Page 9 - 1march63
P. 9
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
โดยฉีดวันละครั้งก่อนนอนหรือบางตัวฉีดสัปดาห์ละครั้ง นอกจากมีฤทธิ์ในการลดระดับน�้าตาลและลดน�้าหนักโดยผ่านกลไก
ท�าให้คลื่นไส้อาเจียน ลดความอยากอาหาร (decrease appetite) เพิ่มการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน (insulin) และลดการหลั่ง
ฮอร์โมนกลูคากอน (glucagon) จากตับอ่อน ท�าให้ระดับน�้าตาลลดลง นอกจากนี้ยังท�าให้กระเพาะอาหารบีบตัวย่อยอาหาร
ได้ช้าลง (Increase gastric emptying) ท�าให้อิ่มนาน ดังนั้นยากลุ่มนี้นอกจากลดน�้าตาลได้ดีโดยไม่เกิดน�้าตาลต�่าแล้ว
ยังมีฤทธิ์ลดน�้าหนักได้ ๒ - ๕ กก. นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต ลดกรดยูริก ลดไขมันเกาะตับได้ด้วย ข้อดี
ที่ส�าคัญจากการศึกษาวิจัยในต่างประเทศพบว่ายากลุ่มนี้สามารถลดการเกิด diabetic nephropathy (ลด proteinuria,
ลด doubling of serum creatitine), ลดการเกิด ESRD, ลดอัตราการเสียชีวิตรวมจากโรคหัวใจและหลอดเลือด
(MACE; Major adverse cardiovascular event คือ ลดหัวใจขาดเลือด, ลดหัวใจล้มเหลว), ลดอัตราการนอน รพ.
ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว ท�าให้ในปี ๒๕๖๑ สมาพันธ์การรักษาเบาหวานนานาชาติบรรจุยาในกลุ่ม SGLT2 inhibitor
และ GLP-1 receptor agonist ให้ใช้ในผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะหรือมีปัจจัยเสี่ยงสูงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดและมีภาวะ
โรคไตเสื่อมจากเบาหวาน
ยาในกลุ่ม SGLT2 inhibitor สามารถใช้ร่วมกับยา metformin, SU, TZD, DPP4-inhibitor, glinide,
alpha-glucosidase inhibitor, insulin, GLP-1 receptor agonist โดยเฉพาะถ้าใช้ metformin ร่วมกับใช้ SGLT2
inhibitor และ GLP-1 receptor agonist ร่วมกัน ๓ ชนิดจะสามารถลดน�้าหนักได้มากที่สุด ควรใช้ SGLT2 inhibitor
ในผู้ป่วยเบาหวานเพื่อเป็น secondary prevention ในผู้ป่วยเบาหวานที่มี Established CV disease, มีประวัติ
congestive heart failue และเป็น primary prevention ในผู้ป่วยเบาหวานที่มีปัจจัยเสี่ยงหลายข้อในการเกิดโรค
หัวใจและหลอดเลือด ข้อควรระวังในการใช้ยากลุ่ม SGLT2 inhibitor ได้แก่ ปัสสาวะออกมาก ไม่เหมาะในผู้ป่วยสูงอายุ
นอนติดเตียงที่เสี่ยงต่อภาวะขาดน�้า ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงหรือมีประวัติติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะบ่อยๆ นอกจากนี้
ยาอาจไปเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อราในระบบสืบพันธุ์และทางเดินปัสสาวะ, เพิ่มความเสี่ยงในการเกิด
Euglycemic diabetic ketoacidosis (Euglycemic DKA) ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงอยู่ก่อนแล้ว เช่น กินอาหารที่เป็น
very low carb-high protein/high fat, ดื่มสุรา, อยู่ในภาวะเจ็บป่วย ติดเชื้อหรือขาดน�้า, เพิ่มความเสี่ยงในการเกิด
กระดูกหักควรระวังถ้ามีภาวะกระดูกพรุนห้ามใช้ยาในกลุ่มนี้ และห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีค่าการท�างานของไต (eGFR)
≤ ๔๕ mL/min ควรแนะน�าให้ผู้ป่วยดื่มน�้าวันละมากๆ และรักษาความสะอาดระบบสืบพันธุ์และทางเดินปัสสาวะไม่
ให้อับชื้น
ยาในกลุ่ม GLP-1 receptor agonist สามารถใช้ร่วมกับยา metformin, TZD, glinide, alpha-glucosidase
inhibitor, basal insulin ข้อควรระวังในการใช้ยากลุ่ม GLP-1 receptor agonist คือ ท�าให้เกิดการคลื่นไส้ อาเจียน
เวียนศีรษะ ถ่ายเหลว มักเป็นในระยะแรกที่ใช้และดีขึ้นตามล�าดับ แต่จะมีฤทธิ์ลดระดับน�้าตาล ความอยากอาหาร และ
ลด นน. ต่อไปห้ามใช้ยากลุ่ม GLP-1 receptor agonist ในผู้ป่วยที่มีประวัติ pancreatitis จากยาในกลุ่ม Incretin
therapy (DPP4-inhibitor และ GLP-1 receptor agonist) ในผู้ป่วยหรือครอบครัวที่มีประวัติมะเร็งที่ต่อมธัยรอยด์
(Medullary thyroid cancer) หรือเนื้องอกที่ต่อมใต้สมอง ต่อมธัยรอยด์ ต่อมพาราธัยรอยด์ ต่อมหมวกไต (MEN ; Multiple
Endocrine Neoplasia)
ข่าวสารแพทย์นาวี ปีที่ ๖๒ เล่ม ๓ เดือน มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๓ หน้า ๖

