Page 13 - ข่าวสารแพทย์นาวีฉบับเดือน มีนาคม ๒๕๖๖
P. 13
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
การตรวจหาปริมาณไขมันร่างกายและในช่องท้องด้วย CT-Scan และ MRI เป็นการตรวจที่มีความแม่นย�าสูงสุด และ
ใช้เป็นมาตรฐานเทียบเคียงกับวิธีการตรวจอย่างอื่น (Goal standard) อย่างไรก็ตามการตรวจมีความซับซ้อน ใช้เวลานาน
และมีราคาแพง จึงเหมาะส�าหรับงานวิจัยมากกว่าที่จะน�ามาใช้ในการป้องกันและรักษาภาวะน�้าหนักเกิน การวัดส่วนต่างๆ
ของร่างกายมนุษย์ตามหลักวิทยาศาสตร์ หรือมานุษยมิติ (Anthropometry) เช่น การวัดดัชนีมวลกาย อัตราส่วนรอบเอวต่อ
รอบสะโพก สามารถบอกปริมาณไขมันในร่างกายและในช่องท้องได้ ให้ความแม่นย�าที่ใกล้เคียงกับ goal standard ท�าได้ง่าย
ใช้ทรัพยากรน้อย และสามารถตรวจได้คราวละมากๆ แต่ละวิธีจะมีจุดเด่นจุดด้อยอะไรบ้าง พอสรุปได้ดังนี้
ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index ; BMI)
ค่าดัชนีมวลกายมีใช้มานานกว่า ๒๐๐ ปี ใช้ประเมิณสภาวะอ้วนผอม และน�้าหนักที่เหมาะสมในแต่ละระดับความสูง
2
สามารถค�านวณได้ด้วยการน�า น�้าหนักเป็นกิโลกรัมหารด้วยส่วนสูงเป็นเมตรยกก�าลังสอง ดังสมการ BMI = Kg/M
7
ค่าที่ได้จะจ�าแนกผู้ใหญ่ออกเป็นกลุ่มต่างๆ (ตารางที่ ๑) โดยองค์การอนามัยโลกได้แยกคนเอเซียจากกลุ่มมาตรฐาน
เนื่องจากมีโครงร่างที่เล็กกว่า และที่ค่า BMI เท่ากันคนเอเซียจะมีปริมาณเนื้อเยื่อไขมันในร่างกายมากกว่าคนยุโรป
Table 1 : Nutritional Status based the WHO and "Asian criteria" values
WHO criteria Asian criteria
Nutritional Status based BMI cut-off BMI cut-off
Underweight <18.5 <18.5
Normal <18.5 - 24.9 <18.5 - 22.9
Overweight 25 - 29.9 23 - 24.9
Pre-Obese - 25 - 29.9
>30
Obese - -
>30
Obese Type 1 (obese) 30 - 40 30 - 40
Obese Type 2 (morbid obese) 40.1 - 50 40.1 - 50
Obese Type 3 (super obese) >50 >50
ตารางที่ ๑ แสดงเปรียบเทียบค่า BMI มาตรฐานสากลและมารฐานอาเซียน
BMI ยังสามารถค�านวณหาร้อยละของไขมันในร่างกาย (Body fat percentage ; BFP) ได้ด้วยสูตรดังนี้
ผู้ชาย BFP = 1.20 × BMI + 0.23 × Age - 16.2
ผู้หญิง BFP = 1.20 × BMI + 0.23 × Age - 5.4
เด็กชาย BFP = 1.51 × BMI - 0.70 × Age - 2.2
เด็กหญิง BFP = 1.51 × BMI - 0.70 × Age + 1.4
ประโยชน์ของ BMI คือ เป็นวิธีที่ง่าย ใช้เครื่องมือและงบประมาณที่น้อย ไม่ต้องการทักษะของผู้ตรวจมากนัก
สะดวกรวดเร็ว สามารถตรวจในปริมาณมากได้ มีข้อมูลงานวิจัยสนับสนุนจ�านวนมากเนื่องจากใช้มานานกว่า ๒๐๐ ปี แต่สะท้อน
ถึงปริมาณไขมันในร่างกายโดยรวมหรือภาวะอ้วนผอมได้คร่าวๆ เท่านั้น ค่า BMI ไม่ได้บอกถึงปริมาณไขมันในช่องท้อง เนื่องจาก
เอาตัวแปรเพียงสองตัว คือน�้าหนักและส่วนสูงมาค�านวณหาปริมาณไขมันในร่างกายอย่างคร่าวๆ จึงเหมาะส�ารับเป็นตัวคัดกรอง
8
เบื้องต้น สามารถท�านายความเสี่ยงที่จะเกิดโรคและอัตราตายได้ดีพอสมควร นอกจากนี้ที่ค่า BMI เท่ากันอาจมีปริมาณไขมัน
9
ในร่างกายไม่เท่ากัน เช่น ในผู้หญิง และผู้สูงอายุ จะมีปริมาณเนื้อเยื่อไขมันมากกว่าผู้ชาย ในทางตรงกันข้ามนักกีฬาจะมี
ปริมาณไขมันในร่างกายน้อยกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้ ในภาวะตั้งครรภ์ นักเพาะกาย ค่า BMI จะไม่สะท้อนถึงปริมาณไขมัน
ในร่างกายอย่างแท้จริง โดยสรุป BMI มีประโยชน์ในการคัดกรองหาภาวะน�้าหนักเกินหรือต�่ากว่าเกณฑ์ และไม่แม่นย�าในประชากร
บางกลุ่ม และไม่ได้บอกถึงปริมาณไขมันในช่องท้อง จึงมีการพัฒนาสูตรและเครื่องมือที่ใช้ในการหาปริมาณไขมันในร่างกาย
ในล�าดับต่อไป
ข่าวสารแพทย์นาวี ปีที่ ๖๕ เล่มที่ ๓ เดือน มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖ หน้า ๘

