Page 24 - 4apr64
P. 24

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter



                                           ธรรมะกับคติธรรมสอนใจ



                                              เรื่อง...หลักของทาน

                  ในคัมภีร์วิมานวัตถุ ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่รวมเรื่องผลบุญของบรรดาเหล่าเทพบุตร เทพธิดาทั้งหลาย ที่ได้ท�าบุญกุศลไว้สมัยเป็นมนุษย์

           เช่น การท�าอัญชลีกรรมต่อท่านผู้มีศีล ถวายทาน รักษาศีล ตามประทีปโคมไฟ ฟังธรรม ตั้งอยู่ในธรรมเช่นมีความสัตย์ ความไม่โกรธ
           ความซื่อสัตย์ต่อสามี บ�ารุงเลี้ยงดูบิดามารดา หรือแม้แต่การเลื่อมใสในเสียงธรรมของพระพุทธองค์ของกบ เป็นต้น แล้วเป็นผลให้ได้ไปเกิด
           ในสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามองเผินๆ อาจเห็นว่าท�าดีเพียงเล็กน้อยก็เข้าถึงสวรรค์ได้
                  ความจริงการไปจุติเป็นเทวดาบนสวรรค์ อาจไม่ง่ายนักถึงกระนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ประการใดหากเข้าใจหลักของทานได้อย่าง

           ถูกต้อง หลักแห่งการให้ทานที่ได้ผลดี และแน่นอนนั้น มีองค์ประกอบ ดังนี้  คือ
                  วัตถุสัมปทา  ความพร้อมแห่งวัตถุ  หมายถึง  ผู้รับ  (ปฏิคาหก)  คือทักขิไณยบุคคล  เป็นผู้พรั่งพร้อมด้วยคุณธรรม  ท่านมี
           คุณธรรมสามารถเท่าใด ย่อมท�าให้ทานที่บริจาคไปมีผลมากขึ้นตามเท่านั้น

                  ปัจจัยสัมปทา  ถึงพร้อมด้วยปัจจัย คือสิ่งที่จะให้ทานมีความบริสุทธิ์ ได้มาโดยชอบธรรม และสิ่งของนั้นมากน้อยไม่ถือเป็น
           ประมาณ
                  เจตนาสัมปทา ถึงพร้อมด้วยเจตนาดีทั้ง ๓ กาล คือ ก่อนให้ก็มีใจดี ก�าลังให้ก็มีใจผ่องใส ครั้นให้แล้วก็มีใจเบิกบาน
                  คุณาดิเรกสัมปทา ถึงพร้อมด้วยคุณพิเศษคือผู้รับทานมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น พระสงฆ์สุปฏิปันโนคือปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นต้น
                  ดังนั้น ผู้ท�าบุญให้ทาน เมื่อปรารถนาจะให้ได้ผลดังที่ตนมุ่งหวังปรารถนา และรวดเร็วทันใจแล้ว จะต้องพยายามขวนขวายท�าบุญ

           ให้ครบถ้วนทั้ง ๔ องค์ประกอบดังกล่าว มิฉะนั้น ผลของการท�าบุญให้ทาน ก็จะให้ผลยิ่งหย่อนไปตามสัดส่วนขององค์ประกอบดังกล่าว
           และที่ส�าคัญที่สุด  พึงทราบว่าการท�าบุญให้ทานนั้นเป็นบุญกริยาวัตถุคือที่ตั้งแห่งการบ�าเพ็ญบุญประการแรกที่มุ่งถึงการขจัดซึ่งโลภะ
           และจิตของผู้ให้ย่อมเบิกบานแจ่มใสเป็นที่รักใคร่นับถือของคนทั่วไป  การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นเป็นบุญสูงสุดและเนื่องจากมีกายหยาบ

           ที่สามารถท�าบุญสร้างกุศลได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น จึงไม่ควรประมาทในการสั่งสมความดีที่สามารถติดตามเราไปในทุกชาติทุกภพ



                                            เรื่อง...ร่มเงาแห่งความดี

                   ร่มเงาแห่งต้นไม้ให้ความสุขทางร่างกาย  ร่มเงาแห่งความดีให้ความสุขทางใจ  ผลแห่งความสุขของมนุษย์มาจากเหตุก็คือ
           การท�าคุณงามความดี ท�าประโยชน์ไว้มากพอจนกลายเป็นวาสนา บารมี ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ประกอบบ�าเพ็ญได้พึ่งพา ตลอดจนผู้อื่น
           ได้อาศัยร่มเงาที่ ท่านผู้นั้นได้สร้างไว้

                   ความดีมี ๒ ประเภท ประเภทแรกคือ ความดีที่ท�าแล้วส่งผลให้ตนเองมีความสุขและความส�าเร็จโดยตรง เช่นการให้อภัย
           การไม่ผูกโกรธ การบ�าเพ็ญภาวนา ความขยันหมั่นเพียร เป็นต้น ประเภทที่สอง คือความดีที่ท�าไว้แล้วคนอื่นๆ หรือสังคมได้รับ
           ประโยชน์ เช่น พระพุทธองค์ตรัสรู้แล้ว น�าหลักธรรมมาสอนพุทธบริษัทด้วยการชี้ทางบรรเทาทุกข์ ชี้สุขเกษมศานต์ ให้ชาวพุทธได้ปฏิบัติ

           พล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ได้ทรงวางรากฐานกิจการทหารเรือไทย
           ด้านต่างๆ  ให้มีความเจริญมั่นคงมาจนตราบเท่าปัจจุบัน ผู้น�าองค์กรที่มีความคิดสร้างสรรค์มุ่งมั่นพัฒนาด้วยการวางแนวทาง
           การปฏิบัติที่เป็นประโยชน์ เป็นเหตุให้องค์กรนั้นๆ มีความเจริญก้าวหน้า เป็นต้น สิ่งเหล่านี้กลายเป็น “ร่มเงาแห่งความดี”
           ให้คนรุ่นหลังได้น้อมน�าแนวคิด หลักการและวิธีการเหล่านั้นมาปฏิบัติจนเกิดความเจริญรุ่งเรืองแก่ชีวิต องค์กรสังคม และประเทศชาติ
                   ร่มเงาแห่งต้นไม้ให้ความเย็นได้เป็นครั้งคราว แต่ร่มเงาแห่งความดีนั้น สร้างความร่มเย็นเป็นสุขได้ตลอดเวลา ร่มเงา

           แห่งความดี ให้ผลไม่เพียงเฉพาะในชาตินี้เท่านั้น ยังส่งผลต่อชีวิตในชาติต่อไปอีกด้วย ดังค�าประพันธ์ที่ว่า
                                        พฤกษภกาสร   อีกกุญชรอันปลดปลง

                                        โททนต์เสน่งคง   ส�าคัญหมายในกายมี
                                        นรชาติวางวาย   มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
                                        สถิตทั่วแต่ชั่วดี   ประดับไว้ในโลกา


            จัดท�าโดย  กองอนุศาสนาจารย์ ยศ.ทร.

        หน้า ๒๑  ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๓ เล่มที่  ๔  เดือน เมษายน พ.ศ.๒๕๖๔
   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29