Page 18 - ข่าวสารแพทย์นาวีฉบับเดือน มีนาคม ๒๕๖๖
P. 18

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter




              จากเหตุผลดังกล่าว  ความอดทนจึงเป็นองค์ประกอบของสมรรถภาพทางกายของนักกีฬาประเภทไตรกีฬาที่ได้รับการฝึก
        เป็นล�าดับแรก  ถ้าร่างกายขาดพื้นฐานความอดทนของกล้ามเนื้อและความอดทนของระบบหัวใจและระบบไหลเวียนเลือดแล้ว

        การฝึกพัฒนาสมรรถภาพทางกายด้านอื่นจะไม่สามารถปฏิบัติหรือฝึกได้ต่อเนื่อง ท�าให้การพัฒนาองค์ประกอบด้านต่างๆ ไม่สามารถ
        ด�าเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่เต็มที่  โดยทั่วไปแล้วความอดทนพื้นฐานที่ควรได้รับการฝึกนั้นแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท

        นักวิทยาศาสตร์การกีฬาหรือผู้ฝึกสอนที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการฝึกซ้อมต้องท�าความเข้าใจก่อนที่จะก�าหนดรูปแบบการฝึก
        ซึ่งมีรายละเอียดที่เป็นหลักการฝึกความอดทนทั้งสองรูปแบบ ดังต่อไปนี้

              ๑. ความอดทนแบบใช้ออกซิเจน (Aerobic  Endurance)
              ความอดทนในรูปแบบนี้เป็นที่คุ้นเคยของนักกีฬา ผู้ฝึกสอนกีฬา และนักวิทยาศาสตร์การกีฬา โดยทั่วไปค�าว่าแอโรบิก

        หมายถึง “การประกอบไปด้วยออกซิเจน” ซึ่งมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับระบบกล้ามเนื้อ (Muscular System) ระบบหายใจและ
        ไหลเวียนเลือด  (Cardiorespiratory  System)  เลยเรียกว่าความอดทนแบบใช้ออกซิเจนหรือความอดทนของระบบหายใจ
        และไหลเวียนเลือด มีความหมายที่ท�าให้เข้าใจง่ายขึ้น คือ การท�างานของกล้ามเนื้อหรือเคลื่อนไหวร่างกายที่ใช้ออกซิเจนผลิตพลังงาน

        ให้กล้ามเนื้อหดตัวเคลื่อนไหวเป็นระยะเวลานาน โดยรูปแบบนี้ร่างกายจะต้องอาศัยระบบไหลเวียนเลือดและระบบหายใจที่มี
        ประสิทธิภาพเป็นเส้นล�าเลียงอากาศ คือ ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายโดยส่งไปที่กล้ามเนื้อเพื่อให้ผลิตเป็นพลังงานน�าไปใช้หดตัว

        ให้เกิดการเคลื่อนไหว ดังนั้นการฝึกซ้อมหรือการเล่นกีฬาในรูปแบบต่อเนื่องจะช่วยพัฒนาระบบหายใจและระบบเวียนเลือด
        ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันยังช่วยเพิ่มความสามารถในกระบวนการใช้ออกซิเจนของกล้าเนื้อมากขึ้น ท�าให้
        กล้ามเนื้อมีพลังงานเพียงพอที่จะน�าไปใช้ในการหดตัวท�างานอย่างต่อเนื่องตลอดการฝึกซ้อมหรือแข่งขัน  การฝึกพัฒนาความอดทน

                                                 ในรูปแบบนี้จะถูกก�าหนดให้ฝึกในช่วงแรกๆ อย่างสม�่าเสมอขึ้นอยู่กับระยะ
                                                 เวลาและความต้องการของนักกีฬาแต่ละประเภทโดยส่วนใหญ่นิยมใช้

                                                 กิจกรรมที่เคลื่อนที่เคลื่อนไหวแบบต่อเนื่อง (Continue) การวิ่งแบบเร็วสลับ
                                                 ช้าหรือหนักสลับเบา  (Interval  Training)  และการฝึกแบบสถานี  (Circuit
                                                 Training)  เพื่อพัฒนาความอดทนแข็งแรงให้กล้ามเนื้อที่ต้องเน้นเป็นพิเศษ

                                                 รูปแบบการฝึกความอดทนลักษณะนี้เหมาะสมกับชนิดกีฬาที่มีการเคลื่อนไหว
                                                 หรือเป็นกิจกรรมต่อเนื่องเป็นระยะนาน เช่น ไตรกีฬา ที่มีการเคลื่อนไหวหรือ
                                                 เคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องนักกีฬาประเภทไตรกีฬาควรได้รับการฝึกสม�่าเสมอ

                                                 เพื่อใช้กระบวนการผลิตพลังงานหรือน�าออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายเพิ่มมากขึ้น
                                                 ส่งผลให้นักกีฬามีอาการล้าหรือเหนื่อยช้าลงรวมทั้งท�าให้ร่างกายฟื้นสภาพ
                                                 สู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น  การฝึกความอดทนรูปแบบนี้ใช้ระยะเวลาในการฝึก

                                                 ต่อเนื่อง ๖ - ๘ สัปดาห์ จึงจะเห็นผล และสิ่งส�าคัญการก�าหนดความหนัก
                                                 และปริมาณการฝึกต้องให้เหมาะสมกับช่วงอายุและประสบการณ์ในการฝึก

                                                 ของนักกีฬาด้วย
                                                          สรุปการฝึกความอดทนแบบใช้ออกซิเจนเป็นรูปแบบการฝึกที่ควร
                                                 ให้นักกีฬาได้รับการฝึกตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของฤดูกาล เพื่อพัฒนาความอดทน

                                                 ของระบบหายใจระบบไหลเวียนเลือดและพื้นฐานความแข็งแรงอดทนของ
                                                 กลุ่มกล้ามเนื้อหลักที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวให้มีความพร้อมขึ้นเรื่อยๆ

        เพื่อเตรียมรองรับการฝึกที่จะปรับเปลี่ยนไปสู่การฝึกที่หนักขึ้นจนเกิดความอดทนของร่างกายเพื่อรองรับการฝึกความอดทน
        ในรูปแบบอื่นๆ  ที่เข้มข้นมากขึ้น  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบหัวใจและไหลเวียนเลือดที่เป็นพื้นฐานส�าคัญในการเล่นกีฬาหรือ
        ออกก�าลังกายให้ด�าเนินไปอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพตลอดการออกแรงฝึกซ้อมหรือแข่งขันกีฬาต่อไป

                                                                                            อ่านต่อฉบับหน้า

       หน้า ๑๓  ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๕ เล่มที่  ๓  เดือน มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23