Page 10 - 12DEC63
P. 10

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter




                                        รางวัลเลิศรัฐ ประจ�าปี ๒๕๖๓
                           สาขาการบริการภาครัฐ ประเภทนวัตกรรมการบริการ ระดับดีเด่น
                               ตู้ฉากตะกั่วป้องกันรังสีต้านมะเร็ง



                                (Rayless radioprotective cabin)


                           โดย...น.อ.เถลิงเกียรติ  แจ่มอุลิตรัตน์ รังสีแพทย์/รองหัวหน้ากลุ่มงานรังสีวิทยา รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า พร.


       ๑. การวิเคราะห์ปัญหา
              ๑.๑ ความเป็นมาและความส�าคัญของปัญหา
              ปัจจุบันมีความก้าวหน้าทางการแพทย์มากขึ้น มีวิธีการวินิจฉัยหรือรักษาผู้ป่วยได้หลากหลายวิธี และหนึ่งในนั้น คือการใช้

       รังสีร่วมรักษา ซึ่งเป็นการวินิจฉัยที่ถูกต้องชัดเจน ผู้ป่วยเจ็บน้อยกว่าการผ่าตัด แต่ได้ผลดีเท่ากัน จึงเป็นที่นิยมในวงการแพทย์ปัจจุบัน
       การท�างานของหน่วยรังสีร่วมรักษา  คือให้บริการในการรักษาผู้ป่วยในห้องปฏิบัติการสวนหลอดเลือดทั้งในส่วนของสมองและล�าตัว

       ให้กับผู้ป่วย  โดยใช้รังสีเอกซ์ ในการวินิจฉัยและท�าการรักษาผู้ป่วย  ซึ่งจ�านวนผู้ป่วยของ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า พร. มีประมาณ
       ๑๗๐ รายต่อปี ซึ่งในระหว่างขั้นตอนที่ท�าการรักษา บุคลากรทางการแพทย์จะต้องได้รับรังสีเป็นเวลา ๕ - ๖ ชม ในทุกวันจากการท�า
       หัตถการ และต้องสวมใส่ชุดตะกั่วที่มีน�้าหนัก ๗ - ๑๐ กิโลกรัม เพื่อป้องกันอันตรายจากรังสี แต่รังสีอาจจะกระเจิง (Scatter
       Radiation) มาถึงส่วนอื่นๆ ของร่างกายที่ไม่มีเครื่องก�าบัง เช่น เลนส์ตา ผิวหนังบริเวณที่อยู่นอกเครื่องก�าบัง ท�าให้เสี่ยงต่อการ

       เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
              นอกจากนั้นในปัจจุบันนี้ยังพบอีกว่าบุคลากรทางการแพทย์ส่วนหนึ่งที่ท�างานเกี่ยวกับทางด้านรังสี  ได้รับผลกระทบ

       ในระยะยาวจากการแผ่รังสี  มีการเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นจากโรคมะเร็ง  โรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลังจากการสวมใส่ชุดตะกั่วเป็นเวลานาน
       และโรคต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งเกิดจากผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการแผ่ของรังสีทั้งนั้น
              ๑.๒ แสดงและอธิบายถึงขั้นตอน/กระบวนการเดิม ก่อนมีการพัฒนาว่าเป็นอย่างไร

              วิธีป้องกันรังสีของบุคลากรทางการแพทย์ขณะท�าหัตถการนั้น โดยทั่วๆ ไปที่นิยมใช้คือ การสวมใส่ชุดตะกั่วและ Thyroid
       shield  เพื่อป้องกันรังสี ซึ่งเสื้อตะกั่วและ Thyroid shield ที่สวมใส่นั้น มีความหนาแค่ 0.25 – 0.5 mm Lead equivalence เท่านั้น
       หมายความว่า มีความสามารถในการป้องกันรังสีเทียบเท่าตะกั่วหนาแค่ ๐.๒๕ – ๐.๕ มิลลิเมตรเท่านั้น แต่มีน�้าหนักมากถึง ๗ - ๑๐

       กิโลกรัม นอกจากนี้ยังป้องกันอันตรายได้แค่รังสีที่มาจากด้านหน้า (Primary beam) แต่ไม่สามารถป้องกันรังสีกระเจิง (Scatter
       radiation) จากทางด้านบนและด้านข้างได้
              ๑.๓ ปัญหามีขอบเขตหรือผลกระทบในระดับใด เช่น ระดับพื้นที่ หน่วยงาน ระดับภูมิภาค ระดับประเทศ  เป็นต้น

       โปรดอธิบายข้อมูลประกอบ รวมทั้งระบุประชาชนหรือผู้รับบริการที่ได้รับผลกระทบ (เป็นใคร จ�านวนเท่าใด)
                     ในปัจจุบันบุคลากรทางการแพทย์  ไม่ว่าจะเป็นแพทย์  พยาบาล  นักรังสีเทคนิค  เป็นวิชาชีพที่ขาดแคลน

       เป็นจ�านวนมาก ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์เหล่านี้ ส่วนหนึ่งต้องท�างานเกี่ยวข้องกับการแผ่รังสีและต้องสัมผัสกับรังสีเป็นเวลานาน ซึ่ง
                                                     หากมีอุปกรณ์ป้องกันรังสีที่ไม่ดีพอแล้วนั้น  จะส่งผลต่อสุขภาพของพวก
                                                     เขาในระยะยาว  มีการเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นจากจากโรคมะเร็ง  โรคเกี่ยวกับ
                                                     กระดูกสันหลังจากการสวมใส่ชุดตะกั่วเป็นเวลานาน  และโรคต่างๆ  อีก

                                                     มากมาย  ซึ่งจากสถิติรายงานการเกิดอุบัติการณ์จากการสัมผัสรังสีที่
                                                     เกินขนาด ตั้งแต่ปี ค.ศ.1980 - ค.ศ.2013 (Coeytaux K, Bey E, Chris-
                                                     tensen D, Glassman ES, Murdock B, Doucet C. Reported radiation

                                                     overexposure accidents worldwide, 1980-2013) พบว่ามีจ�านวน
                                                     อุบัติการณ์ด้านการแพทย์ทั้งสิ้น ๓๙๖ รายงาน และมีแนวโน้มเพิ่มมาก



       หน้า ๘   ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๒ เล่มที่  ๑๒ เดือน ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๓
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15