Page 18 - 1march63
P. 18

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter




                มีรายงานว่าโซเดียมนั้นท�าให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นเดียวกัน คือ

         อาจมีผื่นแดงหรือน�้ามูกไหล คือบางคนไม่สามารถต้านความเค็มได้ ส่งผล
         ให้เกิดสภาพเป็นกรดท�าให้มีอาการแพ้ขึ้นมา มีข้อมูลที่น่าสนใจว่า

         เกลือโซเดียมนั้นน�ามาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ถึง ๙๓% แต่น�ามาใช้ใน
         การเก็บถนอมอาหารเพียง ๖% เท่านั้น แต่ทั้งหลายก็เข้าสู่รูปแบบต่างๆ
         ในการกินเข้าร่างกาย

                ดังที่กล่าวมาแล้วว่ามีโซเดียมมากไปไม่ดี มีน้อยไปไม่ได้ ควรจะต้องพอดีในแต่ละวัน ปัญหาส่วนใหญ่ของเราจะไม่ค่อย
         มีโซเดียมที่น้อยไปเท่าไหร่ มีแต่มากเกินไป ส่วนในรายที่มีโซเดียมน้อยนั้น ให้นึกถึงว่าการเคลื่อนย้ายสัญญาณระบบประสาท

         ระหว่างเซลล์ลดลง การสมดุลย์เปลี่ยนถ่ายของเหลวหรือน�าพาแร่ธาตุอื่นๆ เช่น แคลเซี่ยม โปแตสเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส
         เป็นต้น นั้นลดลง ท�าให้มีการขาดธาตุอาหารอื่นๆ ในระดับเซลล์อีก โซเดียมน้อยอาจจะส่งผลในเรื่องของการนอนหลับ โดยมี
         ฮอร์โมนที่ท�าให้เกิดความเครียดมากขึ้น นั่นเป็นข้อดีของโซเดียมในร่างกาย

                                       จากการศึกษาพบว่า  เป้าหมายใหญ่ๆ ของการบริโภคโซเดียมในแต่ละวันอยู่ที่ ๑.๕ กรัม
                              หรือ ๑,๕๐๐ มิลลิกรัม ซึ่งแนะน�าจาก สมาคมหัวใจอเมริกา และท�าการค้นคว้าต่อไปอีกว่า เพียงแค่

                              ระดับความจ�าเป็นของอวัยวะ หรือร่างกายต้องการจ�านวนโซเดียม ๐.๕ กรัมหรือ ๕๐๐ มิลลิกรัม
                              ต่อวัน ก็เพียงพอกับร่างกายแล้ว (ให้ท่านลองนึกถึงเพียงแค่ หนึ่งส่วนสี่ของช้อนชาเท่านั้นน้อย
                              มากๆ เลยใช่ไหมครับ) ๗๐% นั้นมาจากการบริโภคอาหาร ของว่างรูปต่างๆ ที่มีผงชูรส หรือสารกันบูด

                                        เช่น ขนมขบเคี้ยว อบกรอบ มันฝรั่งทอด รวมถึง สาหร่ายอบกรอบ และอื่นๆ
                                        อีกมากมาย โดยเฉลี่ยคนอเมริกันบริโภคโซเดียมประมาณ ๓.๔ กรัมต่อวัน คนไทย

                                        ก็คงไม่หนีไปไหน พอๆ กันกับอเมริกัน มีมันฝรั่งทอด หรือเฟรนด์ฟาย แต่คนไทยก็มี
                                        น�้าปลาเกือบทุกมื้อ  พริกน�้าปลา  เป็นอะไรที่เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว  ประกอบกับการกิน
                                        อาหารนอกบ้าน  คืออาหารตามสั่ง  ซึ่งเขามักจะรักษาความเค็มของการปรุงอาหาร

                                        เกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นน�้าปลาเพิ่มปรุงรส เกลือบ้าง เต้าเจี้ยว น�้ามันหอย ซีอิ๊วอีก
         หลากหลาย เกือบจะพูดได้ว่า อาหารที่ร้านอาหารตามสั่งเกือบทุกร้านใช้ความเค็มยืนพื้น ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดแบบหนึ่ง

         ในการปรุงอาหาร
              ทั้งหลายทั้งปวงนี้ อยากให้ผู้อ่าน ลดการบริโภคโซเดียม โดยไม่ต้องคิดค�านวณว่าจะบริโภคไม่พอในแต่ละวัน ยุ่งยากใน
         การดูฉลากอาหารแต่ละวัน ว่ามีจ�านวนโซเดียมกี่มิลลิกรัมในการบริโภคต่อหนึ่งส่วน ปวดเศียรแน่ๆ คิดยังไง คิดง่ายๆ

         ปรุงท�าอาหารไปกินเองที่ท�างานดีกว่าไหม หรือถ้าไม่มีเวลา เหมือนกับแม่บ้านถุงพลาสติก ซึ่งจะมีการดูแลเรื่องโซเดียมในอาหาร
         กับข้าว  ก็จะน้อยลงถ้าเป็นอาหารตามสั่ง  อาหารส�าเร็จรูปนั้น  ก็พึงระวังให้มากๆ  ให้ตัวอย่างเป็นว่า  เวลาสั่งอาหาร  ก็บอก

         เจ้าของร้านว่า ไม่ใส่ชูรส ใส่น�้าปลาน้อยๆ ไม่เค็ม หรือเค็มน้อย แต่ก็ยังคงมีบ้างแหละ ที่ติดมากับน�้าสต๊อก หรือส่วนประกอบอื่นๆ
         ในการปรุงรส เช่น น�้าต้มกระดูกไก่ น�้าต้มกระดูกหมู ผงรสดี ผงปรุงรสต่างๆ ที่อยู่ในน�้า ผักกาดดองกระป๋อง ของดอง อาหาร
         กระป๋อง สารกันบูดต่างๆ ที่อยู่ในเครื่องกระป๋องทั้งหลาย เหล่านี้ก็มีโซเดียมจากผงชูรสกันอยู่แล้ว ก็ห้ามไม่ได้ แต่ปรุงอาหารใหม่

         ก็อย่าเพิ่มเข้าไปก็แล้วกัน พิจารณาตัดสินใจ
              เปลี่ยนแนวความคิดมาบริโภค ผัก ผลไม้ เมล็ดธัญพืช และโปรตีนจากพืชมากกว่าโปรตีนจากสัตว์ เนื้อปลาก็จะเป็น

         ประโยชน์มาก เพียงแค่เริ่มคิด และปฏิบัติสักวันสองวัน เพื่อสร้างความรู้สึกที่ดี ต่อรสชาดอาหาร หลังจากนั้นก็เริ่มเป็นอาทิตย์
         หรือทุกวัน เพียงเท่านี้ ท่านก็ไม่ต้องค�านวณจ�านวนโซเดียมของแต่ละวัน แล้วก็ยังลดความเสี่ยง ลดการเกิดโรคไต ความดัน
         หัวใจ ได้มากโขทีเดียว พึงระลึกว่า การด�าเนินชีวิตอย่างมีสติ พึงอยู่ด้วยความไม่ประมาท และรู้จักประมาณตนเอง คือ

         แนวทาง วิถีพุทธโดยแท้ สาธุ สาธุ




        หน้า ๑๕     ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๒ เล่มที่  ๓  เดือน มีนาคม  พ.ศ.๒๕๖๓
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23