Page 11 - ข่าวสารแพทย์นาวีฉบับเดือน ธันวาคม ๒๕๖๖
P. 11

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter



                                   รู้จัก


                                       และ                       โรคซึมเศร้า

                                        เข้าใจ





                                                       ว่าที่ ร.ต.หญิง ณัฐวรรณ  เอกทุ่งบัว  นักจิตวิทยาคลินิก รพ.ทร.กรุงเทพ พร.


                   โรคซึมเศร้า (Depression) หรือ ภาวะซึมเศร้า เป็นโรคทางจิตที่พบได้บ่อย ข้อมูลจากเว็บไซต์องค์การอนามัยโลก
            (World Health Organization : WHO) ได้คาดการณ์ว่ามี ๕ % ของผู้ใหญ่ทั่วโลกที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคนี้ และ

            โรคซึมเศร้าสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัย
                   โรคซึมเศร้ามักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นความอ่อนแอของบุคคล หรือโรคนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะกับผู้ที่พบเจอเรื่องเลวร้ายมา
            เท่านั้น หรือการเข้าใจผิดที่ว่า โรคนี้จะมีแค่อารมณ์เศร้าเพียงอย่างเดียว แต่แท้จริงแล้วโรคซึมเศร้าไม่ได้เกิดขึ้นเพราะ

            เหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง หรือมีอาการเศร้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยและอาการอื่นๆ และอาการเหล่านั้นยังส่งผลกระทบ
            ต่อทุกด้านของชีวิต ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ ความสัมพันธ์กับครอบครัว เพื่อน และชุมชน และอาจส่งผลไปถึงปัญหาที่โรงเรียน

            และที่ท�างานอีกด้วย
                   อาการของโรคนี้จะส่งผลกระทบกับด้านร่างกาย ได้แก่ อาจมีน�้าหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยไม่ได้เกิดจาก
            การตั้งใจควบคุมหรือเพิ่มน�้าหนัก ความอยากอาหารเพิ่มขึ้นอย่างมากหรือการเบื่ออาหาร มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ เช่น

            นอนมากหรือนอนไม่หลับ  ส่งผลกระทบกับจิตใจ ได้แก่ มีความรู้สึกเศร้า หดหู่ หงุดหงิด อาจรู้สึกสูญเสียความสุขหรือความสนใจ
            ในกิจกรรมต่างๆ ไม่อยากท�าสิ่งที่เคยชอบท�า ซึ่งจะแตกต่างจากอารมณ์เศร้าโดยทั่วไป  โดยจะมีอาการเหล่านี้อยู่เกือบตลอด

            ทั้งวัน เกือบทุกวัน เป็นเวลาอย่างน้อย ๒ สัปดาห์ และอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ความรู้สึกผิดมากเกินไปหรือรู้สึก
            คุณค่าในตนเองต�่า มีความคิดเกี่ยวกับการตายหรือการฆ่าตัวตาย รู้สึกเหนื่อยมากหรือมีพลังงานต�่า  และอาการเหล่านี้ท�าให้
            รู้สึกทุกข์ทรมาน  ไม่สามารถใช้ชีวิตประจ�าวันตามปกติได้  จนส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงาน  การเรียน  หรือการใช้ชีวิตใน

            สังคม
                   สาเหตุในการเกิดโรคซึมเศร้า  ไม่ได้เกิดขึ้นจากการพบเจอกับเรื่องเลวร้ายหรือผิดหวังในชีวิตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

            สาเหตุของโรคเกิดจากหลายๆ  ปัจจัยร่วมกัน  ทั้งปัจจัยด้านชีวภาพ  ได้แก่  ความผิดปกติของสารสื่อประสาท  ความผิดปกติ
            ของระบบประสาทต่อมไร้ท่อ หรือโครงสร้างและการท�างานของสมอง ปัจจัยด้านพันธุกรรม อย่างเช่น ผู้ที่เป็นญาติสายตรง
            ของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าอาจมีความเสี่ยงในการเกิดโรคมากกว่าคนทั่วไป  ปัจจัยด้านจิตวิทยาและสังคม ได้แก่ เหตุการณ์ไม่พึง

            ประสงค์ที่เกิดขึ้นในชีวิต  ความเครียด  การสูญเสีย  การที่บุคคลมีบุคลิกภาพหรือใช้กลไกการป้องกันตนเองแบบโทษตนเอง
            หรือการที่บุคคลมีความคิดและการรับรู้ที่บิดเบือน เช่น การประเมินตนเองต�่า มองโลกในแง่ร้าย หรือการคาดการณ์อนาคต

            แบบสิ้นหวัง
                   การรักษาโรคซึมเศร้าที่ได้ผลและมีประสิทธิภาพ มีทั้งการใช้ยาและไม่ใช้ยา
                          การรักษาแบบใช้ยา ต้องได้รับการวินิจฉัยโรคและแพทย์เท่านั้นที่สามารถสั่งให้กับผู้ป่วยได้  ไม่ควรหาซื้อยาเอง

            หรือรับประทานยาของผู้อื่น ซึ่งการรับยาต้านซึมเศร้า (Antidepressants) จะต้องท�าความเข้าใจก่อนว่า ยาเหล่านี้ไม่เสพติด
            การรับประทานยาอย่างสม�่าเสมอตามที่แพทย์สั่งเป็นเรื่องที่ส�าคัญมาก การรับประทานยาในช่วงแรกอาจมีผลข้างเคียงอยู่บ้าง

            แต่ก็จะหายไปในที่สุด  หลังจากเริ่มรับประทานยาไปแล้วโดยทั่วไปต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์ก่อนที่จะรู้สึกดีขึ้น  และที่ส�าคัญ
            ห้ามหยุดยาเองเพียงเพราะรู้สึกว่าอาการดีขึ้นบ้าง
                          การรักษาแบบไม่ใช้ยา เช่น การท�าจิตบ�าบัด   (Psychotherapy)   หรือการให้การปรึกษา  (Counselling)   เป็นวิธี

            ลดอาการซึมเศร้าวิธีหนึ่ง โดยจะเป็นการพูดคุยกับนักจิตวิทยา นักบ�าบัด หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ซึ่งการพูดคุยนั้นมี

                                                ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๕ เล่มที่  ๑๒  เดือน ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๖  หน้า ๘
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16