Page 45 - ข่าวสารฯ ฉบับ 6210 ต.ค.๖๒
P. 45
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
ธรรมะกับคติธรรมสอนใจ
เรื่อง...ธรรมะล้าสมัยจริงหรือ
ถ้าจับเอาแมลง ๒ ชนิด คือ แมลงวัน กับแมลงผึ้ง มาขังไว้ในที่เดียวกัน ปล่อยให้อดอาหารสักชั่วระยะหนึ่งแล้วปล่อย
ให้บินไปโดยอิสระ สัตว์ทั้ง ๒ ชนิด จะบินไปในทิศทางตรงข้ามแมลงวันจะบินต�่าเพื่อหาสิ่งสกปรกเน่าเหม็นบนพื้นดินกิน
ส่วนแมลงผึ้งจะบินเหินสู่ฟ้าเพื่อหาน�้าหวานจากเกสรดอกไม้เป็นอาหาร ที่เป็นเช่นนี้ เพราะแมลงวันเกิดจากหนอนที่ชอบ
กินของสกปรกแต่แรก จึงติดรสสิ่งสกปรกเป็นวิสัย ส่วนแมลงผึ้งเกิดแต่ตัวหนอนที่นอนอยู่ในรังผึ้ง กินน�้าหวานจากเกสร
เป็นประจ�า จึงชอบรสจากเกสรดอกไม้เป็นวิสัย
เมื่อน�าพฤติกรรมของแมลงดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับสภาพจิตของมนุษย์ก็จะได้คติสอนใจว่า ใครก็ตามถ้าปล่อยให้
จิตหมกมุ่นอยู่กับความชั่วมาแต่แรก ไม่เคยช�าระจิตให้รู้จักผิดชอบชั่วดี จิตก็จะชินกับความชั่ว เมื่อปล่อยให้เป็นอิสระเมื่อใด
จิตก็จะใฝ่ต�่าโดยตลอดเหมือนแมลงวันที่ชอบสิ่งสกปรกเป็นวิสัย จึงใฝ่หาแต่ของสกปรกเป็นประจ�า ตรงข้ามใครก็ตามที่พยายาม
ยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น เพื่อให้พ้นความชั่วอยู่กับความดีเป็นประจ�า จิตจะคุ้นเคยกับความดี และใฝ่สูงโดยอัตโนมัติ
เหมือนแมลงผึ้งปล่อยให้มีอิสระเมื่อใดก็จะใฝ่สูง เพื่อหาเกสรดอกไม้กินตามวิสัย
พระธรรมค�าสอนในพระพุทธศาสนา ซึ่งสรุปได้ ๓ ประการ คือให้เว้นความชั่วทั้งหมดท�าแต่ความดีตลอดเวลา
และช�าระจิตให้สะอาดอยู่เสมอ จึงเป็นค�าสอนที่ช่วยยกระดับจิตให้พ้นความชั่วอยู่กับความดีตลอดเวลา เท่ากับได้
สร้างแรงผลักดันให้จิตใจใฝ่สูงโดยอัตโนมัติ แล้วยังจะคิดว่าธรรมะเป็นของล้าสมัยอยู่อีกหรือ
เรื่อง...อย่าเป็นไม้ประเภทที่ ๕
นักนิยมต้นไม้แบ่งต้นไม้ออกเป็น ๔ ประเภท คือ ประเภทที่ ๑ ไม้ปลูกไว้กิน เช่น กินดอก กินใบ กินผล ประเภทที่ ๒
ไม้ปลูกไว้ใช้ เช่น ใช้เป็นวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง ใช้ประกอบเป็นวัตถุสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ประเภทที่ ๓ ไม้ปลูกไว้เอาร่มเงา
เช่น ปลูกไว้ดูเล่น ดูดอก ดูสี ดูรูปทรง ประเภทนี้บางที่ก็นิยมเรียกกันว่าไม้ประดับ ประเภทที่ ๔ ปลูกไว้ใช้เป็นยาสมุนไพร
รักษาโรคภัยไข้เจ็บ ไม้ทั้ง ๔ ประเภท ให้ประโยชน์แก่มนุษย์แตกต่างกัน แต่ยังมีไม้อีกประเภทหนึ่ง ซึ่งควรจะจัดเป็นไม้
ประเภทที่ ๕ คือไม้ที่เป็นวัชพืช ไม้ประเภทนี้ไม่มีใครปลูก แต่มักขึ้นงอกงามได้เอง เป็นไม้ที่กินไม่ได้ใช้ก็ไม่ได้ เอาร่ม
เงาก็ไม่ได้ แม้จะดูให้สวยงามก็ไม่ได้อีก ถ้าเกิดตามพื้นดินก็ท�าให้พืชผักต่างๆ ไม่งอกงามต้องก�าจัดทิ้งอย่างเดียว แต่ถ้าเกิด
ขึ้นบนกิ่งไม้หรือชอบเกาะบนต้นไม้อื่น ถ้าขึ้นมากๆ ก็ท�าให้ไม้อื่นไม่งอกงามและอาจตายได้ในที่สุดไม้ประเภทนี้เราเรียก
ว่า กาฝาก
ในสังคมมนุษย์ ก็มีคนอยู่ ๔ ประเภทท�านองเดียวกัน คือ ประเภทที่ ๑ คนท�าหน้าที่ผลิตสร้างของกินของใช้
ในสังคม เปรียบเหมือนไม้ที่ปลูกไว้กิน ประเภทที่ ๒ คนท�าหน้าที่บริหารหรือบริการ คอยก�ากับดูแลแก้ปัญหาสังคม พอจะ
เปรียบได้กับไม้ที่ปลูกไว้ใช้ ประเภทที่ ๓ คนที่มีไว้เพียงเพื่อประดับสังคมให้ดูสวยๆ งาม เปรียบเหมือนไม้ที่ปลูกไว้ดูเล่น
ประเภทที่ ๔ คนท�าหน้าที่เป็นที่พึ่งทางใจและทางปัญญาให้แก่คนอื่นเปรียบเหมือนไม้ที่ปลูกไว้เอาร่มเงา บุคคลทั้ง ๔
ประเภท นับว่าอ�านวยประโยชน์แก่สังคมคนละด้านแตกต่างกัน แต่ยังมีบุคคลอีกประเภทหนึ่งนอกจากจะไม่ท�าประโยชน์
อันใดให้แก่หมู่คณะแล้ว ยังเป็นเครื่องถ่วงให้หมู่คณะและสังคมล้าหลังหรือเสียหายล่มจมไปในที่สุด เปรียบเหมือนต้นไม้
ประเภทที่ ๕ สมควรจะได้ชื่อว่า “กาฝากสังคม”
จัดท�าโดย กองอนุศาสนาจารย์ ยศ.ทร.
ข่าวสารแพทย์นาวี ปีที่ ๖๑ เล่มที่ ๑๐ เดือน ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๒ หน้า ๒๒

