Page 17 - ข่าวสารฯ ฉบับ 6209 ก.ย.๖๒
P. 17
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
ว่าที่นาวาเอกหญิง อังคณา นวลยง รองผู้อ�านวยการกองวิทยาการ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ
ในฐานะหน่วยงานภาครัฐ เราคงเคยได้ยินว่า ควรน�าเอา business model มาใช้ในการด�าเนินงาน ถึงแม้กรมแพทย์
ทหารเรือ จะเป็นองค์กรที่ไม่หวังผลก�าไรและสร้างประโยชน์เพื่อประชาชนอยู่แล้ว หากน�าการบริหารเชิงธุรกิจมาใช้ก็มีโอกาส
สร้างความเติบโตโดยใช้ทรัพยากรของรัฐได้อย่างคุ้มค่ายิ่งขึ้น และแน่นอนที่สุด สิ่งที่องค์กรเราต้องการ คือความพึงพอใจ
ของลูกค้าย่อมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งสิ่งที่จะกลับมาคือรายได้ที่จะเพิ่มขึ้น หรือรายได้ที่จะกลับมาอย่างต่อเนื่อง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สรายุทธ์ นาทะพันธ์ อาจารย์ประจ�าภาควิชาบริหารธุรกิจ สาขาการเงิน วิทยาลัยนานาชาติ
มหาวิทยาลัยมหิดล อนุกรรมการการลงทุน ส�านักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และเป็นหนึ่งในทีมผู้สอนหลักสูตรการบริหาร
โรงพยาบาลและงานสายแพทย์ทหาร : การบริหารจัดการเพื่อสร้างมูลค่าสู่ความเป็นเลิศ (Hospital and Military Medical
Administration Program : Disruptive Innovation for Value Excellence) หรือที่เรียกอย่างย่อว่าหลักสูตร HMMAP
DIVE ที่ กวก.ศวก.พร. จัดขึ้นระหว่าง ๒๘ ม.ค. - ๑๐ เม.ย.๖๒ ให้ความหมายของค�าว่า business model หรือ “แผนธุรกิจ”
ไว้ให้เข้าใจได้ง่ายที่สุดคือการ “หาเงินอย่างไร” นั่นเอง
Business Model มีหลายรูปแบบ แต่ที่อยากพูดถึงในครั้งนี้คือ
Business Model Canvas (BMC) เป็นเครื่องมือทางธุรกิจที่ช่วยในการนึก
ภาพของทรัพยากรส�าคัญในการเริ่มธุรกิจหรือพัฒนาธุรกิจ ถูกพัฒนาขึ้นมา
โดย Alexander Osterwalder นักวางกลยุทธ์ทางธุรกิจชาวสวิตเซอร์แลนด์
ในหนังสือชื่อ Business Model Generation ซึ่งมหาวิทยาลัยดังระดับโลก
เช่น Harvard, Stanford ได้บรรจุลงเป็นหนึ่งในหลักสูตรการเรียนการสอน
ทางธุรกิจ และถูกน�ามาใช้กันอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน ทั้งการพัฒนาธุรกิจใหม่
สินค้าใหม่ และปรับกลยุทธ์ในองค์กร BMC มีลักษณะเป็น template ที่
ประกอบด้วย ๙ องค์ประกอบ เพื่ออธิบายให้เห็นภาพธุรกิจอย่างครบวงจร
๑. Value Propositions สินค้าหรือบริการที่เป็น product ที่เราต้องการจะขายคืออะไร ดีหรือมีคุณค่าต่อลูกค้า
อย่างไร เข้าไปแก้ปัญหา หรือตอบโจทย์อะไรให้ลูกค้า เช่น เพิ่มความสะดวกสบาย ประหยัดกว่าเดิม หรือมีสินค้านี้ใน
ครอบครองแล้วดูเป็นคนมีระดับ พูดง่ายๆ ก็คือ ท�าไมเขาต้องซื้อสินค้านี้จากเราด้วย ทั้งๆ ที่มีเจ้าอื่นให้เลือกเยอะแยะ เป็น
ส่วนที่ส�าคัญมาก ต้องระบุให้ได้ว่าอะไรของสินค้าที่จะท�าให้ลูกค้าเลือกเรา
๒. Customer Segment กลุ่มลูกค้าของเราเป็นกลุ่มใด เช่นกลุ่มผู้มีรายได้สูง กลุ่มข้าราชการ กลุ่มผู้ใช้แรงงาน
รวมไปถึงลูกค้าของเรามีพฤติกรรมแบบไหน อยู่กับสื่ออะไรด้วย เพื่อที่จะโฆษณาประชาสัมพันธ์หรือเข้าให้ถึงลูกค้า
๓. Channels คือ เราจะขายสินค้าหรือบริการของเราอย่างไร ผ่านทางไหน เช่น ขายออนไลน์ ขายเอง
โดยตรงทางหน้าร้าน เป็นต้น
๔. Customer Relationships คือ ช่องทางสร้างและรักษาสายสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้แต่สินค้า
ของเราเช่น Facebook Twitter หรือมีศูนย์บริการลูกค้า เป็นต้น
ข่าวสารแพทย์นาวี ปีที่ ๖๑ เล่มที่ ๙ เดือน กันยายน พ.ศ.๒๕๖๒ หน้า ๑๕
