Page 21 - 01-05-62
P. 21
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
กันอีกครั้งหนึ่ง อาการแพ้ควรงด ละเว้นบริโภค ส่วนถ้ามีผลข้างเคียงของอาหารที่เราบริโภค และรู้สึกไม่ดีหลังจากบริโภคบ่อย
ก็แนะน�าว่าอย่าบริโภคจะดีกว่า มีอาหารอีกมากมายที่จะทดแทนกันได้ เพื่อสนองความต้องการและความรู้สึก และโยงไปถึง
พลังงานที่เราใช้แต่ละวัน
การมองเพื่อค�านวณ หรือคาดคะเนจ�านวนแคลอรี่ที่บริโภค
ในแต่ละมื้อแต่ละวันหลายคนก็บอกว่ายุ่งยากมาก แต่ถ้ามาลองคิด
ดีดีว่า ถ้าไม่ท�าตัวให้เข้ากับการยุ่งยากวุ่นวายในตอนนี้ จะส่งผลใน
อนาคตอันใกล้ ท�าให้ท่านอาจสร้างความยุ่งยากต่อร่างกายของท่าน
ท่านอาจจะต้องมีการเยียวยารักษาความเจ็บป่วย เจ็บไข้ที่วุ่นวาย
มากเกิน จึงในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าทุกท่านจะต้องเป็นโรค ไม่สบาย
แต่การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงนั้น เป็นสิ่งจ�าเป็นต่อสภาวะปัญหาในวัย
อายุที่อันควรนั้น หลายท่านก็เผชิญกับสิ่งนั้นอยู่แล้วแต่เราไม่อยากให้
เกิดปัญหาทางร่างกายก่อนวัยอันสมควรเท่านั้น
สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเก่าทั้งนั้น แต่น�ามาเล่าใหม่ ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นฐานเบื้องต้นในการน�ามาตอกย�้า ซ�้าบ่อยๆ
ให้ซึมซาบซึมซับทีละเล็กน้อย มันก็สอดคล้องกับตามหลักจิตวิทยา คือไม่มีความคิดความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
ของตนเอง การท�าอะไร ที่ไม่เคยท�ามาก่อน มักจะคิดอยู่นานสองนาน อาจเป็นปีๆ แต่ก็ยังไม่เคยท�าสักที และนั่นน่าจะเป็นการคิด
อย่างผิวเผิน ไม่จริงจังเท่าไหร่ พอมีเหตุการณ์มาสะกิด มีสิ่งที่จะมากระตุ้นความรู้สึก ประสบกับสภาวะการด�าเนินชีวิตแต่ละวัน
ก็ตื่นตัวในครั้งนั้น วิตกจริตเป็นระยะๆ เมื่อเวลาผ่านไป เหตุการณ์สงบความคิดนั้นก็กลับสู่สภาพเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ดังนั้น จึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าเรามาคิดจริงจัง แบบซีเรียสเลย มีความเชื่อ โดยความคิด ความเชื่อนั้นเป็นศูนย์รวมของ
ความตั้งใจ แต่ยังไม่มีโอกาสที่จะเริ่มกระท�าสักที แบบนี้แหละสิ่งต่างๆ เราที่ตั้งใจไว้ อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ มีค�าแนะน�าว่า
ถ้าคนเราคิดทุกวัน วันละสี่เวลาหลังอาหาร และก่อนนอน ทุกๆ วัน ให้คิดในเรื่องที่ท่านจะท�า ให้คิดต่อเนื่อง หรือท่านไม่ต้องท�า
ก็ได้ ไม่ต้องท�าอะไรเลย แต่คิดอย่างเดียว ถ้าท่านท�าอย่างนี้ได้ ไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือประมาณ ๑๘๐ วัน นักจิตวิทยาเขา
พิสูจน์มาแล้วว่า หลังจากนี้ท่านจะเริ่มเปลี่ยนความคิดนั้น มาเป็นการกระท�า โดยไม่มีข้ออ้างอื่นใดอีกต่อไป เชื่อถือได้ว่าอันนี้
เป็นวิธีการเปลี่ยนพฤติกรรม แบบกลายๆ คล้ายการล้างสมอง อธิบายได้ว่า ในความคิดของมนุษย์ทุกๆ คนมีพื้นฐานเบื้องต้น
ง่ายๆ คือท�าซ�้าๆ คิดซ�้าๆ ฟังซ�้าๆ อ่านซ�้าๆ บ่อยๆ เข้า ก็จะมีการเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่เชื่อนักจิตวิทยา เชิญท่านพิสูจน์ด้วยตัวของ
ท่านเอง เป็นไรไป ลงมือเอง ท่านก็จะรู้เอง
ไม่ได้ออกนอกเรื่องไปหน่อยนะครับ แต่ต้องเตรียมสภาพความคิดของท่าน เพิ่มพลังให้ก�าลังใจ กับท่านที่ไม่เคย
ค�านวณแคลอรี่กับอาหารที่เราบริโภค รวมไปถึงสัดส่วนอาหาร ที่ผู้รู้ได้แนะน�ามาให้ การแนะน�าเหล่านั้น ก็มีผลต่อสุขภาพ
ร่างกายและจิตใจ เป็นไปได้ว่าปัญหาความเครียดนี้มาก่อนเพื่อนเลย อารมณ์ตามมา จิตใจว้าวุ่น ท่านคิดในใจว่า ต้องให้ได้
สัดส่วน ต้องให้ได้แคลอรี่ เรื่องกินต้องเลือกขนาดนี้เชียวหรือ ค�าตอบคือใช่แล้ว ถึงเวลาต้องเลือกขนาดนั้น รอไม่ได้ ร่างกาย
ของเราเสื่อมถอยทุกวันๆ ชัดเจนว่าผลของการบริโภคต่างกันออกไป เช่น หวานเกิน เบาหวานจะถามหา เค็มแบบเว่อร์เกินไป
คือไม่รู้ตัวว่าทานเค็ม (คือความเค็มออกมาทางผิวหนังเลย แบบเงิน ๒๕ สตางค์ไม่กระเด็น...มุขตลก) เค็มให้ความดันโลหิต
มาเยือนเร็วกว่าก�าหนด หมูติดมัน เนื้อน�้าตก เสือร้องไห้ ไข่แดงหัวเราะ เดาสิอะไรจะถามหา โรคเกี่ยวกับหัวใจนั่นไง
ดังนั้น อาหารสมกับวัย เพื่อรักษาสุขภาพร่างกาย รสชาติอาหารจะเป็นตัวประกอบส�าคัญ แคลอรี่จากสัดส่วนอาหารที่
เราบริโภคกันทุกๆ มื้อ รวมกันเป็นหนึ่งวัน จะบริโภคสามหรือสี่มื้อไม่เป็นไร ค�าแนะน�าจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ ในวัยนี้
เราควรบริโภคให้ได้พลังงานอยู่ที่ ๑๘๐๐ แคลอรี่ต่อวัน ± บางท่านใช้ ๑๕๐๐ แคลอรี่ก็พอแล้ว แล้วแต่จะก�าหนด ถ้าท่าน
ใช้แรงงานเยอะ แบกหามเดินมาก เดินขึ้นลง บนตึกบ่อยๆ ก็อาจต้องใช้แคลอรี่มากนิด มีค�าถามว่า จะแน่ใจได้อย่างไรว่าอาหาร
ในจาน จะเหมาะสมกับเรา สัดส่วนของอาหารแต่ละอย่างมีปริมาณไม่เท่ากัน
ข่าวสารแพทย์นาวี ปีที่ ๖๑ เล่มที่ ๕ เดือน พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๒ หน้า ๑๖

