Page 16 - 4apr64
P. 16

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter




                                                  ภัยความร้อน !!


                                    กับแนวทางรับมือแบบใหม่



                                         โดย...ว่าที่ ร.ท.ทัศเทพ จุลลนันท์ แผนกอาชีวอนามัยและอนามัยสิ่งแวดล้อม กกป.พร.

               ในสภาวะที่สิ่งแวดล้อมมีอุณหภูมิสูงขึ้น และร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนที่เกิดจากการใช้พลังงานได้ตามปกติ
        อาจน�าไปสู่ภาวะฉุกเฉินที่เกิดจากความร้อน  ที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน  มิฉะนั้นอาจเกิดอันตรายต่อชีวิต  ซึ่งภาวะนี้

        เรียกว่า “โรคลมเหตุร้อน (Heat Stroke)”
          ประเภทของ Heat Stroke แบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ
               ๑. โรคลมเหตุร้อนหรือโรคลมแดดทั่วไป (Classical or Non-exertional heat stroke; NEHS) พบในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ

        ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ซึ่งอยู่ในสภาพอากาศที่มีความร้อนสูง กลไกการระบายและควบคุมความร้อนท�างานล้มเหลว
               ๒. โรคลมเหตุร้อนจากการออกก�าลังกาย (Exertional heat stroke; EHS) เกิดจากการออกก�าลังกายอย่างหนัก

        เป็นระยะเวลานานในกลางแจ้งหรือในสภาพอากาศร้อนจัด  มีการเพิ่มการสร้างความร้อนของร่างกายมากกว่าที่ร่างกาย
        จะสามารถระบายความร้อนได้ทัน

            ปัจจัยที่มีผลต่อการเพิ่มอุณหภูมิร่างกาย    เป็นการได้รับความร้อนสะสมในร่างกายมากกว่ากลไกการถ่ายเทความร้อน
        ออกจากร่างกาย ประกอบด้วยสาเหตุ ๒ ประการ คือ

                    - ความร้อนจากการสะสมในร่างกาย ได้แก่ การเผาผลาญพลังงานพื้นฐาน กิจกรรมระหว่างวัน และจากสิ่งแวดล้อม
        ที่มาจากแสงแดด และการสะท้อนของพื้นผิวรอบๆ ตัว

                    - กลไกการถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกาย ได้แก่ การน�าความร้อน (Conduction) การพาความร้อน
        (Convection) การแผ่รังสีความร้อน (Radiation)  และการระเหยของความร้อน (Evaporation)

          ความไม่สมดุลของการได้รับความร้อนและการระบายความร้อน    เป็นผลท�าให้เกิดความร้อนสะสมภายในร่างกายจนถึง
        ภาวะวิกฤต และเกิดอันตรายได้ อันตรายที่ควรให้ความส�าคัญเป็นอย่างยิ่ง ได้แก่
                     - เพลียแดด (Heat exhaustion) เป็นภาวะการป่วยเจ็บจากความร้อนที่รู้สติดี มีอาการ มึนงง  อ่อนเพลีย หมดแรง

        เวียนศีรษะ หน้ามืด คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ เป็นลม หัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็ว เหงื่อออกมาก ความดันโลหิตต�่า
        ขณะเปลี่ยนเป็นท่ายืน อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นแต่ไม่มากกว่า ๔๐ �C พบในผู้ที่ร่างกายยังไม่มีการปรับตัวให้คุ้นชินกับความร้อน

        เกิดจากระบบไหลเวียนโลหิตร่วมกับการขาดน�้า เลือดจะไปเลี้ยงส่วนนอกร่างกายท�าให้ปริมาณเลือดไปเลี้ยงอวัยวะแกนกลางลดลง
                    - โรคลมเหตุร้อน (Heat Stroke) เป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วนและอันตรายมาก มีอาการผิด
        ปกติของระบบประสาทส่วนกลาง อาการที่พบระยะแรกๆ คือ เดินเซ (เนื่องจากสมองส่วน Cerebellum ถูกท�าลาย พบได้ไว

        ที่สุด) เป็นลม กระวนกระวาย แสดงพฤติกรรมแปลกประหลาด คลุ้มคลั่ง  เห็นภาพหลอน และหรือร่วมกับอุณหภูมิแกนกลาง
        ของร่างกายมากกว่า  ๔๐ �C  พบได้บ่อยเมื่ออยู่ในช่วงฤดูร้อนและต้องท�างานกลางแดดจัดเป็นเวลานาน พบในนักกีฬา หรือใน

        ทหารที่ต้องฝึกหนักกลางแจ้ง

          ปัจจัยเสี่ยงส่วนบุคคลที่จะท�าให้เกิดอันตรายจากความร้อน
               ๑. ภาวะร่างกายขาดน�้า มักเกิดจากการดื่มน�้าไม่เพียงพอกับความต้องการ  หรือท้องเสีย อาเจียนหรือ โดยเฉพาะ
        ผู้ที่ท้องเสียมาก่อน ๒ - ๓ วัน ก่อนท�ากิจกรรมต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

               ๒. ภาวะโรคอ้วน ท�าให้การสูบฉีดเลือดจากหัวใจไม่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งพื้นที่ผิวที่จะระบายความร้อน มีสัดส่วนน้อย
        เมื่อเทียบกับมวลกาย (ค่าดัชนีมวลกาย มากกว่าหรือเท่ากับ ๓๐ กก./ตร.ม. และมีรอบเอวในเพศชายมากกว่า ๙๐ ซม. หรือ

        เพศหญิง มากกว่า ๘๐ ซม.)
               ๓. การใส่เสื้อผ้าที่ไม่เหมาะสม หนาทึบ ระบายเหงื่อไม่ดี

        หน้า ๑๓  ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๓ เล่มที่  ๔  เดือน เมษายน พ.ศ.๒๕๖๔
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21