Page 33 - 10oct64
P. 33

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter




            จะเป็นความเครียดที่เกิดจากการเมือง ศาสนา หรือการงานที่เราเพิ่งปลดเกษียณ

            ออกมา หรือว่าเรื่องครอบครัว เรื่องส่วนตัวต่างๆ อันนี้เป็นความเครียดทุกๆ วัน
            ที่เกิดขึ้น เราจะจัดการอย่างไร ส่วนใหญ่ก็จะต้อง ไม่เก็บเอาไว้ หมายถึงเมื่อรับ
            ความเครียดเข้ามาแล้ว เก็บไว้นิดหนึ่งก็ได้ แล้วก็ระบายออกไป ไม่ต้องสะสมอยู่ใน

            ร่างกาย ในหัวสมอง เพราะยิ่งสะสม ท�าให้เกิดความเครียดมากขึ้นแล้ว ก็จะท�าให้
            หลับได้ยากในตอนกลางคืน ท�าให้เรามีความคิด จิตฟุ้งซ่าน ควบคุมสติไม่ได้แล้ว

            ก็จะท�าให้เกิดความเครียดมากขึ้นไปอีก
                   และในปัจจุบัน ความเครียดที่เกิดจากกระแสข่าวรอบตัวเรา ไม่ว่าจะทางรัฐบาลไม่สามารถปราบปรามโควิดที่ก�าลังระบาด
            ได้อย่างมีประสิทธิผล ผลการฉีดวัคซีนไม่ครอบคลุมในเวลาอันสั้น ไม่มีวัคซีนพอเพียง ในแต่ละวันมีข่าวคนตายทุกวัน มีการ

            ติดเชื้อใหม่ๆ ทุกวัน ไปโน่นไปนี่ไม่ได้ มีกฎระเบียบข้อบังคับเพื่อที่จะระงับการแพร่ระบาดของโควิด ๒๐๑๙ มากมาย อันนี้ก็
            ถือเป็นความเครียดอย่างหนึ่ง ถ้าเราดูข่าว ฟังข่าว เสนอความคิด มีวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องจ�าพวกนี้เป็นประจ�าทุกๆ วัน และถ้าไม่

            ระบายออก ก็จะเครียดเพิ่ม และถ้าเกิดไประบายออกหรือพูดคุยกับคนที่คิดว่าเราผิด คนไม่เห็นด้วยกับเรา ก็ยิ่งท�าให้เราเครียด
            เพิ่มขึ้น กลายเป็นหนีเสือปะจระเข้ไป ส�าคัญนะความเครียดนี้ เป็นประเด็นที่ไม่เคยจบสิ้นกับผู้สูงอายุ จะอยู่คู่กันตลอดไปจนกว่า
            ชีวิตเราจะหาไม่  ดังนั้นการจัดการความเครียดเป็นสิ่งส�าคัญที่สุด  ไม่ว่าจะเรื่องต่างๆ  ทั้งการเจ็บปวดทั้งร่างกาย  การเจ็บป่วย

            ทางจิตใจมากมายหลายเรื่อง ถ้าเพียงแค่ระบบหัวใจของเราพยายามให้มันเกิดช้าลง มีการเตรียมตัวและเตรียมใจให้พร้อมแล้ว
            ก็ทุเลาไประดับหนึ่งแล้ว

                                                            ส�าหรับคนที่ก�าลังจะมีปัญหาในเรื่อง กระดูก ข้อต่อ และกล้ามเนื้อ เหล่านี้
                                                     ก็คือการหดตัวของกระดูก ความหนาแน่น และความเปราะบางของกระดูก
                                                     มีผลท�าให้เกิดการแตกร้าวได้ง่าย กระดูกมีผลเรื่องความสูงของร่างกายอยู่แล้ว

                                                     ก็ความสูงค่อยต�่าเตี้ยลงมา หลังโก่งขึ้นจากความสูงที่เคยมี ในส่วนกล้ามเนื้อ
                                                     ก็จะลดความแข็งแกร่ง ความยืดหยุ่น ซึ่งส่งผลให้ร่างกายของเรานั้น เกิดการ

                                                     ไม่สมดุลย์ของร่างกาย ทั้งยืน เดิน นั่ง ไม่มั่นคงในระหว่างเวลาเดิน และพลัดตก
                                                     หกล้มได้ง่ายขึ้น สิ่งที่จะท�าได้ก็คือ พยายามช่วยประคับประคอง กระดูก ข้อต่อ
                                                     และกล้ามเนื้อ ให้มีสุขภาพที่ดี ควรจะมีการรักษาระดับแคลเซี่ยมให้เพียงพอ

                                                     เป็นต้นว่า อาจจะกินแคลเซียมเพิ่มเติมเสริมขึ้น ส�าหรับคุณผู้หญิงมีการแนะน�าว่า
            ควรจะทานแคลเซี่ยม ๑,๒๐๐ มิลลิกรัมต่อวัน ส�าหรับคนที่อายุ ๕๑ ขึ้นไป ส่วนผู้ชายนั้นก็ควรจะประมาณ ๗๑ ปีขึ้นไป แหล่งอาหาร

            ที่มีแคลเซี่ยมมาก ก็ได้แก่พวกบล็อกเคอรี่ ผักคะน้า ปลาแซลม่อน แล้วก็เต้าหู้
                   ในเรื่องรับประทาน ควรแสวงหาวิตามินดีให้เพียงพอ ซึ่งแต่ละวันนั้น ผู้สูงวัยควร
            จะได้ประมาณ 600 IU ของวิตามินดี จนถึงอายุ ๗๐ ปี แล้วเพิ่มขึ้นหลังจากอายุ ๗๐ ปี

            เป็น 800 IU แหล่งของวิตามินดี ก็ได้แก่ ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ไข่ หรือว่านม เป็นต้น
            การรักษาสมดุลย์กับกิจกรรม  พร้อมกับการออกก�าลังกายที่มีการถ่วงน�้าหนักการใช้ข้อ

            ใช้กระดูก ก็คือ การเดิน วิ่งเหยาะ เล่นเทนนิส ปีนเขา เดินป่า หรือว่ายกน�้าหนักบ้างเล็กน้อย
            เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก  และลดการสึกกร่อนของกระดูก  พยายามหลีกเลี่ยง
            พวกแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เป็นต้น

                   เพียง ๒ ระบบใหญ่ๆ เป็นหลัก เรื่องระบบไหลเวียนของเลือดโดยหัวใจ และระบบกล้ามเนื้อกระดูกข้อต่อ ก็หมดเวลา
            เสียแล้ว คราวหน้าจะมาคุยกันต่อในเรื่องของระบบอื่นต่อไป คิดว่าถ้าเกิดคุยเรื่องระบบหลายระบบมากไปพร้อมกันในเวลาเดียวกัน

            ท่านอาจจะเกิดความสับสน และไม่มีความกระตือรือร้นที่จะอ่านต่อ เจอกันฉบับหน้านะท่าน



                                                ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๓ เล่มที่  ๑๐  เดือน ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๔   หน้า ๑๖
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38