Page 13 - 01-06-62
P. 13
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
ประวัติทางทันตกรรม (dental history) ผู้ป่วยอาจมีประวัติการแก้ไขการสบฟัน (occlusal adjustment) หลายครั้ง
โดยอาการดีขึ้นเพียงชั่วคราว มีโรคปริทันต์โดยมีกระดูกละลายมาก เมื่อกระดูกรอบรากลดลงท�าให้เกิดความเครียดเพิ่มบน
เนื้อฟัน เป็นปัจจัยให้เกิดฟันร้าวได้ และควรสอบถามประวัติการร้าวของฟันซี่อื่น เนื่องด้วยทั้งปัจจัยทางกายวิภาคและ
ลักษณะนิสัยบางอย่าง เช่น การกัดเน้นฟัน เคี้ยวน�้าแข็ง ปากกา ลูกอมแข็ง พฤติกรรมเหล่านี้ มักจะท�าให้เกิดฟันร้าวได้
มากกว่า ๑ ซี่ รวมถึงประวัติกัดสิ่งของแข็ง แล้วมีอาการเจ็บแปลบขึ้นมาในทันใด
ในการตรวจให้เริ่มจากผู้ป่วยชี้ในฟันที่มีอาการ แต่ทันตแพทย์มักจะพบว่า ผู้ป่วยไม่สามารถระบุฟันซี่ที่มีอาการได้
เสมอไป ทันตแพทย์สังเกตลักษณะใบหน้า ขนาดของกล้ามเนื้อบดเคี้ยว ซึ่งจะบ่งชี้ได้ถึงพฤติกรรมนอกหน้าที่ของฟัน (parafunction)
เช่น การนอนกัดฟัน (bruxism) การเค้นฟัน (clenching) สังเกตปุ่มฟันที่มีลักษณะสูงชัน เพราะอาจจะเป็นเหตุที่เสี่ยงต่อ
การเกิดฟันร้าว รอยร้าวที่มีสีเข้มแสดงว่าอยู่มานาน ดูรอยแตกของวัสดุอุดหรือรอยแยกที่ผิดปกติระหว่างวัสดุอุดและเนื้อฟันด้วย
การเคาะเป็นการตรวจที่มีประโยชน์ส�าหรับฟันร้าว โดยเฉพาะการเคาะใน
แนวเฉียง (angular percussion) ท�าให้เกิดการแยกของรอยแตกและของเหลวใน
ท่อเนื้อฟัน (dentinal tubule) ขยับเขยื้อน นอกจากนี้ยังมีการใช้ ทูทสลูท (tooth
slooth) ในการทดสอบการกัด (biting test) เพื่อตรวจหาฟันร้าว โดยวางเครื่องมือ
บนปุ่มฟันอันใดอันหนึ่งแล้วให้ผู้ป่วยกัดลงมาด้วยแรงปานกลางแล้วปล่อย อธิบาย
ให้ผู้ป่วยฟังว่า ต้องกัดเบาๆ ขบแน่นๆ และปล่อยไวๆ ควรลองกัดดูในฟันหลายๆ ซี่
โดยใช้ฟันซี่อื่นเป็นตัวควบคุม ทันตแพทย์ควรสังเกตดูสีหน้าของผู้ป่วยประกอบกับ
การกัด ถ้ามีสีหน้าที่เจ็บปวดให้ถามว่าความเจ็บปวดดังกล่าวนี้เหมือนที่เคยประสบ
มาหรือไม่อย่างไร ทันตแพทย์สามารถใช้หัวยางขัด (rubber wheel) แท่งไม้ หรือ
เครื่องมืออื่นๆ ในการทดสอบ ทูทสลูท (tooth slooth)
การกัดได้ ความเจ็บเวลากัดหรือเคี้ยว เป็นอาการที่ท�าให้สามารถสรุป
ได้ค่อนข้างแน่ชัดว่า มีรอยร้าวในระยะเริ่มแรก แต่การที่ผู้ป่วยกัดแล้ว
ไม่เจ็บ ไม่สามารถแปลผลได้ว่าไม่มีรอยร้าวเสมอไป การทดสอบความ
มีชีวิตของฟัน เป็นการวินิจฉัยสภาวะของเนื้อเยื่อในฟัน เนื่องจากการมี
รอยร้าวท�าให้เกิดรุกรานของแบคทีเรียเข้าไปในโพรงประสาทฟัน เป็นเหตุ
ให้เกิดพยาธิสภาพของเนื้อเยื่อในฟันและอวัยวะรอบรากฟันได้ การตรวจ
หาร่องลึกปริทันต์รอบๆ ตัวฟัน จะพบร่องลึกปริทันต์ที่เล็กและแคบ
การใช้ ทูทสลูท (tooth slooth) ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของฟันร้าว โดยพยาธิสภาพนี้เกิดจากการขยายตัว
รูปภาพจาก http://www.alluredental-tn.com/blog/ ของฟันร้าวเมื่อเวลาผ่านไป ในร่องลึกปริทันต์ที่เกิดจากรอยร้าวนี้ เครื่องมือ
จะไม่สามารถขยับไปในแนวซ้ายขวาได้ ท�าให้ง่ายต่อการแยกจากร่องลึกปริทันต์กว้าง อันมีสาเหตุมาจากโรคปริทันต์ นอกจากนี้
การเอาวัสดุบูรณะที่อยู่บริเวณด้านข้างของตัวฟันออกจะท�าให้การตรวจร่องลึกปริทันต์ท�าได้ง่ายขึ้น
ในภาพรังสี ๒ มิติ จะเห็นรอยร้าวได้ยาก รอยร้าวในแนวใกล้กลาง ไกลกลางจะไม่มีทางเห็นเลย ส่วนรอยร้าวแนว
แก้มลิ้น จะเห็นเมื่อมีชิ้นส่วนของฟันแตกออกมา หรือบังเอิญว่ารอยแตกอยู่แนวเดียวกับแนวรังสีพอดี แต่เราสามารถเห็น
ความเปลี่ยนแปลงในโพรงประสาทฟันและคลองรากฟันหรือเนื้อเยื่อรอบรากฟัน เมื่อมีการลุกลามของโรคมากขึ้น จะเห็น
การละลายตัวของกระดูกรอบรากฟัน ภาพรังสีจากมุมการถ่ายมากกว่า ๑ มุม หรือการถ่ายภาพรังสีแบบไบท์วิง (bite wing)
เพิ่มโอกาสที่จะเห็นร่องรอยจากฟันร้าวตั้งแต่ระยะเริ่มแรก เทคนิคใหม่ๆ เช่น cone-beam microcomputerized
tomography ก็มีประโยชน์มากในการวินิจฉัยได้ รอยเงาโปร่งรังสีเป็นแนวยาว โดยเฉพาะรูปวงรี รูปตัวเจ (J-shape) หรือ
รูปตัวยู (U-shape) ครอบคลุมถึงง่ามรากฟันหรือด้านข้างของตัวฟัน เป็นข้อมูลที่ประกอบและช่วยบ่งชี้ถึงรอยแตกได้
อ่านต่อฉบับหน้า
ข่าวสารแพทย์นาวี ปีที่ ๖๑ เล่มที่ ๖ เดือน มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๒ หน้า ๙

