Page 11 - 12DEC63
P. 11

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter



           ขึ้นเรื่อยๆ  ซึ่งเป็นปัญหาระดับประเทศ  ซึ่งเมื่อบุคลากรเหล่านี้ ที่มีจ�านวนน้อยอยู่แล้ว มีการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตจากการมีอุปกรณ์
           ป้องกันรังสีที่ไม่ดีพอแล้วนั้น ท�าให้บุคลากรทางแพทย์เหล่านี้มีจ�านวนน้อยลงไปอีก ส่งผลให้ขาดแคลนวิชาชีพที่จะช่วยดูแลรักษาผู้ป่วย
           ซึ่งหากเรามีอุปกรณ์ป้องกันรังสีที่มีประสิทธิภาพแล้วนั้น จะช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์มีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ
           จากการได้รับรังสี ท�าให้มีโอกาสรักษาผู้ป่วยได้มากขึ้น ผู้ป่วยก็จะมีโอกาสหายขาดได้มากขึ้น และมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นด้วยเช่นกัน

           ๒ แนวทางการแก้ไขปัญหาและการน�าไปปฏิบัติ/โอกาสในการพัฒนา
                  ๑. อธิบายแนวคิด/นวัตกรรมในการแก้ไขปัญหา หรือโอกาสในการพัฒนาจากปัญหา โดยเน้นแนวคิด/นวัตกรรมที่มีความแตกต่าง

           จากหน่วยงานอื่นๆ หรือหน่วยงานในสังกัดเดียวกันแต่ต่างพื้นที่ รวมถึงแสดงขั้นตอนการปรับปรุงหรือพัฒนาที่แตกต่างจากข้อ ๑.๒
                  จากปัญหาดังกล่าว จึงได้มีการคิดนวัตกรรม ตู้ป้องกันรังสีขึ้น ซึ่งถูกออกแบบและประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อเพิ่มสมรรถภาพในการ
           ป้องกันรังสีได้มากขึ้น โดยลดปริมาณรังสีทั้งจากด้านหน้า (Primary beam) และรังสีกระเจิง (Scatter radiation) ได้  นอกจากนั้น
           ยังลดภาระงานของกระดูกสันหลังของบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องสวมใส่ชุดป้องกันรังสีที่มีน�้าหนักมากต่อเนื่องเป็นเวลานานวันละ

           ๕ - ๖ ชั่วโมง
                  ในส่วนของระบบขับเคลื่อนใช้ล้อที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๑๕๐ มิลลิเมตร ท�าให้สามารถเคลื่อนไหว

           ได้อย่างสะดวกโดยในการประดิษฐ์นวัตกรรมชิ้นนี้ได้ใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงทั้งกระจกที่ฉาบตะกั่วและแผ่นตะกั่วที่หนาถึง  ๒.๒  มิลลิเมตร
           (2.2 mm Lead equivalence) ซึ่งหนาที่สุดในขณะนี้โดยประกอบเป็นโครงสร้างลักษณะของตู้กั้นรังสี (Rayless Radioprotective
           Cabin) และรวมถึงใช้วัสดุโครงอลูมิเนียมอุตสาหกรรมเป็นลักษณะกรอบส�าเร็จรูปที่ได้มาตรฐานประกอบเป็นโครงสร้างของ
           Radioprotective Cabin โดยใช้หลักการประกอบโครงสร้างตามหลักทางวิศวกรรม

                  จุดเด่นของตู้ป้องกันรังสี  Rayless  radioprotective
           cabin คือ ท�าจากตะกั่วที่หนาที่สุดที่มีในท้องตลาด ซึ่งหนาถึง ๒.๒

           มิลลิเมตรตะกั่ว สามารถป้องกันรังสีได้มากกว่าชุดตะกั่วที่มีความหนา
           แค่ ๐.๒๕ – ๐.๕ มิลลิเมตรตะกั่ว และหนากว่าประตูตะกั่วที่มี
           ความหนาแค่ ๒.๐ มิลลิเมตรตะกั่ว อีกทั้งยังสามารถเคลื่อนที่ได้
           ขณะใช้งาน โดยมีช่องให้มือสอดเข้าไป ผู้ใช้สามารถใช้งานตู้ป้องกัน

           รังสีนี้ได้โดยไม่ต้องสวมชุดตะกั่วอีก  นวัตกรรมนี้  เป็นอุปกรณ์
           ทางการแพทย์ที่ได้รับการประกอบในประเทศไทยร่วมกับวัสดุ
           น�าเข้าคุณภาพสูง  จึงสามารถประกอบขึ้นมาได้ในราคาที่สมเหตุ

           สมผล  สอดคล้องกับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย
           ลดภาวะการณ์ขาดดุลทางการค้าที่ต้องน�าเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์
           ที่ราคาแพงมากจากต่างประเทศ ซึ่งอุปกรณ์ป้องรังสีที่มีลักษณะ

           ท�างานใกล้เคียงกัน ยังไม่มีผลิตขึ้นเองในประเทศไทย ยังต้องมี
           การน�าเข้าจากต่างประเทศ จึงท�าให้มีราคาที่สูงกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบกับนวัตกรรมชิ้นนี้ โดยราคาของอุปกรณ์กั้นรังสีจากต่างประเทศ
           ในลักษณะคล้ายกับ Radioprotective cabin มีราคาสูงถึง ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท แต่ราคาของ Rayless radioprotective cabin

           ชิ้นนี้มีราคาเพียงแค่หลักแสนเท่านั้น
                  ๒  . แสดงและอธิบายถึงขั้นตอน/กระบวนการให้บริการหลังปรับปรุง/พัฒนา ว่าเป็นอย่างไร รวมถึงอธิบายวิธีการน�าไปปฏิบัติ ว่ามี
           กระบวนการหรือขั้นตอนอย่างไร มีกลุ่มหรือภาคส่วนใดเข้ามาเกี่ยวข้องในขั้นตอนใดบ้าง อย่างไร

                  ตู้ตะกั่วป้องกันรังสีนี้  น�ามาใช้งานในการท�าหัตถการจริงในห้องรังสีร่วมรักษา  รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า  พร.  โดยแพทย์ผู้ท�า
           หัตถการสามารถใช้งานตู้นี้ได้โดยไม่ต้องสวมใส่ชุดตะกั่ว  เนื่องจากมีใบรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้วว่าตู้ตะกั่วป้องกัน
           รังสีนี้ สามารถป้องกันรังสีได้เท่ากับตะกั่วหนา ๒.๒ มิลลิเมตร ซึ่งเทียบเท่ากับสวมชุดตะกั่วถึง ๙ ตัวเลยทีเดียว และมีล้ออุตสาหกรรม

           รองรับน�้าหนักของตู้ ช่วยให้เคลื่อนไหวสะดวก แพทย์ผู้ท�าหัตถการจึงไม่ต้องแบกรับน�้าหนักของอุปกรณ์ป้องกันรังสี และสามารถ
           ป้องกันรังสีได้  ทั้งทางตรงและรังสีกระเจิงจากด้านบนและด้านข้างได้อีกด้วย
                                                                                              อ่านต่อฉบับหน้า

                                              ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๒ เล่มที่  ๑๒ เดือน ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๓  หน้า ๙
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16