Page 31 - ข่าวสารแพทย์นาวีฉบับเดือน ตุลาคม ๒๕๖๕
P. 31

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter



                                ธรรมะ คติสอนใจ





                                                        สุขทุกวัน ด้วยธรรมะ










                                               เรื่อง... วาจาสุภาษิต


                    การอยู่ร่วมกันในสังคมผ่านการสื่อสารที่เรียกว่า “การพูด” ดังนั้น ค�าพูดที่เปล่งออกไปจากปาก จึงมีความส�าคัญ
             อย่างยิ่งของการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ ดังค�าโบราณว่า “ปากเป็นเอก  เลขเป็นโท  หนังสือเป็นตรี  ชั่วดีเป็นตรา”

             พุทธศาสนากล่าวไว้ว่าการพูดที่ดีควรเป็น “วาจาสุภาษิต” เป็นมงคลที่ ๑๐ ในมงคล ๓๘ ประการ วาจาสุภาษิต คือวาจา
             ที่ไพเราะอ่อนหวานไม่ร�าคาญแก่โสตประสาท ประกอบด้วยองค์ ๕ ประการ คือ
                    ๑. ต้องเป็นค�าจริง ไม่ใช่ค�าพูดที่ปั้นแต่งขึ้น เป็นค�าพูดที่ไม่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ไม่บิดเบือนจากความจริง

             ไม่เสริมความ ไม่อ�าความ ต้องเป็นเรื่องจริง
                    ๒. ต้องเป็นค�าสุภาพ เป็นค�าพูดไพเราะ ที่กลั่นออกมาจากน�้าใจที่บริสุทธิ์ ไม่เป็นค�าหยาบ ค�าด่า ค�าประชดประชัน

             ค�าเสียดสี ค�าหยาบนั้นฟังก็ระคายหู ระลึกถึงก็ระคายใจ
                    ๓. พูดแล้วก่อให้เกิดประโยชน์ เกิดผลดีทั้งแก่คนพูดและคนฟัง ถึงแม้ค�าพูดนั้นจะจริงและเป็นค�าสุภาพ แต่ถ้าพูดแล้ว
             ไม่เกิดประโยชน์อะไร กลับจะท�าให้เกิดโทษ ก็ไม่ควรพูด

                    ๔. พูดด้วยจิตเมตตา พูดด้วยความปรารถนาดี อยากให้คนฟังมีความสุข มีความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป ในข้อนี้
             หมายถึงว่า แม้จะพูดจริง เป็นค�าสุภาพ พูดแล้วเกิดประโยชน์ แต่ถ้าจิตยังคิดโกรธมีความริษยา ก็ยังไม่สมควรพูด เพราะผู้ฟัง

             อาจรับไม่ได้ ถ้อยค�าที่กล่าวด้วยจิตขุ่นมัว แม้เพียงประโยคเดียวอาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงอย่างไม่อาจประมาณได้
                    ๕. พูดถูกกาลเทศะ  พูดถูกกาละ (เวลา) คือรู้ว่าเวลาไหนควรพูด เวลาไหนยังไม่ควรพูด ควรพูดนานเท่าไร
             ต้องคาดผลที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วยพูดถูกสถานที่  (เทศะ)  คือรู้ว่าในสถานที่เช่นไร  เหตุการณ์แวดล้อมเช่นไรจึงสมควรที่จะพูด

             หากพูดออกไปแล้วจะมีผลดีหรือผลเสียอย่างไร  เพราะแม้ใช้ค�าพูดที่ดี  เป็นค�าจริง  เป็นค�าสุภาพ  เป็นค�าพูดที่มีประโยชน์
             และพูดด้วยจิตที่เมตตา แต่ถ้าพูดผิดจังหวะ ไม่ถูกกาลเทศะ ผู้ฟังยังไม่พร้อมที่จะรับฟัง ย่อมก่อให้เกิดผลเสีย กลายเป็น

             การประจานหรือจับผิดกันได้
                    ดังนั้น  การพูดจึงเปรียบเสมือนดาบสองคม  สามารถสร้างคุณและโทษให้แก่เจ้าของค�าพูดได้เสมอ  ดังค�าพูดที่ว่า
             “อยู่คนเดียวจงระวังยั้งความคิด  อยู่ร่วมมิตรจงระวังยั้งค�าขาน” เพราะก่อนที่เราจะพูด เราเป็นนายของค�าพูด เมื่อพูด

             ออกไปแล้ว ค�าพูดจะเป็นนายของเรา จึงควรระวังการพูดไว้ให้มาก และพึงน�าหลักวาจาสุภาษิตดังกล่าวมาเป็นหลักในการ
             พูดทุกครั้ง เพราะวาจาสุภาษิตจะน�ามาซึ่งประโยชน์สุขแก่ชีวิตได้อย่างแน่นอน









                             คิดดี                             พูดดี                            ท�ำดี


            จัดท�าโดย  กองอนุศาสนาจารย์ ยศ.ทร.




                                                ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๔ เล่มที่  ๑๐  เดือน ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๕   หน้า ๑๖
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36