Page 30 - 01-08-62
P. 30

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter


                                         ธรรมะกับคติธรรมสอนใจ





                                                เรื่อง...มหาศาลา

                 มีศาลใหญ่หลังหนึ่ง มีประตูเข้าออกได้เพียง ๒ ประตู คือ ชาติทวารและมรณทวาร ศาลาหลังนี้เป็นศาลาที่ใหญ่
         ที่สุด ภายในมีสิ่งของสารพัด ใครอยากได้อะไรก็สามารถไขว่คว้าหาเอาได้ แต่ผู้ที่จะเข้าไปภายในศาลาต้องเข้าทางประตูชื่อ
         ชาติทวาร  และเวลาจะออกก็ต้องออกทางประตูชื่อมรณทวารเท่านั้น  อย่างไรก็ตาม  ในศาลาหลังนี้มีกฎเหล็กอยู่ข้อหนึ่งที่
         ใครก็ตามจะละเมิดมิได้ นั้นก็คือ เมื่อได้เข้าพักในศาลานี้จะกอบโกยเอาข้าวของสมบัติพัสถานไว้เท่าไรก็ได้ แต่เวลาจะออก
         จากศาลาหลังนี้ไป จะน�าสิ่งของอะไรติดตัวไปแม้แต่นิดเดียวไม่ได้เด็ดขาด
                 ศาลาหลังนี้ ก็คือโลกมนุษย์นี้เอง ที่เราทุกคนต้องเข้าทางประตู คือ การเกิด และออกทางประตู คือ ความตาย
         เป็นที่ประชุมทรัพย์สินเงินทองและผลประโยชน์ที่แล้วแต่ใครจะสามารถไขว่คว้าไว้ได้   แต่เมื่อตายไม่มีใครสามารถน�า

         ติดตัวไปได้เลย
                 การมองโลกนี้เป็นเพียงศาลาใหญ่ที่พักชั่วคราว เป็นทั้งที่พบและที่จาก เป็นทั้งที่ได้และที่เสีย จะช่วยฝึกใจให้
         มองเห็นความจริง รู้จักโลกและชีวิตดีขึ้น น�าไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสมใน ๓ ด้าน คือ
                 ๑. ปฏิบัติหน้าที่ได้ดีขึ้น เพราะไม่มีสิ่งใดเป็นสาระแก่นสารได้จริง นอกจากความดี
                 ๒. ปฏิบัติต่อผู้อื่นได้ดีขึ้น เพราะมองไม่เห็นว่าจะเบียดเบียนเอารัดเอาเปรียบไปเพื่ออะไร ควรอยู่กันด้วยไมตรี
         เห็นอกเห็นใจกันและกัน
                 ๓. ปฏิบัติต่อจิตใจได้ถูกต้องขึ้น  เพราะบรรเทาความยึดมั่นลงได้ ไม่ว่าได้มาหรือเสียไป ก็จะไม่เป็นทุกข์เกินเหตุ

         เพราะรู้เท่าทันความจริงของชีวิต
                 เมื่อเราพิจารณาด้วยปัญญาอย่างรอบด้านแล้วจะท�าให้เรามีความสุขได้ในศาลาคือโลกมนุษย์นี้ อย่างแน่นอน



                                            เรื่อง...มนุษย์กับวัตถุ


                 มนุษย์กับวัตถุย่อมคู่กันเสมอ แต่ปัจจุบัน การพัฒนาในด้านวัตถุที่จะสนองความต้องการของมนุษย์ ได้ก้าวหน้า

          ไปทั้งในด้านคุณภาพและรูปแบบอย่างไม่มีขีดจ�ากัด  หากมนุษย์ไม่พัฒนาตัวเองไปด้วย  ก็จะตกสู่กระแสบริโภคนิยม
          เห็นว่าชีวิตที่มีเป้าหมายอยู่ที่การได้มาและเสพเสวยวัตถุตามที่ปรารถนา  คือเอาวัตถุเป็นอุดมการสูงสุด  หากเป็นเช่นนี้
          คุณค่าของมนุษย์ก็จะต�่าลงเรื่อยๆ  จากการเป็นผู้ก�าหนดวัตถุ กลายเป็นผู้ถูกวัตถุก�าหนด มนุษย์จึงจ�าเป็นจะต้องรักษา
          คุณภาพและความเข็มแข็งของตนเองไว้ให้ดี ด้วยการพัฒนาใน ๕ อย่าง คือ

                 ๑.  ศรัทธา  เชื่อในความดีและความถูกต้องว่าเป็นคุณค่าแท้ของมนุษย์  ไม่อายเมื่อขาดแคลนวัตถุ  ไม่ท้อเมื่อ
          ต้องท�าความดี และไม่หวั่นไหวเมื่อมีสิ่งล่อใจ
                 ๒. ศีล ควบคุมความประพฤติของตัวเองได้ ถึงบางครั้งจิตใจจะดิ้นรนไขว้เขว ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของความคิด
          ไม่ยอมละเมิดกรอบที่ตั้งไว้

                   ๓. สุตะ ใฝ่ใจต่อการศึกษา เข้าใจความเปลี่ยนแปลงของโลกและสังคม จนก�าหนดจุดยืนของตัวเองได้ถูกต้อง
                 ๔. จาคะ ฝึกเรื่องการเผื่อแผ่เสียสละ จนท�าให้พบความจริงว่า ความสุขและความภาคภูมิใจของมนุษย์ บางครั้ง
          ก็เกิดจากการให้ ไม่ใช่ต้องได้มาอย่างเดียว
                 ๕. ปัญญา เห็นความจริง รู้ว่าสรรพสิ่งเป็นไปตามสภาวธรรม มีเหตุและปัจจัยประกอบกันครบก็เกิดเป็นสิ่งนั้น

          สิ่งนี้  เป็นเรื่องนั้นเรื่องนี้  แต่เมื่อมนุษย์เอาความรู้สึกและค่านิยมเข้าไปปรุงแต่งจึงยึดติด  ถือมั่น  และนี่เป็นต้นเหตุแห่ง
          การดิ้นรนกระวนกระวายทั้งปวง
                 หัวข้อทั้ง ๕ นี้ เป็นบทฝึกให้มนุษย์แข็งแกร่ง แม้ต้องเกี่ยวข้องกับวัตถุก็จะไม่สูญเสียคุณค่าของตนเองไปเลย



            จัดท�าโดย  กองอนุศาสนาจารย์ ยศ.ทร.



        หน้า ๒๓    ข่าวสารแพทย์นาวี   ปีที่ ๖๑   เล่มที่ ๘ เดือน สิงหาคม  พ.ศ.๒๕๖๒
   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35