Page 38 - ข่าวสารฯ ฉบับ 6210 ต.ค.๖๒
P. 38

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter



                                               STORY TELLING

               คนคุณธรรมกับรางวัลผู้ประพฤติปฏิบัติตนชอบด้วยความซื่อสัตย์สุจริต


                          โดย... น.ต.หญิง ศุภภร  ใหม่พุมมา พยาบาลฝ่ายบริการสุขภาพ โรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพ กรมแพทย์ทหารเรือ

               ในช่วงที่ผ่านมา โรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพ กรมแพทย์ทหารเรือ ได้จัดกิจกรรมในโครงการ
        พัฒนาโรงพยาบาลคุณธรรมอย่างต่อเนื่อง  โดยเป็นกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์  เรื่อง  “การประพฤติปฏิบัติตนชอบ
        ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต”  เพื่อสร้างการรับรู้  ความตระหนักแก่บุคลากรของ  รพ.ฯ  และน�าไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการท�างาน
        ตลอดจนแสดงออกซึ่งอัตลักษณ์ “ซื่อสัตย์” ของรพ.คุณธรรมได้อย่างถูกต้อง โดยได้เรียนเชิญ ท่านอาจารย์ นพ.เฉลียว

        พูลศิริปัญญา นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรม  สถาบันโรคทรวงอก  กรมการแพทย์  กระทรวงสาธารณสุข  ผู้ที่ท�างาน
        ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นในหลักความจริงและความถูกต้องในการปฏิบัติงาน ไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพลของผู้ที่ต้องการทุจริต
        จนกระทั่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ของรัฐ  จ�านวน  ๓๔  รายที่ได้รับรางวัล  “ผู้ประพฤติปฏิบัติตนชอบ  ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต”
        จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ปี พ.ศ.๒๕๕๖  อีกทั้ง ได้รับรางวัลชมเชยข้าราชการ

        พลเรือนดีเด่นของกรมการแพทย์ ได้รับเกียรติบัตรจากกระทรวงยุติธรรม  จากส�านักงาน ป.ป.ท. และได้รับใบชมเชยจาก
        ผู้รับบริการมากที่สุดในปี ๒๕๕๓ ของสถาบันโรคทรวงอก
                                            ท่านอาจารย์ นพ.เฉลียว พูลศิริปัญญา ได้ถามพวกเราว่า ความซื่อสัตย์ หมายถึง อะไร
                                      หลังจากนั้น ท่านอาจารย์ได้ให้ค�าตอบที่พวกเราสามารถสะท้อนคิดได้ว่า ความซื่อสัตย์ คือ

                                      สิ่งที่เป็น สีขาว และ สีด�า เท่านั้น ไม่มีสีเทา ซึ่งเป็นเรื่องที่แท้จริงเป็นอย่างยิ่ง ที่สังคมเราทุก
                                      วันนี้มักจะมีเรื่องที่อยู่ในความคลุมเครือ  ไม่ชัดเจน  เลี่ยงที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบ  ถ้าจะ
                                      มองความซื่อสัตย์ให้เป็นรูปธรรมขึ้น สิ่งที่เป็นสีเทาเหล่านี้นั่นละ คือ ความไม่ซื่อสัตย์
                                            จากนั้น ท่านอาจารย์ ได้เล่าประสบการณ์ในการท�างานให้พวกเราฟังหลายเรื่องที่
                                      ท�าให้เราได้สะท้อนคิด  อาทิเช่น  การปฏิเสธไม่ส่งตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของปอด
                                      เนื่องจากไม่มีเหตุผลตามหลักวิชาการ  ซึ่งได้รับการแสดงความจ�านงและขอให้ส่งตรวจ

                                      จากผู้ป่วยซึ่งเป็นแพทย์และมีต�าแหน่งทางการเมืองสูง ท�าให้พวกเราย้อนกลับมามองตัว
                                      เราเองว่า ถ้าเราตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น เราจะตัดสินใจท�าอย่างไร บางท่านอาจจะ
                                      ตัดสินใจที่จะส่งผู้ป่วยท่านนั้นไปตรวจเอกซเรย์ตามความประสงค์  ก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่อง
        ที่แสดงถึงความไม่ซื่อสัตย์  ไม่เสียหาย  เพราะอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจตามนั้น  แต่เมื่อนึกถึงค�าจ�ากัดความของความซื่อสัตย์
        ที่มีเพียงสีขาว กับ สีด�า ไม่มีสีเทา ท�าให้เรารู้แล้วว่า ตัดสินใจแบบไหน คือ ความซื่อสัตย์ และความไม่ซื่อสัตย์ ซึ่งสถานการณ์

        แบบนี้หรือที่คล้ายๆ กันพวกเราต้องประสบพบเจอตลอดเวลา เราจะสามารถยืนหยัดอยู่บนความซื่อสัตย์ ความถูกต้องได้หรือไม่
        และเมื่อเราเลือกที่จะยืนหยัดบนความซื่อสัตย์ ความถูกต้อง เราจะท�าอย่างไรให้สถานการณ์นั้นๆ  ส่งผลกระทบต่อเราน้อยที่สุด
        เราได้เรียนรู้จากเรื่องนี้ว่า “ทักษะการสื่อสาร” และ “บุคลิกภาพ” เป็นเรื่องที่ส�าคัญต่อสถานการณ์นี้ที่สุด เพราะการสื่อสารที่ดี
        บุคลิกภาพที่อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่แข็งกระด้าง รับฟังเหตุผล ย่อมจะช่วยให้สถานการณ์ที่ตึงเครียด ผ่อนคลายลงได้
               นอกจากนี้  ยังมีเรื่องของการที่ท่านอาจารย์ไม่รับค่าตอบแทนในการสั่งตรวจพิเศษนอกโรงพยาบาลทุกๆ  กรณี  ตั้งแต่ที่
        สมัครรับเงินอุดหนุนจากการไม่ประกอบอาชีพส่วนตัว  การด�ารงความเที่ยงตรงและซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพในการรับผิดชอบดูแลผู้

        ป่วยซึ่งทางญาติมีปัญหาขัดแย้งกับทางโรงพยาบาลและบุคลากรของโรงพยาบาลอย่างรุนแรง จนได้รับความไว้วางใจและความเชื่อถือ
        จากญาติและท�าให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่น่าพอใจโดยไม่มีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง
               และท้ายที่สุด  มีค�าถามจากพวกเราที่เข้ารับฟังในครั้งนี้อยู่หนึ่งค�าถาม  ที่ค�าตอบของท่านอาจารย์ประทับใจพวกเรา
        เป็นอย่างมาก  นั่นคือ  ค�าถามที่ว่า  “ท่านอาจารย์มีใครหรือสิ่งใดเป็น  Idol  ในการด�าเนินชีวิต”  ท่านอาจารย์ได้ตอบว่า
        “ผมมีพระไตรปิฎกเพื่อศึกษาแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา และด�าเนินชีวิตตามแนวพระราชด�าริของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ”

        ฟังค�าตอบแล้วพวกเราจึงไม่แปลกใจเลยที่ท่านอาจารย์ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้
               การได้เข้าร่วมรับฟังเรื่องราวประสบการณ์จากคนดีที่มีความซื่อสัตย์สุจริตในครั้งนี้  ถือเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่ายิ่ง
        อย่างน้อยท�าให้ได้ซึมซับความดีและรับรู้ว่า สังคมปัจจุบันนี้ ยังมีคนดีที่ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอยู่


       หน้า ๑๕   ข่าวสารแพทย์นาวี   ปีที่ ๖๑  เล่มที่  ๑๐  เดือน ตุลาคม  พ.ศ.๒๕๖๒
   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43