Page 21 - nmdNewsletter-6109
P. 21
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
ธรรมะกับคติธรรม
เรื่อง...น้ำ�ใจ
จากการบูรณาการทีมงานทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานต่างประเทศกว่า ๕๐ ทีม เป็นปรากฏการณ์รวม
พลัง “น้ำ�ใจ” ให้ความช่วยเหลือน้องๆนักกีฬาฟุตบอลทีมหมูป่าอาคาเดมีและโค้ชรวม ๑๓ ชีวิต ที่หายเข้าไปในถ้ำ�หลวง ขุนน้ำ�นาง
นอน พื้นที่บ้านจ้อง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๑ สามารถช่วยเหลือน้องๆ และโค้ช ออกมาจากถ้ำ�หลวง
อย่างปลอดภัย ถึงวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๑ รวมเวลาทั้งสิ้น ๑๗ วัน ท่ามกลางปัญหาอุปสรรคมากมายและสุดท้ายความสำาเร็จ
ทั้งปวงที่เกิดขึ้นมานั้น มาจากความรักความเมตตาต่อเพื่อนมุนษย์เป็นพื้นฐานคืออย่างที่เรามักเรียกสั้นๆ ว่า “น้ำ�ใจ” ความมีน้ำ�ใจนี้
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า สังคหวัตถุ ๔ หมายถึง เครื่องมือหรือหลักธรรม ๔ ประการ ที่ช่วยประสานคนหมู่มากให้อยู่
ร่วมกันอย่างมีความสุข เป็นเครื่องช่วยขจัดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทำาให้คนอยู่รวมกันด้วยความรัก เป็นธรรมะที่ก่อให้เกิดความผาสุก
ในบ้านเมือง และประเทศชาติประกอบด้วย
๑.ทาน การให้ คือการสงเคราะห์หรือช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการให้สิ่งของที่ตนมีให้แก่ผู้ที่ต้องการ ผู้ขาดแคลนหรือผู้เดือด
ร้อน ให้โดยสุจริตใจ คือผู้ให้ก็เป็นสุข อิ่มเอิบใจ ผู้รับก็สามารถบรรเทาทุกข์ความเดือดร้อน
๒.ปิยวาจา การใช้วาจาด้วยถ้อยคำาสุภาพ และถ้อยคำาที่มีประโยชน์ พูดด้วยถ้อยคำาที่เป็นจริง และถ้อยคำาที่ไม่กระทบกระ
ทั้งผู้อื่น พูดแต่ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ รู้จักกล่าวขอโทษ รู้จักกล่าวขอบคุณ เป็นต้น
๓.อัตถจริยา การประพฤติตนให้เป็นประโยชน์แก่ทั้งตนเอง และผู้อื่น รู้จักการเสียสละไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ความสุข
สบายส่วนตัว ทุ่มเทแรงกาย แรงใจในการบำาเพ็ญสาธารณประโยชน์ และช่วยเหลือผู้อื่น พร้อมรู้จักแก้ไขปัญหาด้วยปัญญา
๔.สมานัตตตา การวางตัวเหมาะสมต้นเสมอปลาย รู้จักวางตนให้เหมาะสมกับฐานะมีจิตใจมั่นคงไม่หวั่นไหวเปลี่ยนแปลง
ง่าย และดำารงตนให้เสมอเหมือนเท่าเทียมบุคคลอื่น อยู่ร่วมสุขร่วมทุกข์และร่วมแก้ไขปัญหากับเพื่อนร่วมงานในองค์กร
“น้ำ�ใจ” เกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อมนุษย์รู้จักให้ รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้จักที่จะเสียสละและให้ความช่วยเหลือผู้อื่น
ตามกำาลังที่ตนมี ผู้มีน้ำ�ใจมักจะได้รับน้ำ�ใจตอบแทน การทำาการสิ่งใดก็มักประสบผลสำาเร็จง่ายสมดังมโนปรารถนา อีกทั้งคนมี
น้ำ�ใจจะเป็นคนที่อยู่ในหัวใจของผู้อื่นเสมอ
เรื่อง...อคติ
ในการดำาเนินชีวิตของเรานั้น บางครั้งมีความจำาเป็นที่ต้องตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือ
ส่วนรวม ทั้งในการปฏิบัติหน้าที่ หรือการให้รางวัลตอบแทนแก่ผู้เกี่ยวข้อง ย่อมจะมีผู้ที่ชอบใจบ้าง และไม่ชอบใจบ้าง เป็นธรรมดา
สำาหรับผู้ที่ไม่ชอบใจก็อาจจะกล่าวว่า ปฏิบัติด้วย ๒ มาตรฐานหรือมีความอคติหรือไม่
คำาว่า “อคติ” แปลว่า ความลำาอียงตามหลักพระพุทธศาสนาได้กล่าวถึงสาเหตุที่ทำาให้เกิดความลำาเอียงไว้ ๔ ประการ คือ
๑.ฉันทาคติ ลำาเอียงเพราะความรัก หรือชอบพอกัน จะทำาพูดคิดสิ่งใด ก็ทำาพูดคิดด้วยอำานาจความพอใจรักใคร่กัน มิได้
พิจารณาถึงความเหมาะสมด้านอื่นเลย ซึ่งตรงกับภาษิตไทยที่ว่า “เลือกที่รัก ผลักที่ชัง”
๒.โทสาคติ ลำาเอียงเพราะความโกรธ เกลียดชัง หรือไม่ชอบกัน เช่น ในการตัดสินคดีความหรือข้อพิพาทต่างๆ ผู้ที่มี
โทสาคติจะใช้ความโกรธหรือเกลียดชังเป็นเหตุตัดสินผู้ที่ตนโกรธหรือเกลียดชังให้เป็นผู้พ่ายแพ้
๓.โมหาคติ ลำาเอียงเพราะความเขลา หรือหลงงมงาย โดยไม่มีการพิจารณาให้ถ่องแท้ว่าอย่างไรถูกอย่างไรผิด อย่างไร
ควร อย่างไรไม่ควร ส่งผลให้เกิดการตัดสินที่ผิดพลาด เช่น ผู้ใหญ่ตัดสินลงโทษผู้น้อย โดยที่ยังมิได้ไต่สวนหรือสอบสวนความผิด
ครบถ้วนจึงทำาให้เกิดผลเสียแก่ผู้น้อย หรือผู้เกี่ยวข้องได้
๔.ภยาคติ ลำาเอียงเพราะความกลัว คือ กลัวว่าจะมีภัยมาถึงตัว จึงไม่ทำาหน้าที่โดยความเป็นธรรม เช่นเจ้าหน้าที่พบเห็น
ผู้มีอำานาจทำาความผิด แต่ไม่กล้าเข้าจับกุม เพราะเกรงกลัวว่า จะทำาให้เขาไม่พอใจ แล้วอาจลงโทษตนในภายหลังได้
อคติทั้ง ๔ ประการนี้ เป็นต้นเหตุสำาคัญที่ทำาให้เกิดความอยุติธรรมขึ้นในสังคมทุกระดับ ส่งผลให้สังคมนั้น ๆ ขาดความ
อบอุ่น ขาดความมั่นใจ เกิดความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน และเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อความสามัคคี ปรองดองรวมถึงการพัฒนา
ด้านต่างๆ อีกมากมาย ดังนั้น พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้ทุกคนเว้นจากอคติและให้ทุกคนอยู่ร่วมกันด้วยความปรารถนาดีต่อ
กัน ยึดหลักความถูกต้องและตรงไปตรงมาอันจะส่งผลทำาให้สังคมมีแต่ความสงบสุขที่ยั่งยืนสืบไป
จัดทำาโดย กองอนุศาสนาจารย์ ยศ.ทร.
ข่าวสารแพทย์นาวี ปีที่ ๖๐ เล่มที่ ๙ เดือน กันยายน พ.ศ.๒๕๖๑ หน้า ๑๘

