Page 4 - ข่าวสารแพทย์นาวีฉบับเดือน พฤศจิกายน ๒๕๖๕
P. 4
นโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ
ประจ�าปีงบประมาณ ๒๕๖๖
ด�ำเนินกำรต่อเนื่องตำมนโยบำยผู้บัญชำกำรทหำรเรือที่ผ่ำนมำ ควบคู่กับกำรเสริมสร้ำงรำกฐำนที่มั่นคง
รวมทั้งยกระดับกองทัพเรือให้ก้ำวไปสู่ควำมเป็นสำกล ทันสมัย มีคุณธรรม มีควำมยั่งยืนบนพื้นฐำนกำรใช้จ่ำย
งบประมำณอย่ำงมีประสิทธิภำพ สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อมุ่งสู่เป้ำหมำยตำมวิสัยทัศน์ และยุทธศำสตร์
กองทัพเรือ และเป็นกองทัพเรือที่ประชำชนเชื่อมั่น และภำคภูมิใจ
จากสภาวะแวดล้อมด้วยความมั่นคงโลกซึ่งเกิดจากแรงบังคับ (Driving Forces) ที่ส�าคัญโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลง
สมดุลของโลกเป็นระบบหลายขั้วอ�านาจ โดยประเทศมหาอ�านาจซึ่งเป็นตัวแสดงหลักในระบบการเมืองโลกได้เข้ามา
มีบทบาทและแผ่อิทธิพลเพื่อสร้างผลกระทบที่ตนเองต้องการในเวทีการเมืองระหว่างประเทศมากขึ้น ซึ่งความเป็นโลกาภิวัฒน์
ของโลกยุคปัจจุบันได้ช่วยขยายแรง ท�าให้ผลกระทบของการแผ่อิทธิพลโดยชาติมหาอ�านาจต่างๆ มีลักษณะทั่วถึง
(extensity) เข้มเข้น (intensity) รวดเร็ว (velocity) และความรุนแรง (impact) ครอบคลุมทั้งมิติด้านการเมือง เศรษฐกิจ
การทหาร และสังคมวัฒนธรรม ทั้งในระดับโลกและภูมิภาค โดยในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก นั้น มีการแข่งอิทธิพลของ
ชาติมหาอ�านาจผ่านการด�าเนินยุทธศาสตร์ต่างๆที่ส�าคัญ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ Free and Open Indo-Pacific Strategy
ของประเทศสหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรยุทธศาสตร์ Belt and Road Initiative (BRI) ของประเทศจีน ซึ่งปรากฏ
หลักฐานที่เด่นชัดคือการที่ประเทศมหาอ�านาจและพันธมิตร ได้จัดส่งก�าลังทางเรือเข้ามาปฏิบัติการในพื้นที่ทะเลจีนใต้
มากขึ้น
นอกจากนั้น สถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่รอบบ้าน ยังคงมีปัญหาพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกับประเทศเพื่อนบ้าน
ที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ ปัญหาการแข่งขันการสั่งสมอาวุธ (Arm Race) ที่ประเทศในภูมิภาคได้จัดหายุทโธปกรณ์ที่
ทันสมัยเข้าประจ�าการโดยเฉพาะเรือด�าน�้าที่ส่งผลให้ศักย์สงคราม (Combat Potential) ของกองทัพเรือประเทศต่างๆ
สูงขึ้นกว่ากองทัพเรือไทย รวมถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการน�าเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์มาใช้ในการทหาร ดังที่เห็น
ได้จากสงครามรัสเซีย - ยูเครน ก็เป็นหนึ่งในแรงบังคับที่ก�าลังมีบทบาทส�าคัญมากขึ้นในปัจจุบัน ส�าหรับปัญหาความมั่นคง
ภายในประเทศ ยังคงมีปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข เช่น ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองจากกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง
ต่างๆ ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปัญหามลภาวะ และปัญหาค่าครองชีพ
รวมถึงปัญหาโรคอุบัติใหม่ เช่น โรคติดเชื้อไวรัส COVID–19 และฝีดาษวานร ล้วนเป็นภัยคุกคามของประเทศที่กองทัพเรือ
จะต้องมีบทบาทส�าคัญในการเข้าไปให้การสนับสนุนการแก้ปัญหาตามขีดความสามารถที่กระท�าได้ ตามแนวทางของ
แผนระดับต่างๆ ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี และแผนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ทั้งนี้
จะเห็นได้ว่าปัจจัยภายนอกต่างๆ ทั้งระดับโลก ระดับภูมิภาค จนถึงภายในประเทศ เป็นแรงผลักดันที่ส�าคัญให้กองทัพเรือ
ต้องเสริมสร้างรากฐานของกองทัพให้มั่นคง โดยการพัฒนาความเข้มแข็งก�าลังทางเรือซึ่งถือเป็นพลังอ�านาจแบบแข็ง (Hard
Power) ควบคู่กับการเสริมสร้างความร่วมมือกับกองทัพเรือประเทศมหาอ�านาจและมิตรประเทศ ซึ่งถือเป็นพลังอ�านาจ
แบบอ่อน (Soft Power) อย่างสมดุลและเท่ากันสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคง
ส�าหรับปัญหาการบริหารจัดการภายในกองทัพเรือที่ส�าคัญ ยังคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับการด�าเนินนโยบายและโครงการ
ต่างๆ ของกองทัพเรือที่ขาดความต่อเนื่อง ท�าให้ในบางโครงการของกองทัพเรือ ยังไม่ประสบผลส�าเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้
ซึ่งถือเป็นอุปสรรคส�าคัญในการฉุดรั้งกองทัพเรือให้ไม่สามารถพัฒนาเป็นไปในทิศทางตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือ
ซึ่งเปรียบเสมือนหลักน�า (Lead Mark) รวมทั้งอุปสรรคดังกล่าวยังลดทอนความเชื่อมั่น ศรัทธา จากภาคประชาชน

