Page 20 - 7 july63
P. 20

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter




                 ครำวนี้ มำเริ่มโจทก์กันได้ โดยจะแนะน�ำให้นึกถึงควำมสุข ที่ได้จำกกำรท�ำงำนสิ่งที่เรำจะอำสำท�ำนั้น ต้องมีสิ่งจูงใจ
          และเป็นอะไรที่ท�ำให้เรำสนใจเป็นพิเศษ ยกตัวอย่ำงเช่น งำนประเภทที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ สัตว์เลี้ยง ด้ำนศิลปวัฒนธรรม
          เกี่ยวกับเยำวชนหรือเด็กบ้ำง  อำจจะชอบด้ำนคอมพิวเตอร์  เทคโนโลยี  แต่บำงคนอำจชอบช่วยเหลือกับเหตุกำรณ์ที่บุคคล

          ประสบภัยพิบัติ บำงท่ำนอำจจะเชี่ยวชำญในกำรถ่ำยทอดวิชำ เป็นครู หรือช่วยเหลือนักเรียน ช่วยเหลือคนยำมฉุกเฉิน
          ช่วยคนไร้บ้ำน และอยำกสอนวิชำชีพต่ำงๆ เป็นต้น เหล่ำนี้เรำควรคัดเลือกมำหนึ่งสิ่งหนึ่งอย่ำงที่เรำชอบ หลังจำกนั้นแล้ว

          ก็กลับมำมองตัวเองกับสิ่งนั้น ว่ำตัวเองมีทักษะเพียงพอ พอเพียงที่จะหยิบยื่นให้ควำมช่วยเหลือกับกิจกรรม หรือสำยงำน
          นั้นๆ หรือไม่ เช่น มีควำมรู้ควำมช�ำนำญด้ำนบัญชี ก็จะไปช่วยงำนด้ำนบัญชีให้กับองค์กรอำสำสมัครได้ บ้ำงมีควำมรู้
          ด้ำนศิลปะหัตถกรรม  ก็แนะน�ำกลุ่มเหล่ำนั้นให้เกิดประโยชน์  บำงคนอำจจะใช้วิธีกำรตกแต่ง  มีควำมช�ำนำญทักษะใน

          กำรตกแต่งสถำนที่  ตกแต่งบ้ำนเรือน  ตกแต่งอำคำรให้เกิดควำมสวยงำมเหล่ำนี้  ถือว่ำเป็นทักษะที่เรำมีอยู่เดิม  และ
          สำมำรถหยิบยื่นให้กับงำนอำสำสมัครได้  ขณะเดียวกันบำงคนอำจจะมีควำมช�ำนำญด้ำนกำรจัดกำรข้อมูล  กำรสอน

          กำรฝึกปฏิบัติงำนบ�ำรุงรักษำ  ไม่ว่ำจะทำสี  หรือควำมท�ำควำมสะอำด  กำรจัดสวนสร้ำงภูมิทัศน์ที่สวยงำมรวมไปถึง
          กำรถ่ำยภำพ ติดต่อสื่อสำร งำนเขียน งำนนิทรรศกำร เป็นต้น มีเยอะมำกในเรื่องของทักษะโดยจะเน้นในสิ่งที่เรำมี
                                                                        ต่อไปก็คือควำมชอบ คือชอบที่จะท�ำงำนกับใคร

                                                                 เป็นค�ำถำมที่ดี  ควรพิจำรณำว่ำเรำอยำกท�ำงำนกับ
                                                                 เด็กๆ หรือวัยรุ่น บำงคนอำจจะท�ำงำนกับผู้สูงอำยุ

                                                                 บำงคนจะท�ำงำนกับใครก็ได้ อันนี้แล้วแต่ควำมชอบ
                                                                 หลังจำกนั้นก็มำดูช่วงเวลำของกำรท�ำงำนที่ท่ำน
                                                                 เตรียมเอำไว้ เรำเป็นคนก�ำหนด คนเลือก เรำจึงต้อง

                                                                 ตัดสินใจว่ำจะช่วยตอนช่วงเช้ำ  สำย  บ่ำย  เย็น
                                                                 หรือยืดหยุ่นในกำรท�ำ  ท�ำมำกน้อยเพียงไร คือมี

                                                                 ควำมบ่อยในกำรท�ำงำนอำสำสมัครโดยเริ่มตั้งแต่
                                                                 ๑ ถึง ๕ ชั่วโมงต่อหนึ่งอำทิตย์ หรือเรำสำมำรถจะ
                                                                 ช่วยเหลือได้ไปจนถึงมำกกว่ำ ๒๐ ชั่วโมงต่ออำทิตย์

          ต้องแบ่งเวลำให้ได้ ในส่วนของท่ำนที่ยังอำยุไม่ถึง ๖๐  และอยำกจะมีเวลำให้กับสังคม อำสำสมัครก็ควรจะแบ่งเวลำ
          ไม่ให้ติด เกี่ยวข้องกับงำนประจ�ำ ท้ำยที่สุดเรำควรเลือกสถำนที่ท�ำงำนได้ด้วย เช่น งำนท�ำที่บ้ำน ท�ำกิจกรรมในกลุ่มของ

          สังคมนั้นๆ นอกบ้ำน หรือนอกอำคำร หรืออำจจะเลือกท�ำกิจกรรมในอำคำรก็ได้ เป็นต้น
               เมื่อคิดวำงแผนตำมขั้นตอนต่ำงๆ ได้แล้ว จะท�ำอะไรก็ค่อยมำดูว่ำเรำสำมำรถเข้ำไปอยู่ในส่วนของสังคม มีตัวอย่ำง
          มำกมำย  ท่ำนคงจะนึกออกว่ำเรำจะเริ่มช่วยในส่วนตรงนี้อย่ำงไรดี  หลำยคนยังอยำกที่จะท�ำงำนทำงด้ำนสุขภำพ

          ที่โรงพยำบำล  หลังจำกที่ท�ำงำนเป็นบุคลำกรทำงกำรแพทย์เป็นเวลำนำน  แต่ไม่อยำกท�ำกับอดีตองค์กรของตนเอง
          ก็สำมำรถไปอยู่ที่โรงพยำบำลอื่น  หรือส่งเสริมสุขภำพก็เป็นได้  อันนั้นเป็นตัวอย่ำง  ลองนึกว่ำงำนอำสำสมัครนั้นเป็น

          ส่วนหนึ่งของชีวิต  ที่ท่ำนจะสำมำรถเติมเต็มควำมรู้สึกที่ขำดหำยหลังจำกที่ไม่มีงำนประจ�ำแล้ว  เพื่อท่ำนจะได้ปรับปรุง
          รักษำควำมสุขทำงใจของท่ำน ในช่วงระยะเวลำอีกระยะหนึ่งอำจจะเพียงแค่หนึ่งปี ห้ำปี หรือไม่เกิน ๑๐ ปี เพื่อเรำจะได้
          ปรับตัว และรู้ว่ำเรำควรท�ำอะไรให้มีควำมสุขหลังเกษียณ เมื่อเรำเริ่มรู้จักจิตใจ รู้จักตัวเอง และเตรียมพร้อม กับภำวะ

          ปลดเกษียณสมบูรณ์แบบ จะได้ไม่เกิดกำรตื่นกลัว หลังจำกที่ไม่มีงำนประจ�ำ กำรวำงแผนดี มีชัยไปกว่ำครึ่ง เพียงแค่
          เริ่มท�ำตั้งแต่วันนี้










         หน้า ๑๗  ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๒ เล่มที่  ๗  เดือน กรกฎำคม  พ.ศ.๒๕๖๓
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25