Page 9 - ข่าวสารแพทย์นาวีฉบับเดือน ธันวาคม ๒๕๖๖
P. 9

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter



                                         รอบรู้เรื่องโรคผิวหนัง


                                        โรคงูสวัด Herpes zoster



                                                               โดย...น.ท.ปุณยวีร์  อ่องศรี  แผนกโรคผิวหนัง กองอายุรเวชกรรม
                                                                                        รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พร.

                โรคงูสวัด (herpes zoster) เป็นโรคที่เกิดการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลา (Varicella zoster virus : VZV) ซึ่งเป็นไวรัสก่อโรค
          ชนิดเดียวกันกับโรคอีสุกอีใส (chicken pox) โดยงูสวัดจะพบในผู้ป่วยที่มีประวัติเคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน งูสวัดจะแสดงอาการ
          เมื่อร่างกายมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือภูมิต�่ากว่าปกติ เช่น ในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน

          ผู้ป่วยมะเร็งที่รับการรักษาด้วยยาเคมีบ�าบัด ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคตับ โรคไตเรื้อรัง หรือในผู้ที่มีความเครียดสูง พักผ่อนไม่เพียงพอ
          งูสวัดเป็นโรคที่พบได้บ่อยในเวชปฏิบัติ พบได้ทุกเพศทุกวัย การพักผ่อนให้เพียงพอ การออกก�าลังกาย ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
          ร่วมกับการฉีดวัคซีนป้องกัน จะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคงูสวัดได้


          สาเหตุการเกิดโรคงูสวัด
                โรคงูสวัดเกิดการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลา (Varicella zoster virus : VZV) โรคสามารถติดต่อได้โดยการสัมผัสกับตุ่มน�้าโดยตรง
          หรือผ่านทางการหายใจ เมื่อร่างกายได้รับเชื้อครั้งแรก จะเกิดเป็นโรคอีสุกอีใสก่อน คือมีตุ่มน�้าใสขึ้นทั่วตัว อาจพบร่วมกับไข้ ปวดเมื่อย

          ตามตัวได้ เมื่อโรคอีสุกอีใสสงบลง เชื้อไวรัสวาริเซลลาจะไม่ถูกจ�ากัดไปจนหมด แต่จะไปซ่อนตัวอยู่ที่ปมประสาทซีกใดซีกหนึ่งของ
          ร่างกาย โดยไม่แสดงอาการ จนกว่าจะมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ท�าให้เชื้อไวรัสแบ่งตัวเพิ่มปริมาณและเดินทางออกจากปมประสาท

          มาแสดงอาการทางผิวหนังที่เป็น dermatome เดียวกันกับที่เชื้อไวรัสไปซ่อนตัวอยู่ตั้งแต่แรก

          การวินิจฉัยโรคงูสวัด

                การวินิจฉัยอาศัยลักษณะอาการและอาการแสดงของโรคเป็นหลัก โดยผู้ป่วยมักจะมีอาการคันยิบๆ ปวดแสบปวดร้อน หรือ
          รู้สึกแปลบๆ ที่ผิวหนัง ๑ - ๓ วันก่อนที่จะเริ่มมีผื่นตุ่มแดง ขึ้นตามแนวบริเวณที่ปวด ต่อมาผื่นตุ่มแดงจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นและมี
          ลักษณะกลายเป็นตุ่มน�้ารวมกันเป็นกลุ่ม (groups of erythematous papules, vesicles) กระจายบนผิวหนังซีกใดซีกหนึ่ง
          ของร่างกาย ตามแนว dermatome ที่เลี้ยงโดยปมประสาทที่มีเชื้อวาริเซลลาซ่อนอยู่ ผื่นจะด�าเนินอยู่ประมาณ ๗ - ๑๐ วัน ก่อนที่

          จะเริ่มแตกออกเป็นแผล ตกสะเก็ด และหลุดลอกออกไป ทั้งนี้ผู้ป่วยอาจมีอาการร่วมอื่นๆ นอกจากอาการทางผิวหนังด้วย เช่น ไข้
          อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ
                การตรวจเพิ่มเติมทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันโรคงูสวัด  สามารถท�าได้ด้วยการตรวจหาหลักฐานของการติดเชื้อ  เช่น
          การตรวจ Tzanck’s (wright) smear เพื่อหาลักษณะ multinucleated giant cell ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ผิวหนัง

          เมื่อมีการติดเชื้อในกลุ่มนี้ หรือการตรวจสารพันธุกรรมของเชื้อโดยตรง (PCR for VZV DNA)

          การพยากรณ์โรคงูสวัด

                โรคงูสวัดเป็นโรคติดเชื้อ และสามารถแพร่กระจายให้กับผู้ที่ยังไม่เคยสัมผัสเชื้อ (ยังไม่เคยเป็นอีสุกอีใส โดยเฉพาะในเด็ก)
          หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องได้  โดยปกติหากไม่ได้รับการรักษาโรคงูสวัดก็สามารถหายเองได้  แต่ในผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกัน
          บกพร่องรุนแรง เขื้อวาริเซลลาอาจแพร่กระจายไปตามผิวหนังทั่วร่างกาย รวมถึงอวัยวะภายในร่วมด้วยได้ (disseminated
          herpes  zoster  infection)  ภาวะนี้ถือเป็นภาวะรุนแรง  จ�าเป็นต้องให้ยาฆ่าเชื้อไวรัสทางเส้นเลือดด�า  นอนโรงพยาบาล

          และอยู่ห้องแยกแรงดันอาการลบ เนื่องจากในภาวะนี้การแพร่กระจายของเชื้อจะฟุ้งไปในอากาศ (airborne transmission)
          เหมือนกับการติดเชื้ออีสุกอีใส โรคงูสวัดในบาง dermatome อาจท�าให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เช่น trigeminal nerve
          (Cranial nerve V) โดยเฉพาะ ophthalmic branch ที่อาจเกิดภาวะ กระจกตาหรือจอประสาทตาอักเสบ (zoster ophthalmicus)
          ร่วมด้วย ซึ่งถือเป็นภาวะฉุกเฉินต้องให้จักษุแพทย์ร่วมประเมิน และหาก facial nerve (Cranial nerve VII) ได้รับผลกระทบ

          ร่วมด้วย อาจท�าให้เกิดภาวะอ่อนแรง อัมพาตใบหน้าครึ่งซีก (Ramsay Hunt syndrome) ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย


                                                  ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๕ เล่มที่  ๑๒  เดือน ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๖  หน้า ๖
   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14