Page 3 - ข่าวสารแพทย์นาวีฉบับเดือน พฤศจิกายน ๒๕๖๕
P. 3
๒๐ พฤศจิกายน วันกองทัพเรือ
ในสมัยโบราณยังมิได้มีการแบ่งแยกก�าลังรบทางเรือออกจากทางบก จวบจนรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว จึงเริ่มมีการแบ่งแยกก�าลังรบทางเรือออกจากทางบก เมื่อครั้งเริ่มแรกตั้งกรมทหารเรือนั้น กิจการทหารเรือบางประเภท
ยังขาดบุคคลที่มีความรู้ความช�านาญ จ�าเป็นต้องจ้างชาวต่างประเทศเข้ามารับราชการตามต�าแหน่งหน้าที่ต่างๆ อาทิ ผู้บังคับการเรือ
และผู้บัญชาการป้อมต่างๆ
ต่อมาภายหลังวิกฤตการณ์ ร.ศ.๑๑๒ (พ.ศ.๒๔๓๖) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชด�าริว่า
กิจการของทหารเรือเท่าที่อาศัยชาวต่างประเทศเข้ามาประจ�าต�าแหน่งหน้าที่ต่างๆ นั้น ไม่อาจที่จะหวังในด้านการรักษาอธิปไตย
ของชาติได้ดีเท่ากับคนไทยเอง พระองค์มีพระราชประสงค์ให้จัดการศึกษาแก่ทหารเรือไทย ให้มีความรู้ความสามารถเพียงพอ
ที่จะรับต�าแหน่งหน้าที่ต่างๆ ในเรือแทนชาวต่างชาติที่จ้างไว้ต่อไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลเรือเอก
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระราชโอรส เสด็จไปทรงศึกษา
วิชาการทหารเรือยังประเทศอังกฤษ
ภายหลังจากที่ทรงส�าเร็จการศึกษาวิชาการทหารเรือ และกลับมารับราชการในกรมทหารเรือ พระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมทหารเรือ จัดการฝึกสอนวิชาการทหารเรือขึ้น โดยเริ่มตั้งโรงเรียน
ขึ้นครั้งแรกที่บริเวณอู่หลวงใต้วัดระฆัง ตรงข้ามท่าราชวรดิฐ ส�าหรับอบรมนายทหารชั้นประทวน หรือฝ่ายช่างกลและเดินเรือ
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๓๔ ได้ตั้งโรงเรียนนายสิบขึ้น และในปี พ.ศ.๒๔๔๐ ได้จัดตั้งโรงเรียนนายร้อยทหารเรือขึ้นอีกโรงเรียนหนึ่ง
จนถึงปี พ.ศ.๒๔๔๒ ได้จัดตั้งโรงเรียนนายเรือขึ้น สถานที่ตั้งโรงเรียนนายเรือครั้งแรก อยู่ที่วังนันทอุทยาน (สวนอนันต์) มีนาวาโท
ไซเดอลิน (Seidelin) เป็นผู้บังคับการโรงเรียนนายเรือคนแรก
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๔๓ เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมจักรพรรดิพงศ์ สิ้นพระชนม์ พระราชวังเดิม
กรุงธนบุรี ซึ่งเป็นที่ประทับได้ว่างลง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาพระราชทาน พระราชวังเดิม
กรุงธนบุรี ให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนนายเรือ ตั้งแต่วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๔๓ เป็นต้นมา กับได้พระราชทานพระราช
หัตถเลขาในสมุดเยี่ยมของโรงเรียน ความว่า
วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ร.ศ.๑๒๕ เราจุฬาลงกรณ์ ปร. ได้มาเปิดโรงเรียนนี้ มีความปลื้มใจ
ซึ่งได้เหนการทหารเรือ มีรากหยั่งลงแล้ว จะเปนที่มั่นสืบต่อไปในภายน่า
โดยพระราชหัตถเลขานี้เอง วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันที่รากฐานการทหารเรือได้หยั่งลงแล้ว
ทางการทหารเรือจึงถือว่าเป็น วันกองทัพเรือ สืบมาจนถึงทุกวันนี้ และในปี พ.ศ.๒๕๖๕ นี้ กองทัพเรือ ครบรอบ ๑๑๖ ปี

