Page 23 - 01-01-62
P. 23

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter

                       Little
                      Little







                           US.
                            US.






                                                  BY พี่แซม      ศิษฏ์ชายชล  สุทธิพงศ์  MBA  RN


                   สวัสดีปีใหม่ครับทุกท่าน  พอเป็นปีใหม่แต่ละครั้ง  ก�าลังจะพูดนี่ก็คือ ภาษีโรงเรียน (school tax)
            บางท่านก็ไม่อยากจะนึกเลย พวกที่สูงอายุก็กลัวว่าความเป็นหนุ่ม         ท่านอาจจะแปลกใจ  (surprise)  ว่าเรามีภาษีโรงเรียน

            เป็นสาวน้อยลง  พวกที่อยู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์  เจริญวัยก็อยากมี กันด้วยหรือ  นั่นสินะ  ภาษีโรงเรือน  ภาษีโรงแรม  โรงพยาบาล
            ความเป็นหนุ่มเป็นสาว  (adolescence)  เพิ่มขึ้น  จะได้มี หรือภาษีโรงหมอ โรงยา ลึกๆ ความจริงแล้วก็คือภาษีทรัพย์สิน
            ประสบการณ์ในการท�างาน  ประกอบอาชีพคล่อง  เงินเดือนขึ้น  (property tax) นั้นแหล่ะครับ ภาษีทรัพย์สิน คือไม่ว่าใครที่เป็น
            รายได้ดี  ปีใหม่พวกเด็กๆ  ก็อยากจะแก่ให้ไว  พวกคนแก่ก็ไม่ เจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน  จะต้องมีการเสียภาษี  ภาษีที่ได้มา

            อยากจะแก่อยากให้แก่ช้า แล้วคนอายุกลางๆ วัย เป็นผู้ใหญ่กลาง ก็ส่งกลับมายังชุมชนมาพัฒนา นอกจากนี้ ก็ยังมีภาษีจากการขาย
            คน  (middle-aged)  พวกที่อยู่วัยท�างาน  จะคิดอะไรได้  ก็นึก ผลิตภัณฑ์และขายบริการ ที่เรียกกันว่า VAT ครับ value added
            อะไรไม่ค่อยออก แต่สิ่งที่ต้องนึกให้ได้ก็คือเรื่องภาษี (taxation) tax  อีกด้วย แต่จะไม่กล่าวถึง
            เชื่อไหมว่า (believe it or not) ทุกคนอยากได้แต่ไม่อยากเสีย        น�าภาพมาต่อยอด อันนี้มุมมองภาษีการศึกษา ก็คือภาษี

            (take  but  never  give)  ไม่ต้องการเสียภาษีรายได้ส่วนตัว  โรงเรียนที่พูดถึงครับ  เป็นภาษีที่เก็บทุกปีเหมือนกัน   ใครมีบ้านเรือน
            แต่อยากได้สิ่งต่างๆ    ที่ทางรัฐบาลอ�านวยประโยชน์แก่ตน    แต่คงจะ เป็นของตัวเอง  ใครมีอสังหาริมทรัพย์  ทรัพย์สินเป็นของตัวเอง
            เป็นไปไม่ได้   เพราะถ้ามีความเชื่อสิ่งที่เป็นไปได้ คือถ้าเกิดอยาก ที่ดิน   กรรมสิทธิ์ทรัพย์สินอยู่ในเขตการค้า (commercial   property)
            ไม่เสียภาษีเลย  ก็ต้องไปอยู่ในสังคมที่โดดเดี่ยว  (isolation  หรือเขตที่พักอาศัย (residential property) อันนี้ต้องเสียภาษี

            community) หรือไม่ก็อยู่คนเดียว หรือว่าหนึ่งครอบครัวไม่ต้องมี จะมีการแบ่งแยกเสียต่างหาก  เสียภาษีให้ไปโรงเรียน  โดยเฉพาะ
            สังคมกับผู้อื่นมากมาย หลบไปอยู่ในถ�้า ในป่า ในท้องที่ที่อุดมด้วย ภาษีโรงเรียน ซึ่งรัฐบาลได้มาก็จะจัดส่งให้กับโรงเรียนท้องถิ่นเต็มๆ
            พืชพรรณ อาหาร ใช้เพียง ๓ ปัจจัยพื้นฐานก็พอ           ไม่หักหรือแบ่งปันไปในวัตถุประสงค์อื่นของรัฐบาลใช้เพื่อกิจการ
                    การเสียภาษีนั้น  เป็นการที่เรามีส่วนร่วมอยู่ในสังคม  โรงเรียน (school business) โดยเฉพาะ

            สังคมเป็นกลุ่ม  เราคือมนุษย์มีการอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน          เงินที่เราต้องเสียภาษีแต่ละปี ให้ทางรัฐบาล นอกเหนือจาก
            จะอยู่โดดเดี่ยวก็ไม่ได้ เป็นกลุ่มสังคมชุมชนนั้น มันเป็นธรรมชาติ  ภาษีรายได้ส่วนบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ภาษีที่ดิน ภาษีโรงเรือน
            ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตอยู่เป็นกลุ่มสังคม ต้องมีส่วนรวม และร่วม ภาษีโรงพยาบาล ภาษีป้าย เหล่านี้เป็นต้น ทางราชการจะมีการเก็บ
            แบ่งปัน  ค�าว่า  “ภาษี”  จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้  (unavoidable) ภาษีโรงเรียนซึ่งเป็นภาษีเฉพาะของแต่ละท้องถิ่นนั้นอีก ภาษีโรงเรียน

                   ที่นี้มีอยู่สองแบบของการของค�าว่า ภาษี คือ ๑) เสีย  ได้มาจากเจ้าของที่ดิน   อสังหาริมทรัพย์  ในพื้นที่ท้องถิ่น เงินที่ได้มา
            เสียภาษีก็คือเราทุกคนที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ต้องมีการให้ แบ่งและ น�ามาพัฒนาการบริหารจัดการโรงเรียน ระบบการศึกษาท้องถิ่นนั้น
            ส่งส่วย    ๒) ได้  ที่ได้ภาษีไม่ใช่บุคคล  แต่เป็นนิติบุคคล  รัฐบาล         เงินที่ได้มาช่วยในการบริหารจัดการโรงเรียนท้องถิ่นนี้ ได้มา
            เป็นกลุ่มคนที่จะช่วยเอาเงินภาษีได้นี้ แล้วแปรรูปกลับมายังชุมชน  จาก ๑) รัฐบาลกลาง ๒) รัฐบาลของแต่ละมลรัฐ ๓) รัฐบาลเมือง

            ให้สังคมรู้ว่าเอากลับมายังสังคมคือเป็นการแบ่งปัน  (sharing) ก็คือรัฐบาลท้องถิ่น ภาษีท้องถิ่น ซึ่งก็คือ ภาษีโรงเรียนนั่นเอง  ดังนั้น
            ช่วยเหลือ กลับคืนในรูปแบบต่างๆ                       ถ้าใครคิดจะมีบ้านสักหลังที่อเมริกา  ต้องคิดแล้วคิดอีกครับ  ภาษี
                    สมัยก่อน ภาษีอยู่ในเรื่องของผลผลิตการเกษตร ในเรื่อง โรงเรียนนั้นค่อนข้างจะหนักโดยเฉลี่ยประมาณ ๒% ต่อปี บางแห่ง
            ของการอยู่  การกิน  สมัยนี้อยู่ในรูปของเงินตรา  เพื่อสะดวกใน อาจจะสูงถึง  ๓%  ก็เป็นได้  ขึ้นอยู่กับว่าท่านอยู่ในเขตของเมืองที่

            การแลกเปลี่ยน  เงินภาษีที่ได้รับก็จะส่งกลับมายังชุมชน  ซึ่งน่าจะ มีการครองชีพสูง  เป็นเมืองที่ร�่ารวย  เมืองที่มีอันจะกินหรือเมือง
            เป็นอย่างนั้น  จะได้รับมาพัฒนาชุมชนท้องถิ่น  วันนี้ภาษีที่เรา ที่ยากจน แน่นอนแล้วครับว่าเมืองที่ร�่ารวยก็จะมีการเก็บภาษีมาก

                                                    ข่าวสารแพทย์นาวี   ปีที่ ๖๑  เล่มที่ ๑ เดือน มกราคม  พ.ศ.๒๕๖๒ หน้า ๑๔
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28