Page 13 - nmdNewsletter-6109
P. 13
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
โครงการที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงในเรื่องใดๆ มีแนวทางที่แตกต่างกันไปมากมาย แต่ปัจจัยพื้นฐานที่นำาไปใช้ในกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลง
ให้ประสบความสำาเร็จได้นั้นเหมือนกันในทุกเรื่อง ถ้าตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆ เป็นเรื่องจำาเป็น เป็นสิ่ง
ที่ปรารถนา และสามารถทำาให้เกิดขึ้นจริงได้ อีกทั้งยอมรับที่จะพาตัวเองเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงแล้ว นั่นแปลว่าคุณพร้อม
แล้วที่จะก้าวสู่ขั้นตอนแรก
ปีเตอร์ เบนส์ อดีตนายตำารวจผู้ชำานาญการด้านการพิสูจน์หลักฐานจากนิว เซาธ์ เวลส์ ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยใน
ช่วงเวลาวิกฤติที่ถูกคลื่นสึนามิถล่มในปี 2004 เพื่อมาช่วยบ่งชี้อัตลักษณ์ของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายนั้น เขาตระหนักดีว่าต้องมีเด็กที่
สูญเสียพ่อแม่ไปในเหตุการณ์คราวนั้น และไร้พึ่งพา ดังนั้น มูลเหตุจูงใจของเขาก็คือ การก่อตั้งองค์กรการกุศลที่มีชื่อว่า Hands
Across the Water เพื่อหยิบยื่นความช่วยเหลือและเปลี่ยนชีวิตของเด็กๆ เหล่านั้นให้ดีขึ้น
แบ่งปันวิสัยทัศน์ร่วมกัน
ผู้นำาการเปลี่ยนแปลง หรือผู้ริเริ่มแนวคิดของการเปลี่ยนแปลง จำาเป็นต้องวาดภาพของอนาคตอันเกิดจากแนวคิดการ
เปลี่ยนแปลงนั้นให้ยิ่งใหญ่ (Big) ห้าวหาญ (Bold) และแจ่มชัด (Clear) การสร้างความกระจ่างให้ทุกคนนั้นจะช่วยไม่ให้เกิดความ
สับสนและความกลัว และช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความรู้สึกเชื่อมั่นในแนวคิดนั้น ข้อความหรือคำาพูดที่มีการสื่อออกไปนั้นต้อง
ชัดเจน เปิดกว้าง และไม่กลับไปกลับมา นอกจากนี้การเปิดโอกาสหรือช่องทางในการรับฟังความคิดเห็นจะช่วยให้คนที่เกี่ยวข้องได้
พิจารณาว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะสร้างผลกระทบกับพวกเขาได้อย่างไรบ้าง
การปรับใช้วัฒนธรรมในวิถีการเปลี่ยนแปลง
การสร้างนิสัยในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดีนั้นจำาเป็นต้องมีความยืดหยุ่นทางความคิดและมีความ
ตระหนักอยู่เสมอว่า การมีอคติทางความคิดของตัวเราเองนั้นสามารถส่งผลต่อความคิดของเราได้อย่างไร การพัฒนาความสามารถ
ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงถือเป็นเรื่องสำาคัญที่เราต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่จะผ่านเข้ามาอย่างต่อเนื่องในอนาคต
เราสามารถใช้ศาสตร์ทางด้านสมองเพื่อยกระดับมุมมองของเรา เกี่ยวกับแนวทางที่เราพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น
ได้ และนำากลยุทธ์ด้านการเปลี่ยนแปลงไปใช้ปฏิบัติให้เกิดประสิทธิผล การเปลี่ยนแปลงเปรียบเหมือนถนนสองเลน ดังนั้น การ
บริหารการเปลี่ยนแปลงจึงเป็นการเรียนรู้วิธีการลดการเกิดสภาวะอันเป็นอุปสรรคอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงใดๆ พร้อมกันนั้น
ก็ต้องควบคุมการตอบสนองทางอารมณ์ของตัวเราเองและคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย การเปลี่ยนแปลงยังถือเป็นเรื่องความรู้สึกของ
คนที่เกี่ยวข้องด้วย การสื่อสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอาจเป็นเรื่องยากและต้องใช้ความกล้าหาญพอสมควร แต่ถึงแม้ว่าจะยาก
ก็ตาม การสื่อสารที่ช่วยทำาความเข้าใจเหล่านี้จะช่วยยกระดับสภาวะมุ่งหมาย (towards state) ของการยอมรับและเห็นด้วยกับ
การเปลี่ยนแปลง ที่สมองรู้สึกพร้อมจะเข้าไปค้นหา เรียนรู้ และลุยไปด้วยกัน
ประโยชน์อย่างหนึ่งของนิสัยที่มีต่อสมองของเรานั้น คือ ช่วยลดความเครียดได้ เนื่องจากนิสัยโดยส่วนใหญ่ทำางานอยู่ใน
ระดับจิตใต้สำานึก เราไม่ต้องให้ความสนใจกับมันมาก ดังนั้น เราจึงไม่รู้สึกตึงเครียดกับสิ่งที่เรากำาลังทำาอยู่ การสร้างนิสัยเพื่อลด
ระดับความเครียดนั้นจึงเป็นเรื่องสำาคัญสำาหรับการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความตึงเครียดให้กับเราซึ่งสามารถเขียนสมการได้ ดังนี้
การเปลี่ยนแปลง = ความพยายามที่ต้องใช้ไปเพื่อนำานิสัยที่ต้องการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาพิจารณา
ในระดับจิตสำานึก + ความแน่วแน่ของการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนนิสัยนั้น
การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่ดี จะผลักดันให้เกิดการเติบโตและนวัตกรรม และขยายขอบเขตความคิดของเรา ยุคสมัยต่าง ๆ
มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ดังนั้น สมองของเราจำาเป็นต้องเปลี่ยนตามและปรับตัวให้ได้ด้วย
References
1. Brockis, J. (2015). Future Brain: The 12 Keys to Create Your High-performance Brain. John Wiley & Sons.
2. สัจจะ จรัสรุ่งรวีวร (2017) Future Brain : เปลี่ยนสมองทั้งทีอย่ามีดีแค่ฉลาดขึ้น. บริษัท ไอดีซี พรีเมียร์ จำากัด.
ติดตามต่อฉบับหน้า
ข่าวสารแพทย์นาวี ปีที่ ๖๐ เล่มที่ ๙ เดือน กันยายน พ.ศ.๒๕๖๑ หน้า ๑๐

