Page 9 - 4apr64
P. 9

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter


                                                              ด้วงก้นกระดก




                                                   Paederus fuscipes Curtis

                                                   โดย...น.ต.พนม  พูลสมบัติ  ประจ�า พร. ช่วยราชการ กองเวชกรรมป้องกัน พร.


                   ด้วงก้นกระดก ด้วงปีกสั้น ด้วงก้นงอนหรือ แมลงเฟรชชี่ เพราะพบบ่อยในหมู่นักศึกษาใหม่ที่อยู่หอปีแรก แมลงชนิดนี้มีชื่อ
            ทางวิทยาศาสตร์ว่า Paederus fuscipes Curtis และมีชื่อสามัญภาษาอังกฤษว่า Rove beetles ตัวเต็มวัยมีสีด�าสลับส้ม ยาวประมาณ
            ๖.๕ - ๘  มิลลิเมตร หัวสีด�า อกส่วนหน้าแบนยาว ส่วนท้องมี ๖ ปล้อง ๔ ปล้องแรกสีส้มอมน�้าตาล ส่วนที่เหลือสีด�า ขาทั้ง ๓ คู่

            มีสีน�้าตาลแดง ปีกแข็งด้านบนสีน�้าเงินเข้ม และปีกอ่อนข้างใต้ เป็นแมลงที่มีอายุอยู่ได้ยาวนาน มีความว่องไว บินได้เร็วและว่องไว
            เวลาวิ่งจะยกปลายท้องตั้งขึ้นคล้ายแมงป่องจนเรียกว่า “ด้วงก้นกระดก” แมลงในสกุลนี้มีไม่ต�่ากว่า ๒๐ ชนิด พบกระจายไปตามที่ต่างๆ
            ทั่วโลก สกุลที่พบในประเทศไทย คือ Paederus fuscipes curt. เป็นแมลงที่มีความส�าคัญทางสาธารณสุข คือ มีสารพิษชื่อว่า
            พีเดอริน (Paederin) สารชนิดนี้มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนสามารถท�าลายเซลล์เนื้อเยื่อผิวหนังได้ ด้วง ๑ ตัว จะมีสารพิษอยู่ในตัวประมาณ
            ร้อยละ ๐.๐๒๕ ของน�้าหนักตัว โดยตัวเมียจะมีปริมาณสารพิษมากกว่าตัวผู้ ซึ่งผู้โดนจะไม่ค่อยมีอาการเนื่องจากมีสารพิษจ�านวนน้อย

            สารพิษท�าให้คนเป็นโรคผิวหนังกันมาก  เมื่อไปตบตีหรือท�าให้ล�าตัวแตกจนน�้าพิษซึมเข้าไปในร่างกาย  ท�าให้เกิดอาการตุ่มคันและ
            ผิวหนังอักเสบ
                   วงจรชีวิต

                   ด้วงก้นกระดกมีการเจริญเติบโตแบบสมบูรณ์ (Complete metamorphosis)
            โดยมีการเจริญเติบโตแบ่งออกเป็น ๔ ระยะ คือ ไข่ ตัวอ่อน ดักแด้ และตัวเต็มวัย
                     ระยะไข่ จะพบเห็นการวางไข่ของตัวเมียในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ในดินร่วน
            ที่มีวัตถุเน่าเปื่อยปกคลุม ที่ใกล้แหล่งน�้า ซึ่งห่างจากผิวน�้าเล็กน้อย ในหนึ่งวันตัวเมีย
            จะสามารถวางไข่ได้หลายฟอง โดยจะใช้เวลาในการฟัก ๒ – ๕ วัน จึงจะเป็นตัวอ่อน

                     ตัวอ่อน ลักษณะเป็นแบบ Compodieform ล�าตัวค่อนข้างยาว (ส่วนท้องจะยาว
            กว่าส่วนอื่น) สามารถเห็นหัวได้ชัดเจน หนวดสั้น กรามแข็ง มีขา ๖ ขา ส่วนท้องมี
            แพนหาง ๒ เส้น ด�ารงชีพด้วยการกินวัตถุเน่าเปื่อย และหนอนเล็กๆ ของแมลงที่อาศัย

            อยู่ในดิน ใช้เวลา ๖ – ๑๐ วัน จึงจะเข้าดักแด้
                     ดักแด้ ลักษณะใกล้เคียงกับดักแด้ผีเสื้อแต่มีขนาดเล็กกว่ามากสามารถมองเห็น
            ขาที่ติดข้างล�าตัวได้ชัดเจน ใช้ระยะเวลา ๓ – ๔ วัน จึงจะเป็นตัวเต็มวัย
                     ตัวเต็มวัย ล�าตัวยาวแคบ ความยาวของล�าตัวประมาณ ๖.๕ - ๘ มิลลิเมตร   วงจรชีวิตด้วงก้นกระดก
            ล�าตัวเป็นเงามัน มีสีฉูดฉาด ส่วนหัวมีสีด�า หนวดค่อนข้างยาว มี ๑๒ – ๑๓ ปล้อง

                   ลักษณะนิสัย
                   ชอบอาศัยอยู่ตามพื้นดินที่ชุ่มชื้นใกล้แหล่งน�้าที่มีพืชปกคลุม เช่นใกล้ร่องน�้าในแปลงปลูกผัก และพืชไร่ต่างๆ โดยเฉพาะในหลุม
            ของพืชประเภทเถาที่คลุมดินให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ เช่น แปลงมันเทศ แตง สตรอว์เบอร์รี่ นอกจากนี้ยังพบบริเวณนาข้าวที่มีน�้าเป็นแห่งๆ

            ขอบคู คลอง หนอง ตลอดจนถึงริมฝั่งแม่น�้าล�าธารทั่วไป  อาหารของแมลงเหล่านี้มักจะเป็นเชื้อรา สาหร่าย หรือพืชเน่าเปื่อย ด้วงก้นกระดก
            ยังเป็นแมลงตัวห�้า จับแมง หรือแมลงเล็กๆ เป็นอาหาร เช่น เพลี้ยอ่อน ไรแดง แมงมุมแดง ไข่แมลงต่างๆ มักจะมีปริมาณมากท�าให้
            ระบาดได้ในฤดูหนาวไปจนถึงปลายฤดูร้อน  คือประมาณเดือนธันวาคม  ไปจนถึงเดือนมิถุนายนในปีถัดไป  ปริมาณของแมลงจะลดลง
            อย่างรวดเร็ว เมื่อฝนเริ่มตก ๑ - ๒ ครั้ง แสงไฟแรงสูง หรือแสงนีออน จะเป็นสื่อน�าให้แมลงชนิดนี้เข้าไปในบ้านได้เป็นอย่างดี เพราะเป็น
            แมลงที่ชอบเล่นแสงที่สว่างจ้า

                   อาการของผู้สัมผัส
                   สารพิษพีเดอรินสัมผัสโดนถึงขั้นผิวอักเสบเฉียบพลัน แผลพุพองรุนแรง แพ้รุนแรงอาจถึงขั้นจับไข้
            ปวดกล้ามเนื้อ  เข้าตาอาจตาบอดได้  โดยมีลักษณะเป็นผื่นแดงหรือเป็นรอยไหม้  รูปร่างมักเป็นทางยาว

            ทิศทางหลากหลาย(ตามรอยปัด) ผื่นมีขอบเขตชัดเจน ในระยะต่อมาจะมีตุ่มน�้าพองใสและตุ่มหนองขนาดเล็ก  ๗ ชั่วโมง
                                                ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๓ เล่มที่  ๔  เดือน เมษายน พ.ศ.๒๕๖๔  หน้า ๖
   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14