Page 16 - ข่าวสารแพทย์นาวีฉบับเดือน มิถุนายน ๒๕๖๖
P. 16

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter



              พินัยกรรมจึงเข้ามามีบทบาทส�าคัญในส่วนนี้ยังเคยนึกว่าถ้าเป็นในอดีตไม่ต้องยุ่งยาก วุ่นวายมาก คือถ้าทราบว่าพ่อแม่ ปู่ย่า
       ตายาย ใกล้จะสิ้นลมก�าลังจะเสียชีวิต ก็มาชุมนุมกันในงานวันปลงศพ หลังจากนั้นก็เอาทรัพย์สินเงินสดออกมา แบ่งปันกันเป็นที่

       เรียบร้อย ใครไม่มาในงานศพก็ถือว่าสละสิทธิ์ แต่ที่แบ่งกันยากก็คือที่ดิน กรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของที่ดิน วุ่นวายพอสมควร สมัยนี้
       คงไม่ได้ เพราะจิตใจของทายาทเปลี่ยนไป มีความเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว อิจฉาริษยาเพิ่มขึ้น ความยุติธรรม ความเหมาะสม จึงเป็นค�า

       ที่ใช้มาแอบอ้างกัน ในหมู่ทายาทของกองมรดกเหล่านั้น และน�าไปสู่ความขัดแย้งขึ้นตามมา จนอาจกลายเป็นกรณีพิพาทระหว่าง
       พี่น้อง ไปจนถึงทะเลาะจนบ้านแตก กลายเป็นมรดกสีเลือด เป็นต้น
              พินัยกรรมเป็นนิติกรรมตามกฎหมาย ข้อความในพินัยกรรม เป็นค�าสั่ง หรือเจตนา ของเจ้ามรดกคือผู้ตาย ที่ท�าไว้เพื่อจัดการ

       เรื่องทรัพย์สินของตนเอง หรือสั่งไว้ให้ด�าเนินการในเรื่องต่างๆ หลังจากที่ตนเสียชีวิตลง ผู้ที่ถูกระบุชื่อลงในพินัยกรรมเป็นผู้มีสิทธิ์ที่
       จะรับมรดกตามค�าสั่งของผู้ตาย ที่เขียนระบุไว้อย่างชัดเจน บุคคลเหล่านี้ คือ  ทายาทโดยพินัยกรรม แต่ถ้าไม่มีการเขียนพินัยกรรม

       เกิดขึ้นมรดกของผู้ตายนั้นจะ ตกทอดให้แก่ ทายาทโดยธรรม (เริ่มปวดหัวแล้วใช่ไหมค�าศัพท์ทางกฎหมายเหล่านี้)
             การจัดท�าพินัยกรรมนั้นก็มีอยู่หลายรูปแบบ  แต่แบบที่ค่อนข้างจะท�าให้ทายาทที่มาฟังการอ่านพินัยกรรมนั้น  เชื่อถือได้มาก
                                   ทายาทไม่เถียงกัน ทายาทไม่กล่าวหาว่ามีการปลอมเอกสารปลอมลายเซ็นของเจ้ามรดก หรือผู้ตาย

                                   จะได้แก่ แบบเอกสารฝ่ายเมือง คือ ผู้ท�าแสดงความจ�านงที่อ�าเภอ ลงลายมือชื่อ มีพยานสองคน
                                   ใส่ซองปิดผนึก  ท�าเป็นแบบเอกสารลับ  ลงลายมือชื่อก�ากับอีกครั้งตรงที่ปิดผนึก  และน�าไปให้

                                   เจ้าพนักงานของรัฐที่อ�าเภอ เพื่อจอดถ้อยค�าประทับตราไว้บนซอง พร้อมลงลายมือชื่อ วันเดือนปี
                                   อีกครั้งหนึ่ง เพื่อยืนยันเอกสารพินัยกรรมฉบับนี้เป็นฉบับจริงไม่มีการปลอมขึ้นมา แต่ถ้าฉุกเฉินจริงๆ
                                   เขียนด้วยลายมือตนเองทั้งหมด ลงลายมือชื่อ ไม่จ�าเป็นต้องมีพยาน และเขียน วันเดือนปี ก็พอ

                                   ใช้เป็นพินัยกรรมได้เหมือนกัน
              ทายาทโดยพินัยกรรมนั้นจะเป็นใครก็ได้ ไม่จ�าเป็นต้องเป็น ลูกหลาน คู่สมรส หรือ พ่อแม่หรือญาติ อาจเป็นเพื่อน อาจเป็น

       คนรู้จัก  อาจเป็นมูลนิธิหรือองค์กร  อาจเป็นนิติบุคคลก็ได้  ดังนั้นการเขียนลงรายละเอียดในพินัยกรรมนั้นก็ต้องตรวจตราให้ดีและ
       พินัยกรรมนี้สามารถเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ก็ได้ เปลี่ยนแปลงกี่ครั้งก็ได้แก้ไขกี่ครั้งก็ได้ ตราบใดที่เจ้ามรดกหรือบุคคลนั้นยังมีชีวิตอยู่
       ซึ่งเป็นผลดีกับคนข้างหลังที่สามารถจัดการทรัพย์สินเอกสารต่างๆ ง่ายขึ้นชัดเจนปราศจากข้อโต้แย้ง

              ทายาทโดยธรรมนั้นจะเข้ามามีบทบาทก็ต่อเมื่อผู้ตายไม่มีพินัยกรรม การแจงล�าดับความส�าคัญของทายาทโดยธรรม ซึ่งมีถึง
       ๖ ล�าดับขั้น ตั้งแต่ ผู้สืบสันดาน (ลูกหลาน เหลน โหลน ลื้อ) พ่อแม่ผู้ตาย พี่น้องร่วมพ่อแม่เดียวกัน พี่น้องร่วมพ่อ พี่น้องร่วมแม่เดียวกัน

       ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา ความส�าคัญลดหลั่นกันไป เป็นปัจจัยน�ามาพิจารณาแบ่งปันกองมรดกของผู้ตาย ประชาชนส่วนใหญ่ จะอยู่ในคน
       เหล่านี้  จะไม่มีพินัยกรรม  ตายแล้วปล่อยให้เป็นปัญหากับคนรุ่นหลังมาแก้ไขกันต่อไป  และคิดว่าหลายคนคงมีประสบการณ์  ในเรื่อง
       เหล่านี้ ในเรื่องของการยื่นค�าร้องต่อศาล จัดตั้งผู้จัดการมรดกในการแก้ปัญหาต่างๆ ของการจัดแบ่งปันกองมรดก และอาจจะมีการคัดค้าน

       การเป็นผู้จัดการมรดกได้อีก ความยุ่งยากเหล่านี้ก็จะเกิดขึ้นมากทวีคูณ หากมีญาติมาก ทรัพย์สิน
       ที่มากมายก็จะเกิดความซับซ้อน  ญาติฝ่ายลูกเขย  ญาติฝ่ายลูกลูกสะใภ้  ญาติฝ่ายภรรยา

       ญาติฝ่ายสามี ความเห็นแก่ได้ เพื่อประโยชน์ของตนไม่ต้องการเสียเปรียบ เมื่อญาติทั้งหลาย
       ถูกความโลภครอบง�า ความเห็นแก่ได้จากกิเลสเหล่านี้ก็เกิดความขัดแย้ง และทะเลาะกันในที่สุด
       เพราะไม่มีตัวชี้ขาดคือพินัยกรรมนั่นเอง

              และถ้าทรัพย์สินที่สะสมไว้ตลอดชีวิต  ท่านไม่รู้จะให้ใคร  หรือไม่มีใครที่จะให้  ไม่มี
       ทายาท ไม่มีนิติบุคคลที่จะรับทรัพย์สินเหล่านั้นจะตกเป็นของแผ่นดินโดยปริยาย

              พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสใช้เงิน  ใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่  หรือใช้ประโยชน์ของที่เรามีอยู่หรือเปล่า  ไม่มีใครตอบได้  สิ่งที่ดีคือ
       ควรเตรียมตัวเอาไว้ความไม่ประมาทในการด�าเนินชีวิตของตัวเอง  จะมอบทรัพย์สินของเราให้กับคนที่เราไว้ใจดูแลต่อไปในอนาคต
       ไม่เหมือนกับความเชื่อเก่าๆ ที่กล่าวว่า ถ้าเขียนพินัยกรรมเป็นการแช่งตัวเองให้ตายไวหมดสมัยแล้ว ถ้าไม่อยากสร้างความเดือดร้อน

       ให้กับคนรุ่นหลัง จัดท�าพินัยกรรมเสียแต่วันนี้ ไม่มีวันที่สายเกินไปที่จะเริ่มท�า


               ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๕ เล่มที่  ๖  เดือน มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๖
      หน้า ๑๓
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21