Page 22 - 01-06-62
P. 22

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter





        ผลิตภัณฑ์ของนมทั้งหลาย  ขอแนะน�าให้บริโภคน้อยลง แต่เพิ่มสัดส่วนของผักใบเขียว ผลไม้ เมล็ดธัญพืชต่างๆ ที่ช่วยเรื่อง

        กากใยของอาหารให้มากขึ้น มีเหตุผลอธิบายได้ดังนี้ คือ มีงานวิจัยหลายรูปแบบได้พิสูจน์แล้วว่า การที่คนเรามีสารทีเอ็มเอโอ
        (Trimethylamine oxide) TMAO ในเลือดสูงนั้น จะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคที่เกี่ยวกับหัวใจทั้งหลาย เช่น หัวใจวาย
        เส้นเลือดหัวใจตีบตัน ท�าให้เกิด stroke หรือบางคนเรียกว่า สมองวาย (Brain attack) สารทีเอ็มเอโอนี้ได้มาจากไหน ก็ได้มา

        จากสิ่งที่เราบริโภค ก็คือ เนื้อแดง ไข่แดง และพวกไขมัน เพื่อให้เข้าใจลึกซึ้งลงไปอีกขั้นหนึ่ง ก็ชี้แจงได้ว่า  ขั้นตอนของการได้
        สาร TMAO มาอย่างไร เริ่มจากแบคทีเรียหลากหลายที่อยู่ในกระเพาะอาหาร ย่อยอาหารที่เรากินเข้าไป ท�าให้เกิดทีเอ็มเอ

        (TMA)  หลังจากนั้น  ตับก็จะท�าหน้าที่ย่อยสลายทีเอ็มเอให้เป็นทีเอ็มเอโอ  (TMAO)  โดยทีเอมเอโอนี่แหละครับ  ที่ท�าให้เกิด
        ความเสี่ยง  คราวนี้รู้แล้วนะครับว่า  เราควรลดการกินเนื้อแดง  ไข่แดงให้น้อยลง  เริ่มจัดการพฤติกรรมการกินนิดนึงก่อน
        แล้วค่อยเพิ่มมากขึ้นในระยะเวลาหนึ่งเดือนหลังจากนั้นก็จะรู้สึกว่าเราท�าได้ เปลี่ยนพฤติกรรมได้ และส่งผลให้ท�าเป็นนิสัยต่อไป

               อันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องเก่า พื้นฐานก็คือเรื่องการทาน
        อาหารเค็ม คงจะทราบกันดีว่าอาหารเค็มนั้น ตัวเค็มที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่

        มาจากธาตุโซเดียม ถ้ามีโซเดียมสูงในร่างกายโอกาสที่จะเกิดโรคความ
        ดันโลหิตสูง ก็จะมีมากขึ้นตามตัว และโรคความดันโลหิตสูงนี้ไม่มีสัญญาณ
        บอกเหตุอย่างชัดเจน ต้องวัดความดันจากเครื่องวัดอย่างเดียวถึงจะรู้ว่า

        เราผิดปกติหรือเปล่า  มันเป็นภัยเงียบที่เราไม่รู้ได้  ดังนั้นสิ่งที่ควร
        หลีกเลี่ยงได้ก็คือ  ลดอาหารเค็ม  การกินอาหารเค็มนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่

        หลายคนยังบอกว่า  ถ้าไม่มีพริกน�้าปลาในอาหารแต่ละมื้อ  ก็จะกินไม่
        อร่อย  ก็จริงครับ  แต่ว่าถ้าลดการบริโภคน�้าปลาให้ลดลงทีละนิดทีละนิด
        ก็ยังมีรสชาติอร่อยเหมือนกัน จากหลักฐานที่ปรากฏ โดยทั่วไปในแต่ละ

        วัน เราบริโภคโซเดียมนั้นประมาณ ๓,๔๐๐ มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งมากกว่า
        ครึ่งหนึ่งของค�าแนะน�า ของทางราชการ คือว่า ธาตุโซเดียมไม่ควรเกิน

        ๑,๕๐๐ มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งมากกว่าร้อยละ ๗๐ ของธาตุโซเดียมนั้นมา
        จากอาหารที่มีกรรมวิธีการผลิตในกระบวนการแปรรูป  ต้องมีการใส่สาร
        กันบูด  หรือใส่สารที่จะถนอมอาหารเอาไว้  ให้เก็บไว้ได้นานๆ  เช่น  ขนมปัง  ไส้กรอก  อาหารแช่แข็ง  อาหารหมักดอง  แช่อิ่ม

        อาหารกระป๋อง น�้าปลาเต้าเจี้ยว เป็นต้น ส�าหรับท่านที่กินผักบุ้งไฟแดงใส่เต้าเจี้ยวเค็มๆ อร่อยมาก อันนั้นน่ะครับ เค็มมากเลย
        ท�าให้โซเดียมในร่างกายก็สูงขึ้นมาเป็นเงาตามตัว  สิ่งที่อาจแก้ไขชั่วคราวได้  ก็คือต้องเพิ่มการบริโภคโปตัสเซียมให้มาก  ท�าให้

        สมดุลกับโซเดียมได้เพราะกระบวนการในร่างกาย   โปแตสเซียมโซเดียมมีการแลกเปลี่ยนเข้าออกในเนื้อเยื่อระดับเซลล์ของ
        ร่างกาย  ผลที่ตามมาก็คือจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจได้ระดับหนึ่ง
        จึงแนะน�าว่าบริโภคอาหารที่เรากินอยู่ทุกๆ  วันนี้ไม่จ�าเป็นต้องเติมเกลือ  เพิ่มน�้าปลาพริก  เพียงแค่นี้  ธาตุโซเดียมในกระแส

        เลือดก็พอแล้ว
               เป็นอันว่าการบริโภคอาหารนี้ ถ้าลดโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เพิ่มผักผลไม้ เป็นมังสวิรัติ เพิ่มความพอดี ความเหมาะสม

        กับวัย ถ้ามากเกินไปไม่เหมาะ น้อยเกินไปไม่ควร เพียงแค่พอดีอยู่ตรงกลางก็เหมาะสม สูงวัย ใส่ใจ สดใส สุขใจ















      หน้า ๑๘    ข่าวสารแพทย์นาวี   ปีที่ ๖๑  เล่มที่ ๖ เดือน มิถุนายน  พ.ศ.๒๕๖๒
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27