Page 13 - 1 May 63
P. 13
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
กล้วยน�้ำว้ำ ส่วนที่ใช้เป็นยา ลูกดิบหรือลูกห่าม ทับทิม ส่วนที่ใช้เป็นยา เปลือกผลแห้ง
รสและสรรพคุณยำไทย รสฝาด ฤทธิ์ฝาดสมาน รสและสรรพคุณยำไทย รสฝาด เป็นยาฝาดสมาน
วิธีใช้ กล้วยดิบรักษาอาการท้องเสียที่ไม่รุนแรง โดยใช้กล้วย วิธีใช้ เปลือกทับทิมใช้เป็นยาแก้ท้องเดินและบิด มีวิธีใช้ดังนี้
น�้าว้าห่าม รับประทานครั้งละครึ่งผลถึงหนึ่งผล หรือใช้ ๑. อาการท้องเดิน ใช้เปลือกผลแห้งประมาณ ๑ ใน ๔ ของผล
กล้วยน�้าว้าดิบ ฝานเป็นแว่นตากแดดให้แห้ง บดเป็นผง ฝนกับน�้าฝนหรือน�้าปูนใสให้ข้นๆ รับประทานครั้งละ ๑ - ๒
ชงน�้าดื่มครั้งละครึ่งผลถึงหนึ่งผล หรือบดเป็นผง ปั้นเป็น ช้อนแกง หรือต้มกับน�้าปูนใส แล้วดื่มน�้าต้มก็ได้
ยาลูกกลอน รับประทานครั้งละ ๔ เม็ด วันละ ๔ ครั้ง ก่อนอาหาร ๒. บิด (มีอาการปวดเบ่งและมีมูก หรืออาจมีเลือดด้วย) ใช้เปลือก
และก่อนนอนรับประทานแล้วอาจมีอาการท้องอืดเฟ้อ ผลแห้งของทับทิม ครั้งละ ๑ ก�ามือ (๓ - ๕ กรัม) ต้มกับน�้า
ป้องกันโดยใช้ร่วมกับยาขับลม เช่น น�้าขิง พริกไทย เป็นต้น ดื่มวันละ ๒ ครั้ง อาจใช้กานพูล หรืออบเชย แต่งกลิ่นให้น่าดื่ม
ก็ได้
ฟ้ำทลำยโจร ส่วนที่ใช้เป็นยา ใบ
รสและสรรพคุณยำไทย รสขม
วิธีใช้ ใบฟ้าทลายโจรใช้รักษาอาการท้องเสียและอาการเจ็บคอ
มีวิธีใช้ ๓ วิธีดังนี้
๑. ยาต้ม ใช้ใบฟ้าทลายโจรสด ๑ - ๒ ก�ามือ (แก้อาการเจ็บคอ
ใช้เพียง ๑ ก�ามือ) ต้มกับน�้านาน ๑๐ - ๑๕ นาที ดื่มก่อนอาหาร
วันละ ๓ ครั้ง หรือเวลามีอาการ ยาต้มฟ้าทลายโจรมีรสขมมาก
๒. ยาลูกกลอน น�าใบฟ้าทลายโจรสด ล้างให้สะอาด ผึ่งลมให้แห้ง
(ควรผึ่งในที่ร่มที่มีอากาศโปร่ง ห้ามตากแดด) บดเป็นผงให้ละเอียด
ปั้นกับน�้าผึ้งเป็นเม็ดยาลูกกลอน ขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย หรือ มองดูรอบๆ บ้าน รอบๆ ตัวเรา ยังมีพืชผักสมุนไพร
ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๐.๘ เซนติเมตร ผึ่งลมให้แห้ง ให้เราดูแลสุขภาพโดยปราศจากสารเคมี
เก็บไว้ในขวดแห้งและมิดชิด รับประทานครั้งละ ๓ -๖ เมล็ด ข้อมูลจำก : ต�าราแพทย์แผนไทยโบราณทั่วไป สาขาเภสัชกรรม
วันละ ๓ - ๔ ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน โดยกองการประกอบโรคศิลปะ ส�านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
๓. ยาดองเหล้า น�าใบฟ้าทลายโจรแห้ง ขย�าให้เป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ในขวดแก้ว
ใช้เหล้าโรง ๔๐ ดีกรี แช่ให้พอท่วมยาเล็กน้อย ปิดฝาให้แน่น พอครบ
๗ วัน กรองเอาแต่น�้า เก็บไว้ในขวดที่มิดชิดและสะอาด รับประทาน
ครั้งละ ๑ - ๒ ช้อนโต๊ะ (รสขมมาก) วันละ ๓ - ๔ ครั้ง ก่อนอาหาร
ข่ำวสำรแพทย์นำวี ปีที่ ๖๒ เล่มที่ ๕ เดือน พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๓ หน้ำ ๑๐

