Page 35 - 1oct 2563
P. 35
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
ผู้สูงวัย ๕๐ +
โดย...ศิษฏ์ชายชล สุทธิพงศ์ MBA RN
ความแตกต่าง การเปลี่ยนแปลงจากอดีตจนถึงปัจจุบันนั้น มีมากนะ วันนี้การมีชีวิต
อยู่ในสังคม ชุมชน เปลี่ยนไปมากๆ สิ่งที่เราสามารถสัมผัสได้ก็คือ “เงิน” ถ้าย้อนอดีตไปได้
เงินไม่เป็นสิ่งที่จ�าเป็นส�าหรับการด�ารงชีพเลย แต่ในปัจจุบัน คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เงินคือปัจจัย
ในการด�ารงชีพหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย จริงแล้วเงินนั้นมันส�าคัญ ต้องแบ่งใช้ให้เหมาะสมในวัยนี้
และจะมีการจัดการกับมันอย่างไร ซึ่งตอนนี้เราก็สูงวัยแล้ว หนี้สินไม่ควรสร้างเพิ่ม หนี้เก่าที่มี
จัดการให้ได้ รายรับไม่มี มีแต่รายจ่าย ซึ่งที่มากกว่ารายได้นั้นคือภาระหนี้ หรือบางทีหนี้หล่นทับอีกต่างหาก (ต่างกับบุญหล่นทับนะ)
เราจะตั้งรับกับสภาวะการเงินเหล่านี้ อย่างไรดี น่าคิดน่าสนใจ
ค�าถามที่ว่า “เงินมีความจ�าเป็นมากเพียงไร” ต้องพิจารณาหลายประเด็น ค�าตอบนั้นจะตอบด้วยตัวของมันเองโดยเฉพาะ
กลุ่มสังคมผู้สูงอายุในเขตเมือง ที่จะต้องจ�าเป็นเอาเงินที่สะสมมาใช้ในวัยเกษียณ วัยนี้เราไม่มีรายได้แล้ว มีแต่รายจ่าย การที่จะมีชีวิต
อย่างสะดวกสบายในเขตเมืองนั้น จะต้องใช้เงิน เงินน�าไปแลกปัจจัยสี่ ถึงแม้จะมีเพิ่มเป็นหกปัจจัย ก็สามารถแลกเปลี่ยนได้โดยง่าย
แต่ถ้ามาเปรียบเทียบกับผู้สูงอายุในเขตชนบท มันจะต่างกันมาก เนื่องจากการใช้เงินในแต่ละวัน แทบไม่มี และพวกเขาไม่คิดว่า
เงินเป็นสิ่งส�าคัญที่สุดในการที่จะมีชีวิตอยู่รอด
ผู้สูงอายุในเขตชนบท ไม่จ�าเป็นต้องใช้เงินเหมือนกันกับผู้สูงวัยในเขตเมือง
อาหารซึ่งพวกเขาหาได้ ตามหัวไร่ ปลายนา ผักสวนครัว ที่ปลูกเอง เอาปลาที่มีอยู่
เก็บสะสมไว้จากปีก่อน หาได้จากธรรมชาติ มีการปลูกพืชเอง เลี้ยงสัตว์เอง ที่อยู่อาศัย
สร้างเอง หรือมีอยู่เก่าแล้วใช้เครื่องนุ่งห่มที่พอประมาณ ไม่ต้องใช้เงินซื้อเพิ่ม ทุกอาทิตย์
ทุกเดือน เชื่อไหมว่าบางคนนั้น ซื้อเสื้อผ้า รองเท้า มากมายจนจ�าไม่ได้ว่าซื้อแล้ว อาจจะมี
การซื้อซ�้าเหมือนเดิม และไม่เคยน�ามาสวมใส่ เสื้อผ้าบางคนซื้อเก็บไว้ไม่ได้ใช้ และยังมี
ฉลากติดอยู่เลยก็มี คนชนบทนั้นใช้ปรัชญาพอเพียง ไม่ต้องการเครื่องนุ่งห่มที่มากเกินไป
ยาไทย สมุนไพรก็รักษาโรคพื้นบ้าน (แต่ยาฝรั่งอาจจะต้องใช้เงิน) พวกเขาไม่ต้องใช้เงินกับการแลกเปลี่ยน การใช้บริการออกก�าลังกาย
และการคลายเครียดจากการท�างานในแต่ละวัน (คือปัจจัยที่ห้าและหก คือ การออกก�าลังกาย และอารมณ์) ผู้สูงวัยที่ชนบทนั้นออกก�าลัง
ในสวน ท�ากิจกรรม หรือ ยืดเส้น ยืดสาย ตามธรรมชาติ ในบ้านไร่ บ้านสวน ซึ่งมีอากาศที่บริสุทธิ์มากกว่าเขตเมือง
การปรับปรุงอารมณ์ของผู้สูงวัยที่อยู่ในเขตชนบทนั้นง่าย บางคนไม่มีความเครียดมาก ก็สามารถผ่อนคลายได้โดยง่าย พวกเขา
ไม่ถูกบีบคั้น ไม่ถูกก�าหนดจากการท�างาน จากการแข่งขัน แก่งแย่ง เอาเปรียบ ดูหมิ่น ดูถูก จากค�าพูดของสังคม อาทิเช่น แย่งกัน
ขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้า กลัวจะไปท�างานสาย แย่งกันซื้ออาหารเที่ยง กินให้เสร็จในช่วง ๑ ชั่วโมงของการพักเที่ยง กลับไปแย่งกันขึ้นลิฟต์
(แต่ไม่มีคนแย่งขึ้นบันไดสักเท่าไหร่) มีการแย่งกันใช้ถนน ขับรถให้เร็ว เพื่อให้ได้ไปก่อน ไปรับลูก ส่งหลานที่โรงเรียน ซึ่งอยู่ไกลจาก
บ้านตนเอง เพราะเป็นโรงเรียนที่ดีติดอันดับของประเทศ รีบกลับบ้านตอนเลิกงาน เพราะบ้านไกล ที่รถติดเพราะคนน�ารถยนต์มาใช้
บนถนน พร้อมๆ กันในเวลาเดียวกันเป็นจ�านวนมาก ตั้งแต่เช้าเดินทางไปท�างาน และช่วงเย็นกลับจากท�างาน ด้วยจ�านวนถนนที่จ�ากัด
แต่จ�านวนรถยนต์ไม่เคยมีการจ�ากัด เมื่อสองอย่างไม่สมดุลย์ มีความแออัดเกิดรถติดแน่นอน มีการศึกษาวิจัยพบว่าการใช้เวลา
การเดินทางของคนเมืองโดยเฉพาะ เขต กทม. รถติดนานเป็นชั่วโมงๆ สิ้นเปลืองทั้งเวลา สิ้นเปลืองทั้งเงินค่าน�้ามันรถยนต์ เงินค่าก�าจัดมลพิษ
ข่าวสารแพทย์นาวี ปีที่ ๖๒ เล่มที่ ๑๐ เดือน ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๓ หน้า ๑๖

