Page 14 - 4apr64
P. 14

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter




                      เรือด�ำน�้ำไทยในอดีต (พ.ศ.๒๔๘๐ - ๒๔๙๔)
















                                                               โดย...กองเวชศาสตร์ใต้น�้าและการบิน กรมแพทย์ทหารเรือ


                 ประเทศไทยมีแนวคิดในการจัดสร้างเรือด�าน�้ามาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๖ ตามโครงการจัดสร้างก�าลังทางเรือ พ.ศ.๒๔๕๓

         มีคณะกรรมการประกอบด้วย นายพลเรือตรี พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหมื่นชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ นายพลเรือตรี พระยาราชวังสรรค์
         และ นายพลเรือตรี พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสิงหวิกรมเกรียงไกร ซึ่งทรงยศในเวลานั้น ได้จัดท�าโครงการขึ้นถวาย สมเด็จเจ้าฟ้า
         กรมหลวงนครสวรรค์วรพินิจ  เสนาบดีกระทรวงทหารเรือ  และได้ทูลเกล้าฯ  ถวาย  พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว

         เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ร.ศ.๑๒๙ (พ.ศ.๒๔๕๓) ในรายงานได้เสนอความต้องการ เรือ ส. จ�านวน ๖ ล�า แต่เนื่องจากว่าสภาวะ
         เศรษฐกิจของไทยหลังสงครามโลกครั้งที่ ๑ ไม่เอื้ออ�านวยจึงยุติไป

                 หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในปลายปี พ.ศ.๒๔๗๘ สภาผู้แทน
         ราษฎรได้อนุมัติพระราชบัญญัติบ�ารุงก�าลังทางเรือ พ.ศ.๒๔๗๘ ให้กองทัพจัดการ
         บ�ารุงก�าลังทางเรือให้เสร็จภายในเวลา  ๕  ปี  ใช้งบประมาณ  ๑๘  ล้านบาท

         กองทัพจึงได้ก�าหนดความต้องการเรือด�าน�้าไว้ ๕ ล�า ประมาณราคาไว้ล�าละ
         ๒.๓ ล้านบาท และต้องการในขั้นแรก ๓ ล�า

                 ในที่สุดไทยได้ท�าสัญญาว่าจ้าง บริษัท มิตซูบิชิ ประเทศญี่ปุ่นให้ต่อ  เรือหลวงมัจฉาณุ ทดลองแล่นในน่านน�้าเมืองโกเบ ญี่ปุ่น
         เรือด�าน�้า ขนาด ๓๗๐ ตัน จ�านวน ๔ ล�า ราคาล�าละ ๘๒๐,๐๐๐ บาท และได้รับ
         พระราชทานชื่อในภายหลังว่า เรือหลวงมัจฉาณุ (หมายเลข ๑) เรือหลวงวิรุณ

         (หมายเลข ๒) เรือหลวงสินสมุทร (หมายเลข ๓) และ เรือหลวงพลายชุมพล
         (หมายเลข ๔)

                 เรือด�าน�้าของไทยทั้งสี่ล�าเดินทางออกจากเมืองโกเบ  ประเทศญี่ปุ่น
         เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๑ ถึงกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน
         พ.ศ.๒๔๘๑  เข้าประจ�าการเมื่อวันที่  ๑๙  กรกฎาคม  พ.ศ.๒๔๘๑  ได้ออก

         ปฏิบัติการในสงครามอินโดจีนกับฝรั่งเศส และสงครามโลกครั้งที่สอง        เรือหลวงวิรุณขณะออกด�าในอ่าวโกเบ ญี่ปุ่น
                 เรือหลวงมัจฉาณุปลดประจ�าการเมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๙๔ พร้อมกันทั้ง ๔ ล�า เนื่องจากขาดแคลนชิ้นส่วน

         อะไหล่ หลังจากญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงครามโลก และไม่ได้รับอนุญาตให้ผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ และโรงงานแบตเตอรี่ของไทยที่ตั้งขึ้น
         ไม่สามารถผลิตแบตเตอรี่ส�าหรับใช้ประจ�าเรือได้ ประกอบกับเหตุการณ์กบฏแมนฮัตตัน เมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๙๔
         ท�าให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย กองทัพเรือ มีค�าสั่งยุบหมวดเรือด�าน�้า โอนย้ายไปรวมกับหมวดเรือตรวจฝั่งที่ตั้งขึ้นใหม่

                 ภายหลังปลดประจ�าการ เรือทั้งสี่ล�าได้น�ามาจอดเทียบที่ท่าราชวรดิฐ และฝั่งใกล้โรงพยาบาลศิริราช ริมแม่น�้าเจ้าพระยา
         ต่อมาได้มีการขายเรือให้กับบริษัทปูนซีเมนต์ไทย เหลือหอบังคับการ อาวุธปืน และกล้องส่องให้ทางกองทัพเรือได้น�ามา เพื่อจัดสร้าง

         สะพานเรือจ�าลอง จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ หน้าโรงเรียนนายเรือ จังหวัดสมุทรปราการ





      หน้า ๑๑  ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๓ เล่มที่  ๔  เดือน เมษายน พ.ศ.๒๕๖๔
   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19