Page 20 - 1may65
P. 20

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter




                              ธรรมะ คติสอนใจ





                                                      สุขทุกวัน ด้วยธรรมะ








                                        เรื่อง... บทเรียนจากความตาย



                  ในคัมภีร์อรรถกถาธรรมบทเล่าว่า นางกีสาโคตมี  ลูกตาย นางเสียใจมาก เที่ยวอุ้มลูกไปให้หมอรักษา แต่ไม่มีใคร
          รับรักษา มีคนหนึ่งแนะน�าให้ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า นางเชื่อ จึงน�าบุตรไปเฝ้า ขอให้พระพุทธเจ้าช่วยรักษา พระพุทธเจ้า

          ไม่ทรงปฏิเสธการรักษา แต่มีข้อแม้ว่าต้องได้เมล็ดผักกาดในหมู่บ้านที่ไม่มีใครเคยตายเท่านั้น นางดีใจมาก อุ้มลูกน้อยแนบอก
          เที่ยวเสาะหาเมล็ดผักกาด  เมล็ดผักกาดนั้นหาได้ในทุกหมู่บ้าน  แต่ติดขัดอยู่ที่ในหมู่บ้านนั้นล้วนแต่มีคนเคยตายทั้งสิ้น
          ท�าให้นางได้คิดขึ้นว่า คนทั้งหลายได้มีความทุกข์ เพราะปุตตวิปโยคมาแล้วแทบทั้งสิ้น มิใช่แต่นางคนเดียว ในที่สุดนางได้

          ข้อสรุปที่เป็นสากลว่า  “ความตายเป็นธรรมดาของคนทั้งหลาย  บุตรของนางตายก็เป็นเรื่องธรรมดาเช่นกัน”  จึงทิ้ง
          ศพบุตรเสียในป่า  แล้วไปเฝ้าพระพุทธเจ้าทูลขอบวช  พระพุทธองค์ทรงให้นางบวชในส�านักภิกษุณี  ต่อมาเจริญวิปัสสนา

          พิจารณาบทพระธรรมที่ว่า “สัตว์ทั้งหลาย เกิดตายอยู่ เหมือนดวงประทีป ฉะนั้น” ได้ส�าเร็จเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง
                  ในยุคปัจจุบัน ข่าวการตายด้วยเหตุต่างๆ ปรากฏให้เห็นมากมาย บางเหตุการณ์เป็นคนรู้จัก บางเหตุการณ์เป็น
          คนไม่รู้จัก  โดยเฉพาะในห้วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ระบาดไปทั่วโลก  มีคนตายจากการ

          ติดเชื้อไม่น้อยกว่า ๖ ล้านคน ในฐานะชาวพุทธ  เมื่อได้ทราบข่าวเกี่ยวกับความเจ็บไข้ และความตายอย่างมากมายกว้างขวาง
          เช่นนี้ ก็ควรน้อมน�าบทพิจารณาชีวิตตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ อาทิ “เรามีความแก่ เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่

          ไปได้, เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้, เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้,
          และว่าสังขารทั้งหลายทั้งปวง ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ทนได้ยาก เกิดขึ้นแล้วเสื่อมสลายไป เกิดขึ้นแล้วก็แก่ เจ็บ ตายไป
          เป็นธรรมดา ไม่ควรถือว่าเรา ว่าของเรา ว่าเป็นตัวตนของเรา ดังนี้” มาพินิจพิจารณา

                  จากเรื่องความตายนี้  ให้บทเรียนเราว่า คนเราควรด�าเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ประกอบสัมมาชีพ เลี้ยงตน
          และครอบครัวให้เป็นสุข  มีโอกาสศึกษาปฏิบัติธรรมในทุกช่วงวัยของชีวิตให้จงได้  หากในวัยต้น  วัยกลางไม่มีเวลาศึกษา

          ปฏิบัติธรรมได้ อย่างน้อยที่สุดในปัจฉิมวัย ก็ควรได้ศึกษาปฏิบัติธรรมบ้าง ถ้าท�าได้อย่างนี้ จึงจะชื่อว่าได้บทเรียนจากการเห็น
          ความแก่ ความเจ็บ และความตายบ้าง หาไม่แล้วก็จะท�าให้เหตุการณ์เกี่ยวกับความตายผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์















                           คิดดี                             พูดดี                           ท�ำดี


         จัดท�าโดย  กองอนุศาสนาจารย์ ยศ.ทร.




       หน้า ๑๘  ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๔ เล่มที่  ๕  เดือน พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๕
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25