Page 10 - 7jul64
P. 10

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter






              ความอ้วนและการลดน�้าหนัก




                                    โดย...น.อ.หญิง รุจิเรข ธรรมเจริญ อายุรแพทย์ต่อมไร้ท่อ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พร.


               ความอ้วนและการลดน�้าหนักเป็นสิ่งที่หลายคนสนใจ วันนี้จะมาเรียนรู้วิธีการกินอย่างไรให้น�้าหนักลด และในคนไข้
         เบาหวานกับความอ้วนมักจะเป็นสิ่งที่มาคู่กันเสมอ  คนไข้เบาหวานจะลดน�้าหนักตามกระแสที่ก�าลังนิยมกันได้หรือไม่  มีข้อ

         ควรระวังอย่างไร
         การงดอาหารเป็นช่วงๆ (Intermittent Fasting, IF)

               - Alternated day fasting (ADF) คือไม่ได้กินทุกวัน เช่น ๕:๒ หมายถึงกินได้ ๕ วัน และงดอาหาร ๒ วัน หรือ
         กินอาหาร ๒๔ ชม. สลับกับการหยุดกิน ๒๔ ชม. ไปเรื่อยๆ การงดอาหารแบบสุดโต่งแบบนี้ท�าให้เสียมวลกล้ามเนื้อไปมากกว่า
         และคนส่วนใหญ่ไม่สามารถลดน�้าหนักวิธีนี้ได้ยาวนานนัก

               - Time - restricted fasting (TRF) กินอาหารได้ทุกวันแต่จ�ากัดเวลาในการกินโดยมีตัวเลขที่รวมกันได้ ๒๔ ชม.
         เช่น อดอาหาร ๑๖ ชม. กิน ๘ ชม. สูตรนี้เป็นที่นิยม คือ ให้กินอาหารมื้อสุดท้าย ๑๖.๐๐ น. หลักการก็คือไม่กินมื้อเย็นดึกๆ

         และปริมาณมากเกินไป และให้กินได้อีกครั้งตอน ๐๘.๐๐ น. หลักการเหมือนการถือศีลอดหรือฉันมื้อเดียวหรือสองมื้อของพระ
         การคุมอาหารแบบนี้ถือว่าใกล้เคียงวิถีชีวิตปกติที่อาจจะกินอาหารวันละ
         ๒ - ๓ มื้อ โดยให้กินมื้อเย็นเร็วหน่อย

               หลักการง่ายๆ ของ IF คือ เลือกงดอาหารในระดับที่ทนได้ การงดอาหาร
         แบบนี้ในคนที่น�้าหนักเกินและไม่มีปัญหาสุขภาพ  ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ  ในช่วงที่
         อนุญาตให้กินนั้นกินแต่พออิ่มและเลือกชนิดของอาหารที่รับประทานเป็น

         ข้าวกล้อง ผัก ผลไม้ไม่หวาน เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่ว ธัญพืช ในช่วงอดอาหาร
         สามารถกินอาหารพลังงานต�่าได้เล็กน้อย ไม่เกิน ๕๐๐ Kcal เช่น ผักใบเขียว  ถั่ว ธัญพืช โยเกิร์ตรสจืด แต่ถ้าใครสามารถอดได้
         ก็กินแค่น�้าเปล่า ชาร้อน กาแฟด�า(ไม่ใส่ครีม/น�้าตาลใดๆ) ไปเลย ข้อควรระวังก็คือ การงดอาหารเป็นช่วงๆ นั้น จะไม่ช่วยลด

         น�้าหนักเลย ถ้าช่วงที่อนุญาตให้กินยังกินเยอะและไม่เลือกชนิดของอาหารที่กิน ยังกินแป้ง ข้าวขาว ขนมปังขาวเยอะ หรือยัง
         กินของทอด ขนม เบเกอรี่ น�้าหนักก็จะไม่มีวันลดได้

               ในช่วงที่เราท�าการอดอาหารร่างกายจะน�าสิ่งที่ร่างกายสะสมไว้มาใช้  เช่น  ไขมันในเนื้อเยื่อไขมันและในช่องท้อง
         ไกลโคเจนในตับ มีการสลายของเสียและไขมันในเซลล์ออกมาใช้เป็นพลังงาน เป็นการลดระดับไขมันและน�้าตาลในเลือด
         ช่วงท้องว่างล�าไส้จะได้พัก ท�าให้แบคทีเรียในล�าไส้ไม่สร้าง endotoxin ส่งผลให้การอักเสบในร่างกายลดลง มีการซ่อมแซม

         เซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ร่างกายทนต่อภาวะตึงเครียดได้มากขึ้น สมองน�าสารคีโตนที่ร่างกายสร้างขึ้นมาใช้ ระบบประสาท
         และฮอร์โมนต่างๆ ท�างานดีขึ้น ชะลอความแก่ชรา หัวใจท�างานดีขึ้น ความดันโลหิตลดลง ในคนไข้เบาหวานอินซูลินใน

         ร่างกายจะท�างานดีขึ้นส่งผลให้ระดับน�้าตาลลดลง ในผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องการท�า IF ควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาก่อนเสมอ
         ว่ากินยาเบาหวานที่มีความเสี่ยงต่อภาวะน�้าตาลต�่าหรือไม่ มีข้อควรระวังคือถ้าได้รับยาเม็ดลดระดับน�้าตาลในกลุ่ม Sulfonylurea
         หรือยาฉีดอินซูลิน อาจส่งผลท�าให้น�้าตาลต�่าได้ ควรมีการเจาะระดับน�้าตาลปลายนิ้วเป็นระยะ วันละ ๑-๒ ครั้ง ในช่วง

         อดอาหาร (fasting) และแนะน�าให้กินอาหารมื้อแรกเป็นอาหารเช้าเพื่อกินยาเบาหวานก่อนอาหารหรือฉีดอินซูลินก่อนอาหาร
         ๓๐ นาที ในช่วงเย็นถ้าจะอดอาหารตั้งแต่ ๑๖.๐๐ น. ควรเจาะน�้าตาลปลายนิ้วก่อนนอน โดยควรมีค่าเกิน ๙๐ มก./ดล.จึงจะ
         ปลอดภัยและไม่เกินน�้าตาลต�่าหลังเที่ยงคืน หรืออาจพิจารณาลดขนาดยา Sulfonylurea หรือยาฉีดอินซูลินลง โดยปรึกษา

         แพทย์ก่อน ในผู้ป่วยเบาหวานที่ได้รับยาในกลุ่ม metformin, pioglitazone ไม่จ�าเป็นต้องปรับเปลี่ยนการใช้ยาแต่อย่างใด
         สามารถท�าการงดอาหารเย็นได้เลย ขณะท�าการอดอาหารควรดื่มน�้าเปล่าให้มากๆ ในการวิจัยเปรียบเทียบการลดน�้าหนักแบบ



       หน้า ๖   ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๓ เล่มที่  ๗  เดือน กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๔
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15