Page 9 - ข่าวสารแพทย์นาวีฉบับเดือน พฤศจิกายน ๒๕๖๖
P. 9
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
รอบรู้เรื่องโรคผิวหนัง
Cutaneous & Mucosal Candidiasis
โรคติดเชื้อราที่ผิวหนัง แคนดิดาที่ผิวหนังและเยื่อบุ
โดย...น.ท.ปุณยวีร์ อ่องศรี แผนกโรคผิวหนัง กองอายุรเวชกรรม
รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ
โรคติดเชื้อราที่ผิวหนัง เป็นโรคที่พบได้บ่อยในเวชปฏิบัติ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อราที่ผิวหนังชั้นตื้น หรือชั้นหนังก�าพร้า
(superficial fungal infection) ได้แก่ กลาก เกลื้อน และการติดเชื้อราแคนดิดา นอกจากอาการแสบคันแล้ว การติดเชื้อ
ยังก่อให้เกิดผื่นที่มีลักษณะจ�าเพาะ อาจมีลักษณะเป็นตุ่มแดงคัน ผื่นวงแดงขอบชัด สะเก็ดขุย น�้าเหลืองซึม และอาจทิ้งรอยด�า
รอยด่าง สีผิวดูไม่สม�่าเสมอ จนเกิดความอับอายหรือมีปัญหาต่อการเข้าสังคมได้
ในที่นี้จะกล่าวถึงโรคติดเชื้อราแคนดิดาที่ผิวหนังและเยื่อบุ (Cutaneous & Mucosal Candidiasis)
สาเหตุการเกิดโรคติดเชื้อราแคนดิดาที่ผิวหนังและเยื่อบุ
โรคติดเชื้อราแคนดิดาที่ผิวหนังและเยื่อบุ เกิดจากเชื้อรากลม หรือ ยีสต์ (yeast) ในสกุล Candida spp. ซึ่งเป็นเชื้อรา
ที่ปกติอาศัยอยู่ในช่องปาก ช่องคลอด ในภาวะปกติเชื้อรากลุ่มนี้จะไม่ก่อให้เกิดโรคหรืออาการผิดปกติ แต่หากมีปัจจัยส่งเสริม
ให้เกิดการเพิ่มจ�านวนของเชื้อมากขึ้นกว่าปกติก็จะก่อให้เกิดโรคได้ โดยเฉพาะในบริเวณผิวหนังที่อับชื้นได้ง่าย เช่น ซอกพับ
รักแร้ ขาหนีบ ใต้ราวนม และเยื่อบุต่างๆ เช่น ช่องปาก ช่องคลอด องคชาต โดยปัจจัยเหล่านี้ได้แก่ ภาวะที่มีภูมิต้านทานต�่า
ผิดปกติ เช่น โรคเบาหวาน โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องจากเชื้อ HIV (AIDS) การใช้ยากดภูมิ ยาเคมีบ�าบัด หรือ การรับประทานหรือ
ทายาในกลุ่มสเตียรอด์เป็นเวลานาน ภาวะอ้วน และผู้หญิงตั้งครรภ์
การวินิจฉัยโรคติดเชื้อราแคนดิดาที่ผิวหนังและเยื่อบุ
การวินิจฉัยอาศัยลักษณะอาการและอาการแสดงของโรค ร่วมกับการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการโรค โรคติดเชื้อ
ราแคนดิดาที่ผิวหนัง จะมีอาการแสดงเป็นลักษณะของผื่นแดงคัน ลามออกเป็นวง มักมีสีแดงฉ�่า อับชื้น และพบตุ่มแดง
ขนาดเล็กๆ อยู่รอบๆ ผื่นแดง (satellite lesions) พบบ่อยบริเวณอับชื้น เช่น ขาหนีบ ซอกก้น รักแร้ ใต้ราวนม ซอกนิ้ว
โรคติดเชื้อราแคนดิดาที่เยื่อบุ พบบ่อยในช่องปาก มักพบเป็นผ้าขาวที่ลิ้น กระพุ้งแก้ม (oral thrush) ขูดออกได้ง่าย
ด้วยไม้กดลิ้น อาจพบเหงือกหรือมุมปากแดงอักเสบได้ โดยเฉพาะบริเวณที่ถูกกดทับหรือสัมผัสกับฟันปลอม ในช่องคลอด
จะพบลักษณะแดงคันที่ผนังช่องคลอด และมีตกขาวสีขาวขุ่นคล้ายนม ที่องคชาต มักพบตุ่มแดง ตุ่มขาว หรือตุ่มหนองที่ส่วน
หัวองคชาต
ข่าวสารแพทย์นาวี ปีที่ ๖๕ เล่มที่ ๑๑ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๖ หน้า ๕

