Page 14 - ข่าวสารฯ ฉบับ 6302 ก.พ.๖๓
P. 14

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter





                                                                            PM 2.5



                                                                  กับผลกระทบทางสมอง




                      โดย... น.ต.หญิง เบญจภัค สางห้วยไพร นักวิชาการสาธารณสุข กองเวชกรรมป้องกัน กรมแพทย์ทหารเรือ


               เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ยังคงมีค่าดัชนีคุณภาพอากาศขึ้นลงเป็นช่วงๆ จึงขอน�าเสนอ
        ความรู้เรื่องค่าดัชนีคุณภาพอากาศ และผลกระทบทางสมองของ PM2.5

               ดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI) เป็นการรายงานข้อมูลคุณภาพอากาศในรูปแบบที่ง่าย
        ต่อความเข้าใจของประชาชนทั่วไป เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนได้รับทราบถึงสถานการณ์มลพิษทางอากาศ

        ในแต่ละพื้นที่ว่าอยู่ในระดับใด มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยหรือไม่ ดัชนีคุณภาพอากาศ ๑ ค่า ใช้เป็นตัวแทนค่าความเข้มข้น
        ของสารมลพิษทางอากาศ ๖ ชนิด ได้แก่
               ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน (PM2.5) เป็นฝุ่นที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน เกิดจาก

        การเผาไหม้ทั้งจากยานพาหนะ การเผาวัสดุการเกษตร ไฟป่า และกระบวนการอุตสาหกรรม สามารถเข้าไปถึงถุงลมใน
        ปอดได้  เป็นผลท�าให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ  และโรคปอดต่างๆ  หากได้รับในปริมาณมากหรือเป็นเวลานานจะ

        สะสมในเนื้อเยื่อปอด ท�าให้การท�างานของปอดเสื่อมประสิทธิภาพลง ท�าให้หลอดลมอักเสบ มีอาการหอบหืด
               ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน ๑๐ ไมครอน (PM10) เป็นฝุ่นที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน ๑๐ ไมครอน เกิดจาก
        การเผาไหม้เชื้อเพลิง การเผาในที่โล่ง กระบวนการอุตสาหกรรม การบด การโม่ หรือการท�าให้เป็นผงจากการก่อสร้าง

        ส่งผลกระทบต่อสุขภาพเนื่องจากเมื่อหายใจเข้าไปสามารถเข้าไปสะสมในระบบทางเดินหายใจ
               ก๊าซโอโซน  (O )  เป็นก๊าซที่ไม่มีสีหรือมีสีฟ้าอ่อน  มีกลิ่นฉุน  ละลายน�้าได้เล็กน้อย  เกิดขึ้นได้ทั้งในระดับ
                               3
        บรรยากาศชั้นที่สูงจากผิวโลก  และระดับชั้นบรรยากาศผิวโลกที่ใกล้พื้นดิน  ก๊าซโอโซนที่เป็นสารมลพิษทางอากาศคือ
        ก๊าซโอโซนในชั้นบรรยากาศผิวโลก เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย
        โดยมีแสงแดดเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยก่อให้เกิดการระคายเคืองตาและระคายเคืองต่อระบบ

        ทางเดินหายใจและเยื่อบุต่างๆ ความสามารถในการท�างานของปอดลดลง เหนื่อยเร็ว โดยเฉพาะในเด็ก คนชรา และคนที่
        เป็นโรคปอดเรื้อรัง

               ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) เป็นก๊าซที่ไม่มีสี กลิ่น และรส เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเชื้อเพลิง
        ที่มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบ ก๊าซนี้สามารถสะสมอยู่ในร่างกายได้โดยจะไปรวมตัวกับฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงได้ดีกว่า
        ออกซิเจนประมาณ  ๒๐๐-๒๕๐  เท่า  เมื่อหายใจเข้าไปท�าให้ก๊าซชนิดนี้จะไปแย่งจับกับฮีโมโกลบินในเลือด  เกิดเป็น

        คาร์บอกซีฮีโมโกลบิน (CoHb) ท�าให้การล�าเลียงออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่างๆ ของร่างกายลดน้อยลง ส่งผลให้ร่างกายเกิด
        อาการอ่อนเพลีย และหัวใจท�างานหนักขึ้น

               ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO ) เป็นก๊าซที่ไม่มีสีและกลิ่น ละลายน�้าได้เล็กน้อย มีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ
                                               2
        หรือเกิดจากการกระท�าของมนุษย์ เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ อุตสาหกรรมบางชนิด เป็นต้น ก๊าซนี้มีผลต่อระบบ
        การมองเห็นและผู้ที่มีอาการหอบหืดหรือโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ

               ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO ) เป็นก๊าซที่ไม่มีสี หรืออาจมีสีเหลืองอ่อนๆ มีรสและกลิ่นที่ระดับความเข้มข้นสูง
                                            2
        เกิดจากธรรมชาติและการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่มีก�ามะถัน (ซัลเฟอร์) เป็นส่วนประกอบ สามารถละลายน�้าได้ดี สามารถรวมตัวกับ

        สารมลพิษอื่นแล้วก่อตัวเป็นอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กได้ ก๊าซนี้มีผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ ท�าให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตา
        ผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจ หากได้รับเป็นเวลานานๆ จะท�าให้เป็นโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังได้



          หน้า ๙  ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๒ เล่มที่  ๒  เดือน กุมภาพันธ์  พ.ศ.๒๕๖๓
   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19