Page 20 - ข่าวสารแพทย์นาวีฉบับเดือน ตุลาคม ๒๕๖๖
P. 20

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter



                                     รอบรู้เรื่องโรคผิวหนัง


                                         Pityriasis versicolor


                                       โรคติดเชื้อราที่ผิวหนัง เกลื้อน


                                                      โดย...น.ท.ปุณยวีร์  อ่องศรี แผนกโรคผิวหนัง กองอายุรเวชกรรม
                                                      รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ

                โรคติดเชื้อราที่ผิวหนัง เป็นโรคที่พบได้บ่อยในเวชปฏิบัติ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อราที่ผิวหนังชั้นตื้น หรือชั้นหนังก�าพร้า
         (superficial fungal infection) ได้แก่ กลาก เกลื้อน และ การติดเชื้อราแคนดิดา นอกจากอาการแสบคันแล้ว การติดเชื้อ
         ยังก่อให้เกิดผื่นที่มีลักษณะจ�าเพาะ อาจมีลักษณะเป็นตุ่มแดงคัน ผื่นวงแดงขอบชัด สะเก็ดขุย น�้าเหลืองซึม และอาจทิ้งรอยด�า
         รอยด่าง สีผิวดูไม่สม�่าเสมอ จนเกิดความอับอายหรือมีปัญหาต่อการเข้าสังคมได้


         ในที่นี้จะกล่าวถึงโรคติดเชื้อราที่ผิวหนังชั้นตื้น ที่เกิดจากเชื้อเกลื้อน (Pityriasis versicolor)
         สาเหตุการเกิดโรคเกลื้อน

                โรคเกลื้อน (Pityriasis versicolor) เกิดจาก รากลม (yeast) ในสกุล Malassezia spp. ซึ่งเป็นเชื้อราที่ปกติอาศัย
         อยู่ในรูขุมขน เจริญเติบโตโดยอาศัยไขมันในรูขุมขนเป็นอาหาร จึงพบเชื้อนี้มากในบริเวณที่มีต่อมไขมันเยอะๆ เช่น หน้าอก
         แผ่นหลัง ในภาวะปกติเชื้อรากลุ่มนี้จะไม่ก่อให้เกิดโรคหรืออาการผิดปกติ แต่หากมีปัจจัยส่งเสริมให้เกิดการเพิ่มจ�านวน

         ของเชื้อมากขึ้นกว่าปกติก็จะก่อให้เกิดโรคเกลื้อนได้ โดยปัจจัยกระตุ้นได้แก่ การมีเหงื่ออับชื้น โดยเฉพาะในคนที่เหงื่อออกมาก
         ท�างานในที่แจ้ง หรือต้องใส่เสื้อผ้าที่ชุ่มเหงื่อเป็นเวลานาน ภาวะที่ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ เช่น มีการใช้ยากดภูมิ

         การรับประทานหรือทายาในกลุ่มสเตียรอด์เป็นเวลานาน ภาวะโลหิตจาง หรือขาดสารอาหารเป็นต้น















         การวินิจฉัยโรคเกลื้อน

                การวินิจฉัยอาศัยลักษณะอาการและอาการแสดงของโรค รวมกับการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ โดยโรคเกลื้อน
         จะมีอาการแสดงเป็นลักษณะของผื่นราบ ดวงขนาดเล็กๆ ที่มีสีเปลี่ยนไปจากสีผิวปกติ โดยมักมีสีขาว แดง ชมพู หรือ
         น�้าตาลอ่อน อยู่กระจายกันตามการกระจายของรูขุมขน (follicular macules) แต่หากเป็นมาก ผื่นดวงเล็กๆ ก็จะมา

         รวมกันเป็นปื้นขนาดใหญ่ขึ้นได้ (confluent macules > patches) โดยอาจพบสะเก็ดขุยบางๆ เป็นสีขาวๆ ที่ผื่นได้
         หากท�าการขูดเบาๆ  จะพบขุยที่ผื่นหลุดลอกออกมากขึ้นได้  (Besnier’s  sign/scratch  sign)  พบมากบริเวณหน้าอก
         แผ่นหลัง ท้อง ไหล่ หน้า คอ รักแร้ ขาหนีบ ส่วนมากโรคเกลื้อนมักไม่มีอาการ แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจรู้สึกคันหรือระคายเคือง
         ได้เล็กน้อยเวลาเหงื่อออก














        หน้า ๕   ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๕ เล่มที่  ๑๐  เดือน ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๖
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25