Page 19 - 2feb64
P. 19

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter


                    ในส่วนตัวอย่างพฤติกรรมในวัยท�างานเช่น ไม่อยากกินถั่วต้ม เพราะทราบมาว่า
             การกินแล้วจะท�าให้เกิดอาการผายลมบ่อย และมีกลิ่นแรง แล้วถ้าอยู่ในที่ท�างานที่ประชุม

             หรือที่สาธารณะแล้ว จะอับอายมากเกินไปที่จะแบกหน้ารับในหมู่สังคมได้ โดยเฉพาะคุณผู้หญิง
             สูงวัย จึงไม่ชอบกินพวกถั่ว แต่ในพืชตระกูลถั่วพวกนี้เป็นอาหารที่มีกากใยอยู่เป็นจ�านวนมาก

             เหมาะสมกับจุลินทรีย์ที่ดี ซึ่งอาศัยอยู่ในล�าไส้ และชอบอาหารแบบนี้ มีผลให้ร่างกายของเรา
             รับสารอาหารที่มีประโยชน์ได้ดี
                    และพฤติกรรมอีกอย่างคือ ถ้าเดินทางไกลบ่อยๆ อยู่ในรถเกรงใจคนอื่น หรือไม่อยาก

             แวะเข้าห้องน�้าบ่อยๆ จึงไม่ดื่มน�้าสักเท่าไหร่ เพราะเริ่มสูงวัย พฤติกรรมเดิมๆ จนกลายเป็น
             นิสัย ท�าให้ร่างกายมีน�้าไม่พอเพียง และส่งผลให้อุนจิมีลักษณะแข็ง ไม่อ่อนนุ่ม อีกทั้งก็ยังมี

             การเคลื่อนตัวในล�าไส้ใหญ่ได้ล�าบาก  ช้าลงเกินไปคืนตัวได้ยาก  ใช้เวลานานกว่าที่อุนจิจะเดินทางมายังช่องเปิดของทวารหนัก
             และท่านที่มีอายุมาก บางทีเวลาขับถ่ายหรือปลดทุกข์ ก็ต้องใช้แรงเบ่งอย่างสุดชีวิต สุดแรงเกิด บ้างก็จะท�าให้เนื้อเยื่อบริเวณ
             ทวารหนักบาดเจ็บได้ บ้างก็จะให้อุนจิออกมาด้วยความยากล�าบาก บ้างก็จะมีเลือดติดมาด้วย

                                                  ท่านอาจจะสังเกตว่า ตัวท่านเองไม่รู้สึกอยากจะถ่ายหนัก หรืออึ อาจอึไม่ออก
                                           มากกว่าสองถึงสามวัน หรือว่าบางทีอุจจาระไปแล้วแต่ยังรู้สึกว่า ออกมาไม่หมดอยาก

                                           เข้าไปถ่ายอีกแต่ยังไงก็อึไม่ออก บางทีในแต่ละครั้งที่เข้าก็ยังมีอาการแน่นบริเวณท้องน้อย
                                           แน่นบริเวณทวารหนัก ปวดแล้วเบ่งไม่ออก  ก็น่าจะเข้าใจได้ว่า ท่านเริ่มสู่กระบวนการ
                                           ที่เป็นท้องผูกขึ้นแล้ว  สมควรที่จะต้องมีการแก้ไข  ปรึกษาแพทย์  อีกประการหนึ่งนั้น

                                           ต้องขอชี้แจงว่า  คือไม่อยากให้ท่านคิดว่าเป็นการหยาบคายที่น�าประเด็นนี้มากล่าว
                                           แต่เป็นเรื่องจ�าเป็นที่ต้องเรียนรู้เพื่อตัวเราเอง  คือทุกครั้งที่ถ่ายหนักนั้น  หรือเข้าส้วม

                                           ควรที่จะต้องสังเกตลักษณะอุนจิของท่านเองด้วยสักหน่อย  หลังจากปลดทุกข์เสร็จแล้ว
             ซึ่งพอจะเป็นข้อมูลส่วนตัว และสามารถบอกเหตุได้ ในเรื่องของสุขภาพร่างกายในอนาคต เป็นต้นว่า สีของอุนจินั้นมีสีอะไร
             ขาว เหลือง เขียว น�้าตาลไหม้ หรือด�า เป็นต้น รวมทั้งลักษณะเนื้อใน มีลักษณะหยาบ หรือละเอียด เกาะกันเป็นกลุ่มก้อน

             หรือแตกกระจาย เป็นลักษณะแข็งคล้ายท่อนไม้ หักเป็นท่อนๆ หรือว่าอ่อน หรือว่าเหลว เป็นต้น ในแต่ละครั้งก็ควรจะสังเกต
             เพิ่มเติมอีกว่า  มีจ�านวนอุนจิมากน้อยอย่างไร  ข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้  เก็บไว้ในใจนะ  แล้ววันนึงวันใดที่สังเกตเห็นว่าไม่ปกติ

             เหมือนอย่างที่เคยเห็น เคยเป็น ก็ควรที่จะเริ่มปรึกษาแพทย์เสียแต่เนิ่นๆ ผู้ที่สูงวัยนั้นจะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลง เกิดมาจากการ
             สะสมในวัยท�างานก่อนเกษียณ เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงกระพริบตาแต่อาศัยเวลาจนเกือบจะแย่ ร่างกายถึงแสดงอาการ
                    บางท่านไปหาหมอแล้วก็อาจจะไม่มีการรักษา แต่ถูกแนะน�าว่าให้รอดูอาการต่อไป คือว่า ถ้าไม่มีเลือดแห้ง หรือเลือดสด

             ติดมากับอุจจาระ ก็ยังไม่ถือว่าฉุกเฉินในส่วนใหญ่ ค�าแนะน�าก็จะลงที่ประเด็นของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกิน และกิจกรรม
             ให้สอดคล้องกับการเริ่มเป็นท้องผูก  ถ้าหากมีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก็จะให้เสร็จสิ้นก่อน  แล้วจึงรักษาป้องกันปัญหา

             ที่จะตามมาเรื้อรังต่อไป
                    ปัญหาเฉพาะหน้าเร่งด่วนนั้น ก็จะมีการกินยาระบาย ท�าการปลดทุกข์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน คือถ่ายไม่ออก การสวนทวาร
             หรืออาจจะต้องผ่าตัดในบางราย  เป็นต้น  โดยมีตัวช่วยในเรื่องของการดูผลเอกซเรย์  ตรวจดูทางกายภาพ  มีอาการแข็งแน่น

             ของอุจจาระ ไม่ขยับเขยื้อน เมื่อสามารถดูแลปัญหา ปลดปล่อยทุกข์ในปัจจุบันวันนี้เรียบร้อยแล้ว อันดับต่อไปก็คือ เริ่มแนวทาง
             ในการรักษาป้องกันต่อในอนาคต

                    เริ่มที่ต้นเหตุ บริโภคของเหลวหรือดื่มน�้าให้มากกว่าเดิม เปลี่ยนจากการอับอายที่ต้องปัสสาวะบ่อยๆ ให้เป็นสิ่งที่เคยชิน
             น�้าเป็นปัจจัยส�าคัญของการท�ากากใย ที่แข็งให้อ่อน และเหมาะสมกับการที่ล�าไส้ใหญ่จะขับถ่ายได้ง่ายขึ้น การบริโภคอาหาร
             ที่มีกากใย เช่น กินถั่วต้มแล้ว กินถั่วต่างๆ เมล็ดธัญพืช หรือเมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน เมล็ดแมงลักที่แช่น�้าแล้วมีเมือก

             ออกมา ก็จะเป็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปในทางที่ดี ในส่วนของกิจกรรม การเคลื่อนไหวร่างกาย เดินออกก�าลังกาย หรืออื่นๆ
             ที่เหมาะสมและจ�าเป็นต้องท�า
                                                ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๓ เล่มที่  ๒  เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๔  หน้า ๑๕
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24