Page 2 - 1 May 63
P. 2
ค�ำประกำศพระเกียรติคุณ
พลเรือเอก พระเจ้ำบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ำอำภำกรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
เนื่องใน “วันอำภำกร”
๑๙ พฤษภำคม ๒๕๖๓
*****************************
ข้ำรำชกำร ทหำร ลูกจ้ำง และพนักงำนรำชกำรกองทัพเรือที่รักทุกนำย
ในโอกาสที่ “วันอำภำกร” ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้า
อาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ “องค์พระบิดำของทหำรเรือไทย” ได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่ง
ในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๓ นี้ ผมขอเชิญชวนให้ทุกท่านร่วมกันร�าลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงมีต่อกองทัพเรือ
เป็นอเนกประการ
พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ประสูติเมื่อวันที่
๑๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๒๓ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดาโหมด
เมื่อทรงเจริญพระชันษาได้ ๑๓ ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรด
กระหม่อม ให้เสด็จไปทรงศึกษาวิชาการทหารเรือ ณ ประเทศอังกฤษ หลังจากทรงส�าเร็จการศึกษา ได้เสด็จกลับและทรงเข้ารับ
ราชการในกรมทหารเรือ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๔๓ ซึ่งขณะนั้นกิจการในด้านต่างๆ ของทหารเรือยังมิได้มีความมั่นคง
เนื่องจากนายทหารเรือที่เป็นคนไทยและมีความรู้ด้านวิชาการทหารเรือมีจ�านวนน้อย ต้องว่าจ้างชาวต่างชาติมาปฏิบัติหน้าที่
นายทหารในหน่วยต่างๆ ของกรมทหารเรือและในเรือหลวง ด้วยพระทัยอันแน่วแน่ที่จะปฏิรูปและพัฒนาการทหารเรือให้มี
ความเข้มแข็ง เพื่อเป็นหลักส�าคัญในการป้องกันประเทศได้อย่างแท้จริง พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกายและพระสติปัญญา
ในการพัฒนาและวางรากฐานให้กรมทหารเรือมีความก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยประเทศ โดยได้ทรงจัดท�าโครงการ
ป้องกันประเทศทางด้านทะเล อันประกอบด้วยความต้องการก�าลังรบทางเรือและความคิดในการใช้ก�าลังทางเรือ ซึ่งเป็น
แผนการทัพฉบับแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งกรมทหารเรือขึ้นมา ต่อมาได้ทรงปรับปรุงการศึกษาของโรงเรียนนายเรือ ให้มีการฝึก
ภาคปฏิบัติในเรือรบเพิ่มขึ้น เพื่อให้นักเรียนนายเรือมีความรู้ความสามารถในการเดินเรือในทะเลลึก และได้ทรงน�า
นักเรียนนายเรือไปฝึกและอวดธงในต่างประเทศเป็นครั้งแรก โดยเรือหลวงมกุฎราชกุมาร ซึ่งใช้ก�าลังพลประจ�าเรือที่เป็น
คนไทยทั้งหมด มีเส้นทางเดินเรือไปยังสิงคโปร์ ปัตตาเวีย ชวา และเกาะบัลลิทัน นับเป็นการประกาศศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิ
ให้ต่างชาติได้ประจักษ์ในความรู้ ความสามารถของทหารเรือไทยเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ครั้นเมื่อทรง
ด�ารงต�าแหน่งเสนาธิการทหารเรือ พระองค์ทรงเห็นการณ์ไกลว่า บริเวณอ่าวไทยตอนบนนั้นมีจุดยุทธศาสตร์ทางทะเลที่ดีที่สุด
คือ บริเวณอ่าวสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พระองค์จึงขอพระราชทานที่ดินที่สัตหีบ จากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่
หัว เพื่อใช้เป็นที่ตั้งของฐานทัพเรือ ซึ่งเป็นที่ตั้งหน่วยก�าลังรบที่ส�าคัญของกองทัพเรือในปัจจุบัน

