Page 8 - 1 June 63
P. 8
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
วัคซีน COVID-19
ความหวังของประชาคมโลก
โดย... น.ต.หญิง เบญจภัค สางห้วยไพร นักวิชาการสาธารณสุข กกป.พร.
ในภาวะการระบาดของ Corona Virus Disease 19 (COVID-19)
ท�าให้สังคมโลกตื่นตระหนกอยู่ ณ เวลานี้ “วัคซีน” จึงเป็นความหวังของ
ประชาคมโลกที่จะเป็นเครื่องมือส�าคัญท�าให้มนุษย์รอดพ้นจากความเจ็บป่วย
และความตาย องค์การอนามัยโลกร่วมกับ Bill and Melinda Gates
Foundation, The Coalition for Epidemic Preparedness Innovation
(CEPI) ได้ร่วมกันน�า R&D blueprint ซึ่งเป็นแผนระดับโลกส�าหรับเตรียม
ความพร้อมการวิจัยเพื่อให้สามารถด�าเนินการวิจัยได้ทันทีเมื่อมีการระบาด ที่มาของภาพ: https://www.thansettakij.com/content/politics/429740
และการพัฒนาวัคซีนเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ส�าคัญภายใต้ R&D blueprint นี้ ซึ่งในปัจจุบันมีวัคซีนต้นแบบที่ก�าลังพัฒนา
ประมาณ ๓๐ ตัวทั่วโลก โดยทิศทางมุ่งไปในเทคโนโลยีกลุ่ม DNA, mRNA, VLP vaccine
บริษัท Gilead Sciences ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ขณะนี้พบยาต้านไวรัสที่ชื่อว่า ‘Remdesivir’
มีประสิทธิภาพสูงสามารถต้านไวรัส COVID-19 ได้ โดยระหว่างการทดลองยาในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID-19
ผลปรากฏว่าการรักษาตอบสนองค่อนข้างดี ทั้งอาการมีไข้ที่รุนแรงและระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วย สามารถฟื้นตัวได้อย่าง
รวดเร็ว ผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ฟื้นตัวจนกลับสู่ภาวะปกติหลังจากที่รับการรักษาด้วยยา Remdesivir น้อยกว่า ๑ สัปดาห์
Dr. Kathleen Mullane ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากมหาวิทยาลัยชิคาโก กล่าวเพิ่มว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ได้รับยาตัวนี้หายดีจน
กลับบ้านได้ และมีคนไข้เพียง ๒ รายเท่านั้นที่เสียชีวิต และยังกล่าวอีกว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ท�าการรักษาด้วยยา Remdesivir
มีอาการที่รุนแรง และแสดงอาการตั้งแต่ ๖ วันแรก ดังนั้น สมมุติฐานหนึ่งที่มาจากการทดลองก็คือ การรักษาอาจไม่จ�าเป็น
ต้องรอผู้ป่วยแสดงอาการจนครบ ๑๐ วัน ก็สามารถรักษาได้เลย หากคนไข้มีอาการรุนแรงชัดเจน อย่างไรก็ตาม ยารักษาตัวนี้
ยังไม่สามารถใช้ได้กับ “กลุ่มเฝ้าระวัง” ดังนั้น ยังไม่สามารถสรุปได้ ๑๐๐% ว่ายา Remdesivir จะมีประสิทธิภาพต่อการต้าน
ไวรัส COVID-19 แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกี่ยวโยงถึงการรักษา COVID-19 หากผู้ป่วยมีอาการแสดงออกชัดเจน ทั้งนี้
ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการทดสอบประสิทธิภาพยาดังกล่าว โดยบริษัท Gilead Sciences ก�าลังส่งตัวยาชนิดนี้ไปยังศูนย์คลินิก
อีกหลาย ๑๐ แห่ง รวมไปถึงก�าลังทดลองในผู้ป่วยอีก ๒,๔๐๐ ราย ที่มีอาการของ COVID-19 ทั้งในระยะปานกลาง และขั้น
รุนแรง ใน ๑๕๒ แห่งทั่วโลก นอกจากนี้ ยังทดลองในผู้ป่วยอีก ๑,๖๐๐ ราย ส�าหรับผู้ป่วยระยะปานกลางในโรงพยาบาล
๑๖๙ แห่งทั่วโลก อย่างไรก็ดี Lancet ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ รายงานว่า ผลการใช้ยา remdesivir ของบริษัท Gilead
Sciences ในการทดสอบทางคลินิกที่จีน พบว่า ยาดังกล่าวไม่สามารถเร่งอัตราการฟื้นตัวของผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่มี
อาการหนัก เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการให้ยาหลอก (placebo)
คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ของออสเตรเลียเปิดเผยว่า วัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งอยู่ระหว่าง
การทดลองแสดงศักยภาพกระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่เพียงพอจะฆ่าเชื้อไวรัสได้ในขั้นทดลองก่อนด�าเนินการทดสอบ
ในมนุษย์ โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า การหนีบในระดับโมเลกุล หรือ โมเลคูล่า แคล็มพ์ (molecular clamp) ซึ่งได้รับ
สิทธิบัตรแล้ว โดยวัคซีนนี้ถูกน�าไปทดสอบในหนูและพบว่าสามารถกระตุ้นแอนติบอดี้ที่จ�าเป็นต่อการโจมตีไวรัสโคโรนา
หน้า ๕ ข่าวสารแพทย์นาวี ปีที่ ๖๒ เล่มที่ ๖ เดือน มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๓

