Page 9 - 8aug64
P. 9
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
ตัดสินใจจัดอัตราก�าลังพยาบาลหัวหน้าเวรจ�านวน ๑๗ ราย ในโรงพยาบาล
ทุติยภูมิ สังกัดกระทรวงสาธารณสุขแห่งหนึ่ง พบว่า ความสามารถในการ
ตัดสินใจจัดอัตราก�าลังพยาบาลหัวหน้าเวร หลังใช้โปรแกรมระบบคอมพิวเตอร์
เพื่อการจ�าแนกประเภทผู้ป่วยสูงกว่าก่อนใช้โปรแกรมอย่างมีนัยส�าคัญทาง
สถิติที่ระดับ .๐๕ และเสนอแนะว่า การวางแผนออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์
อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถช่วยให้ผู้ใช้งานระบบคอมพิวเตอร์วิเคราะห์งาน
ด้านการจัดอัตราก�าลังพยาบาลอยู่ในระดับดี ท�าให้ผู้ใช้มีความพึงพอใจใน
การใช้งานโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นและท�าให้มีความมั่นใจในการจัดอัตราก�าลัง
อย่างมีประสิทธิภาพ
จากเหตุผลดังกล่าวคณะผู้วิจัยจึงเห็นความส�าคัญของการพัฒนาโปรแกรม Plinklao Staffing Application ที่ได้แนวคิด
มาจากโปรแกรม Staffing Daily Monitoring Template โรงพยาบาลศิริราช ร่วมกับทฤษฎีการจัดระบบสารสนเทศที่มีผู้ป่วย
เป็นศูนย์กลางของ Stagger, Thomas & Happ ในการค�านวณอัตราก�าลังพยาบาลตามภาระงานในหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม
โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า เพื่อให้พยาบาลหัวหน้าเวร หัวหน้าหอผู้ป่วย รวมถึงผู้บริหารทางการพยาบาลในทุกระดับชั้น
สามารถใช้ข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ เที่ยงตรง และแม่นย�า ในการบริหารจัดการอัตราก�าลังพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ
อันจะส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับบริการทางการพยาบาลที่มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ และพยาบาลผู้ปฏิบัติเกิดความพึงพอใจในงาน
วัตถุประสงค์การวิจัย
๑.เพื่อเปรียบเทียบค่าผลิตภาพทางการพยาบาล ระหว่างการใช้โปรแกรม Nursing Productivity ร่วมกับการจ�าแนก
ประเภทผู้ป่วยแบบกระดาษ กับการใช้โปรแกรม Plinklao Staffing Application
๒. เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของผู้ปฏิบัติงานต่อการใช้โปรแกรม Pinklao Staffing Application ในการค�านวณ
อัตราก�าลังพยาบาลตามภาระงาน
สมมติฐานการวิจัย
การใช้โปรแกรม Nursing Productivity ร่วมกับการจ�าแนกประเภทผู้ป่วยแบบกระดาษ กับการใช้โปรแกรม Pinklao
Staffing Application มีผลแตกต่างกันต่อการค�านวณค่าผลิตภาพทางการพยาบาลและระดับความพึงพอใจของผู้ปฏิบัติงาน
ในหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า
กรอบแนวคิดการวิจัย
คณะผู้วิจัยใช้แนวคิดการจ�าแนกประเภทผู้ป่วยตามความต้องการการพยาบาล ๘ หมวด ๑๕ กิจกรรมของกรมแพทย์
ทหารเรือ และทฤษฎีการจัดระบบทฤษฎีการจัดระบบสารสนเทศที่มีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางของ Stagger, Thomas & Happ
อันประกอบด้วย
๑. สิ่งน�าเข้า ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายการจัดอัตราก�าลังพล ลักษณะของผู้ป่วย จ�านวนผู้ป่วย ปริมาณการรับใหม่
จ�าหน่าย และกิจกรรมความต้องการการพยาบาลของผู้ป่วย
๒. กระบวนการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเป็นสารสนเทศ คือ จ�านวนชั่วโมงความต้องการการพยาบาล ประเภทบุคลากร
และประเภทผู้ป่วยในเวร โดยซอฟต์แวร์ประมวลผล
๓. สิ่งน�าออก คือ ค่าผลิตภาพทางการพยาบาล ที่สามารถน�ามาเป็นตัวชี้วัดแสดงถึงความสามารถของผู้บริหารที่ท�าให้เกิด
ประสิทธิภาพของการบริหารจัดการด้านอัตราก�าลังพยาบาลให้เหมาะสมกับภาระงาน มาบูรณาการกับโปรแกรม Staffing Daily
Monitoring Template ของฝ่ายการพยาบาลโรงพยาบาลศิริราช เนื่องจากมีการน�าการรับใหม่/ส่งต่อ/ จ�าหน่ายผู้ป่วย และ
จ�านวนบุคลากรที่ต้องไปประชุมนอกหน่วยงานมาคิดค�านวณค่าผลิตภาพทางการพยาบาล มาใช้ในการพัฒนาการพัฒนาโปรแกรม
คอมพิวเตอร์ในการค�านวณอัตราก�าลังพยาบาลตามภาระงาน ในหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า โดยการ
ค�านวณค่าผลิตภาพทางการพยาบาล = (ยอดยกมา + รับใหม่ + รับย้าย) x Taget NHPPD x ๑๐๐ / ชม.การพยาบาลที่จัดจริง
(๗ ชม.) x จ�านวนพยาบาลที่ขึ้นเวรชั่วโมงการพยาบาลที่ต้องการ อ่านต่อฉบับหน้า
ข่าวสารแพทย์นาวี ปีที่ ๖๓ เล่มที่ ๘ เดือน สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๔ หน้า ๗

