Page 13 - ข่าวสารแพทย์นาวี ฉบับเดือน ธันวาคม ๒๕๖๔
P. 13

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter






              ตรวจสุขภาพประจ�าปีแล้วน�้าตาลเกิน ๑๐๐


                 อันตรายกว่าที่คิด...ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม





                   โดย...น.อ.หญิง รุจิเรข  ธรรมเจริญ อายุรแพทย์โรคเบาหวาน และต่อมไร้ท่อ
                                 รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ

           เนื่องในวันเบาหวานโลก ๑๔ พฤศจิกายน ของทุกปี

                  โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน�้าตาลสูงมากกว่าปกติท�าให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่างๆ  เช่น  ตา  ไต

           หัวใจและหลอดเลือด  ระบบประสาท  องค์การอนามัยโลกคาดการว่าจะมีคนเป็นเบาหวานทั่วโลกประมาณ  ๓๒๔  ล้านคนในปี
           ค.ศ.๒๐๒๕
                  ๑. ปัจจัยเสี่ยงของการเป็นเบาหวาน มีอะไรบ้าง

                  - อายุมากกว่า ๔๕ ปี
                  - มีภาวะน�้าหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน (ในคนเอเชียถือดัชนีมวลกาย > ๒๓ kg/m = ภาวะน�้าหนักเกิน, ≥ ๒๕ kg/m 2
                                                                                     2
           =โรคอ้วนระยะที่ ๑ แล้วนะคะ แต่ถ้าตัดตามองค์การอนามัยโลกเพราะฝรั่งจะตัวใหญ่กว่าจะถือดัชนีมวลกาย ≥๒๕ kg/m 2
           =ภาวะน�้าหนักเกิน, ≥๓๐ kg/m =โรคอ้วน, คนเอเชียรอบพุงผู้ชายไม่ควรเกิน ๙๐ ซม. ผู้หญิงไม่ควรเกิน ๘๐ ซม. หรือดูอ้วนลงพุง
                                     2
           ง่ายๆ ลองวัดเส้นรอบเอวนะคะ ไม่ควรเกินครึ่งหนึ่งของส่วนสูงของเราเองค่ะ)

                  - มีญาติสายตรง (พ่อ แม่ พี่สาว) เป็นเบาหวาน
                  - มีความดันโลหิตสูงมากกว่า ๑๔๐/๙๐ mmHg และไขมันในเลือดสูง (TG>๒๕๐ mg/dL, HDL <๓๕ mg/dL)

                  - เคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์หรือเคยคลอดลูกตัวอ้วนน�้าหนักเกิน ๔ กก.
                  - ผู้หญิงที่มีถุงน�้ารังไข่ มักจะมาด้วยอ้วน คอด�า ประจ�าเดือนไม่ปกติ เป็น sign ว่าเริ่มมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน
                  นอกจากนั้นโรคเบาหวานไม่ได้มาคนเดียว ยังพาพี่น้องมาด้วยอีก จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นความดัน ไขมัน โรคอ้วน เพราะฉะนั้น

           ถ้ามาตรวจโปรแกรมเบาหวานเราก็จะได้รับการตรวจวัดความดันโลหิต วัดไขมัน ค่าตับ ค่าไตแถมไปด้วย พบว่าคนไข้เบาหวาน
           ที่มีไขมันสูงจะเพิ่มความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ ๒ - ๔ เท่า

                  ๒. ภาวะก่อนเบาหวาน มีอาการระยะเริ่มแรกเป็นอย่างไร ถ้าพบอาการเหล่านี้
                     แล้วจะปฎิบัติตัวอย่างไร
                  ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) ไม่มีอาการเลยค่ะ แต่เป็นภัยเงียบ  เราจะประเมินจากระดับน�้าตาลหลังอดอาหาร

           ๘ ชม.มีค่า ≥ ๑๐๐ mg/dL แต่ไม่ถึง ๑๒๖ mg/dL, ตรวจน�้าตาลแบบไม่ต้องงดอาหารหรือตรวจน�้าตาลหลังกลืนน�้าตาลทางการแพทย์
           ๗๕ กรัม ได้ค่า ๑๔๐ - ๑๙๙ mg/dL, ตรวจน�้าตาลเฉลี่ย HbA1C ๕.๗ - ๖.๔% มันจะเทาๆ นะคะ ง่ายๆ คือน�้าตาลเริ่มปริ่มละ

           ถ้าเป็นเบาหวานเต็มขั้น คือระดับน�้าตาลหลังอดอาหาร ๘ ชม. มีค่า ≥ ๑๒๖ mg/dL จากการตรวจซ�้า ๒ ครั้ง ถ้าเจาะเลือด
           ตอนไม่อดอาหาร หรือเจาะเลือดหลังกลืนน�้าตาล ๗๕ กรัมจะมีค่ามากกว่า ๒๐๐ mg/dL หรือมีค่า HbA1C ≥๖.๕ สาเหตุเกิดจาก
           เรามีโรคอ้วนลงพุง หรือเมตาบอลิกซินโดรม ปกติอินซูลินซึ่งถูกหลั่งออกมาจากเบต้าเซลล์ของตับอ่อน ท�าหน้าที่เป็นกุญแจ

           เอาน�้าตาลที่เรากินไปใช้ โดยอินซูลินจะเป็นพระเอก จะบอกให้ตับสร้างน�้าตาลให้น้อยลงและเก็บกักน�้าตาลส่วนเกินมาเก็บไว้ใช้
           ยามจ�าเป็น และอินซูลินจะท�าหน้าที่เหมือนกุญแจที่กล้ามเนื้อให้เปิดประตูดึงน�้าตาลไปใช้งานน�้าตาลจะได้ไม่สูง แต่ในภาวะก่อน

           เบาหวานร่างกายจะมีการดื้อต่ออินซูลิน ร่างกายจะ sense ว่าอินซูลินในตัวไม่พอ ท�าให้โรงงานอินซูลินถูกเฆี่ยนให้ผลิตอินซูลิน
           มากขึ้น ต่อมาโรงงานก็ล้าผลิตไม่ไหวเลิกกิจการ และเป็นเบาหวานถาวร โดยในคนปกติทั่วไป เราจะพบเบาหวานชนิดที่ ๒ ถึง ๙๕%




                                             ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๓ เล่มที่  ๑๒  เดือน ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๔  หน้า ๑๐
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18