดอาการหลังจากนั้นหลายปี

                                                   ซึ่งภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน มีหลักฐาน

                                         เชิงประจักษ์ พบว่าการให้วิตามินเอ ในเด็กอายุต�่ากว่า ๕ ปี สามารถลดความรุนแรง
                                         ของโรคได้  นอกจากนี้  การใช้เครื่องป้องกันส่วนบุคคล  (Personal  Protective

                                         Equipment, PPE) ยังช่วยป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลผู้ป่วยโรคหัดได้
                                         อีกด้วย

                                         ผู้ใหญ่ควรฉีดวัคซีนหรือไม่?
                                                  การติดเชื้อโรคหัดเกิดขึ้นได้กับบุคคลทุกช่วงอายุไม่ใช่เฉพาะกับเด็กเท่านั้น

                                         ดังนั้นการป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงต้องมีการฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่ โดยหากได้รับ

                                         วัคซีนครบ ๒ เข็ม จะสามารถป้องกันการป่วยเป็นโรคหัดได้ตลอดชีวิตในคนส่วนใหญ่


        หน้า ๙  ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๗ เล่มที่  ๓  เดือน มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17