Page 27 - 01-08-62
P. 27

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter



              ผู้สูงวัย ๕๐ +











                    กินเพื่ออยู่หรืออยู่เพื่อกิน วัยนี้แล้ว เป็นครึ่งชีวิต
                   กินเพื่ออยู่หรืออยู่เพื่อกิน วัยนี้แล้ว เป็นครึ่งชีวิต




                                                                                 โดย...ศิษฏ์ชายชล  สุทธิพงศ์  MBA  RN


                   ครั้งหนึ่ง ครั้งหนึ่งจ�าได้หรือเปล่า ในช่วง ๕๐ ปีที่แล้วมา มีอะไรเกิดขึ้นกับท่านบ้างในตอนวัยเด็ก วัยนักเรียน
            ชั้นประถม มัธยม หรือมหาวิทยาลัย ท่านคงเคยมีการโต้วาที โต้เถียง หรือโต้แย้งว่า ไข่กับไก่อย่างไหนเกิดก่อน ต่างคนต่าง

            ความเห็น หาเหตุและผลมาสนับสนุนแนวความคิดของตัวเองอย่างมากมาย แต่ที่จะคุยกันวันนี้ไม่ใช่การโต้วาที แต่อยากถามว่า
            ท่านเห็นด้วยกับค�าค�าว่า “ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ไข”  หรือไม่ ค�าพังเพยที่คุ้นหู ก็คือ “วัวหายล้อมคอก” จ�าได้ว่าโคลงสี่สุภาพ
            บทหนึ่ง แต่จ�าผู้ประพันธ์ไม่ได้ เขียนได้ดังนี้

                          วัวหายล้อมคอก กันวัว
                          บ่เห็นวัวสักตัว คิดล้อม

                          แต่ก่อนบ่ห่อนกลัว วัวจัก หายนา...
                   ป้องกันเอาไว้ดีกว่าการแก้ไข เตรียมตั้งรับให้พร้อม ยามสงบเราพร้อม ยามศึกเราสู้ เห็นด้วยหรือยังครับ กับการป้องกัน
            ในที่นี้คือการป้องกันโรคบางชนิด ที่มีแนวโน้มน่าจะเกิดขึ้นกับผู้สูงวัยที่อายุเกิน ๕๐ ปีขึ้นไป วัคซีนจึงมีความจ�าเป็น ถึงแม้ว่า

            วัยเด็กจ�าได้ว่าฉีดวัคซีนไปแล้ว แต่เวลาผ่านไปภูมิคุ้มกันก็ถดถอย ไปตามวัยเช่นกัน มีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์
            แนะน�าว่า  ผู้สูงวัยควรจะฉีดวัคซีนประมาณสี่ชนิด  และเพิ่มอีกสองชนิด  ตามความเสี่ยงที่เกิดขึ้น  ได้แก่  วัคซีนไข้หวัดใหญ่

            วัคซีนปอดบวม  วัคซีนบาดทะยัก  คอตีบ  ไอกรน  วัคซีนงูสวัด  ส่วนห้ากับหกนั้นคือ  วัคซีนตับอักเสบชนิดเอ  และชนิดบี
            ซึ่งประเทศไทยของเราอยู่ในกลุ่มเสี่ยง
                   วัคซีนไข้หวัดใหญ่  ควรฉีดปีละหนึ่งครั้งตาม

            ฤดูกาลในประเทศไทยซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือน
            ตุลาคม ในแต่ละประเทศการระบาดไข้หวัดใหญ่นั้นต่างกัน

            ออกไป  ซึ่งแต่ละปีสายพันธุ์ไวรัสจะเปลี่ยนไปทุกๆ  ปี
            นักวิจัยก็ต้องคาดเดาว่าสายพันธุ์ไหนจะระบาดมาก
            ในฤดูกาลนั้นนั้น และผลิตวัคซีนขึ้นมาป้องกันได้ทันท่วงที

            ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เสียแต่เนิน เนื่องจากจะต้อง
            ใช้เวลาประมาณสองอาทิตย์  ก่อนที่ร่างกายของเรา

            จะสร้างภูมิคุ้มกัน ต่อต้านโรคไข้หวัดใหญ่ ท่านที่ได้รับ
            การฉีดวัคซีนนี้ก็สามารถป้องกันโรคได้ร้อยละ ๔๐ ถึง ๖๐ ถ้าท่านแพ้อาหารโดยเฉพาะไข่ จะมีปฏิกิริยารุนแรงกับท่าน จึงต้องควร
            ปรึกษาแพทย์ก่อน

                   วัคซีนปอดบวม แนะน�าส�าหรับท่านที่มีอายุ ๖๕ ปีขึ้นไป หรือถ้าเกิดอายุต�่ากว่าก็ต้องเป็นคนที่มีความเสี่ยงสูง เช่น
            สูบบุหรี่โรคปอด โรคหัวใจ เม็ดเลือดขาวเป็นพิษต่อมน�้าเหลือง หรือพิษสุราเรื้อรัง วัคซีนมี ๒ ชนิด คือ PCV13 หลังจากฉีด

            ได้ ๑ ปี ให้ฉีดวัคซีนชนิดที่ ๒ PCV23 วัคซีนปอดบวมนี้สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ประมาณ ๕ ปี ดังนั้นจึงต้องฉีดทุกๆ ๕ ปี


                                                      ข่าวสารแพทย์นาวี   ปีที่ ๖๑  เล่มที่ ๘ เดือน สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๒ หน้า ๒๐
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32