Page 14 - 1 June 63
P. 14
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
หายใจถูกวิธี เสียงดีได้ดังใจ
โดย...น.อ.หญิง นวภรณ์ ลิ้มประเสริฐ
นักเวชศาสตร์การสื่อความหมาย คลินิกแก้ไขการพูดและบ�าบัดเสียง รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า พร.
เคยมีหลายคนที่สงสัยว่า “เกิดมาจนอายุปูนนี้แล้ว ท�าไมจึงว่าหายใจไม่ถูก” หายใจไม่ถูกวิธีเป็นอย่างไร ใครที่สงสัย
มาหาค�าตอบด้วยกันได้เลย
คนที่มีปัญหาเรื่องเสียงแหบมักจะมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการบริหารลมหายใจในขณะพูดไม่ถูกต้อง ลองสังเกตพวกเขา
เหล่านั้นดูจะเห็นได้ว่า บางคนหายใจตื้นเกินไป บางคนพูดทีก็หายใจที ไม่ปะติดปะต่อ บางคนพูดได้นานๆ โดยไม่หยุดพักหายใจ
เลยรู้ตัวอีกทีก็แทบจะขาดใจจึงค่อยหายใจ แต่น่าแปลกที่ทุกคนไม่เคยสังเกตว่าเสียงแหบของตนเองเกิดจากอะไร ได้แต่ปริวิตก
กลัวเป็นโน่นกลัวเป็นนี่ตามแต่จะคิดกันไป ถ้าคนไหนเกิดนึกถึงโรคมะเร็งก็จะใจหายแว๊บรีบวิ่งมาพบแพทย์โดยไม่รอช้า จึงได้ทราบ
สาเหตุและหาทางแก้ไขกันต่อไป แต่บางคนก็ยังอดทนที่จะใช้เสียงแหบเสน่ห์ต่อไปจนกว่าจะแหบสนิทจึงค่อยคิดถึงหมอ
การเปล่งเสียงพูดของคนเรานั้นต้องอาศัยแหล่งพลังงานส�าคัญ คือ การหายใจออกของเรานี่เอง คนเราจะพูดได้
ในขณะที่หายใจออกเท่านั้น ไม่มีใครสามารถพูดได้ในขณะหายใจเข้าแน่นอน (ถ้าท่านไม่เชื่อจะลองพิสูจน์ดูก็ไม่ขัด) ลมหายใจ
ที่มาจากปอด จะไหลผ่านหลอดลมมาที่กล่องเสียงซึ่งในกล่องเสียงหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าลูกกระเดือกจะมีเส้นเสียง ๒ เส้น
บางๆ ขึงอยู่ เมื่อลมไหลผ่านเส้นเสียงก็จะท�าให้เส้นเสียงสั่นสะเทือนเกิดเป็นเสียงขึ้น แต่เราไม่สามารถบังคับเส้นเสียงให้สั่น
สะเทือนหรือเปิดปิดได้ตามต้องการเหมือนอวัยวะส่วนอื่นๆ เช่น หลับตา อ้าปาก เพราะการท�างานของเส้นเสียงเกิดจากแรงดัน
ของลมที่ผ่านเส้นเสียงนั่นเอง เปรียบเทียบการเกิดเสียงของคนเราเหมือนกับการท�างานของปี่ ปี่มีลักษณะเป็นท่อ มีลิ้นประกบ
กันอยู่ ๒ แผ่นซึ่งเปรียบคล้ายกับเส้นเสียงและหลอดลมของมนุษย์ ปี่นั้นไม่มีชีวิตแต่เมื่อมีแรงลมไหลผ่านก็ท�าให้เกิดเสียงขึ้น
ถ้าคนเป่าปี่มีปริมาณลมมากพอ ปี่ก็จะมีเสียงไพเราะและดังอยู่ได้นาน ในทางตรงกันข้ามถ้าคนเป่าปี่มีปริมาณลมน้อย
ปี่ก็จะเสียงไม่เพราะและดังอยู่ได้ไม่นาน ถึงตอนนี้แล้วท่านคงเข้าใจแล้วว่าลมหายใจมีความส�าคัญต่อเสียงของเราอย่างไร
ตามปกติแล้วคนเราจะพูดได้โดยเฉลี่ย ๑๕ - ๒๐ พยางค์ต่อการหายใจหนึ่งครั้ง
( ๑ ค�า ไม่ใช่ ๑ พยางค์ เพราะ ๑ ค�าอาจมีหลายพยางค์ เช่น สวัสดี มีถึง ๓ พยางค์)
ถ้าสามารถรักษาสมดุลย์นี้ได้ เราก็จะสามารถพูดได้ทั้งวันโดยไม่เกิดปัญหาอะไร แต่ถ้าสมดุลย์นี้เสียไปจากสาเหตุ
ที่พบบ่อยๆ คือ พูดปกติ/อากาศน้อย พูดมาก/อากาศน้อย พูดไม่เป็นจังหวะจะโคน นึกจะพูดก็พูดไปโดยไม่สนใจว่าจะมีอากาศ
หรือไม่ในขณะนั้น สรุปก็คือพูดมากเกินปริมาณลมหายใจที่มีอยู่ ลักษณะเช่นนี้ท�าให้กล่องเสียงต้องท�างานหนักมากขึ้นเพื่อให้
การพูดนั้นสิ้นสุดลงได้ตามที่ต้องการ โดยการที่ต้องเค้นเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณล�าคอและกล้ามเนื้อภายในกล่องเสียง รวมทั้ง
เส้นเสียงก็จะมีความตึงตัวเพิ่มขึ้นกว่าปกติท�าให้เส้นเสียงทั้งสองเส้นกระแทกกันแรงมากขึ้นในขณะเปล่งเสียง อาการแรกๆ
ของการใช้เสียงไม่ถูกวิธีก็คือ มีอาการเสียงแหบ ปวดเมื่อยบริเวณล�าคอ เจ็บคอ บางครั้งเหมือนมีก้อนอะไรจุกอยู่ในล�าคอ
ต้องกระแอมบ่อยๆ พูดได้ไม่นานเสียงก็หายไป ตอนเช้าเสียงดี ตกบ่ายเสียงแย่ ถ้าปล่อยให้มีอาการอยู่เช่นนี้โดยไม่แก้ไขก็จะมี
ความยากล�าบากในการใช้เสียงเพิ่มมากขึ้นๆ หากมาพบแพทย์ตรวจดูเส้นเสียงก็จะพบว่ามีความผิดปกติของเส้นเสียงในลักษณะ
ต่างๆ กัน เช่น เส้นเสียงอักเสบแดง มีเลือดคั่งในเส้นเสียง มีติ่งเนื้องอกที่เส้นเสียง เส้นเสียงโก่ง เป็นต้น ล�าพังในเพศหญิง
ความผิดปกติเหล่านี้ ดูไม่น่าวิตกกังวลเท่าในเพศชายที่มีประวัติสูบบุหรี่ เพราะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้มากกว่า
เพราะทุกครั้งที่อัดควันบุหรี่เข้าไปในปอดควันบุหรี่ต้องสัมผัสกับเส้นเสียงตลอดเวลาจึงมีโอกาสเป็นมะเร็งกล่องเสียง ซึ่งหากเป็น
ระยะที่รักษาไม่ได้ก็จะต้องลงเอยด้วยการตัดเอากล่องเสียงทิ้งไป ใครที่เป็นสิงห์อมควันเมื่อทราบอันตรายอย่างนี้แล้วรีบ
ตัดอกตัดใจเลิกบุหรี่ได้เลยก่อนที่จะสายเกินไป
หน้า ๑๑ ข่าวสารแพทย์นาวี ปีที่ ๖๒ เล่มที่ ๖ เดือน มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๓

