Page 13 - ข่าวสารแพทย์นาวี ฉบับเดือน กันยายน ๒๕๖๕
P. 13
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
งดสูบบุหรี่ งดสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และน�้าอัดลม ให้รักษาความสะอาดช่องปากให้ดียิ่ง ควรตรวจหาสาเหตุของ
อาการบาดเจ็บอื่นๆ ในช่องปากของผู้ป่วยร่วมด้วย เช่น กัดแก้ม กัดปาก กัดลิ้น หรือจากการแปรงฟัน เพื่อจะได้ท�าการแก้ไข
และป้องกันการเกิดแผลซ�้าอีก
ปัญหาฉุกเฉินทางทันตกรรมดังที่ได้กล่าวมาแล้วในเบื้องต้นนั้น ส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่สามารถหลีกเลี่ยงและป้องกันได้
ถ้าก�าลังพลสามารถรักษาอนามัยช่องปากส่วนบุคคลเป็นอย่างดี และมีการตรวจเช็คสภาพในช่องปากสม�่าเสมอ โดยทั่วไป
โรคในช่องปากส่วนใหญ่ในระยะเริ่มต้นจะไม่แสดงอาการผิดปกติหรือมีอาการเจ็บปวดใดๆ แต่ถ้าปล่อยละเลยไว้โรคมักจะลุกลาม
มากขึ้นเป็นเรื้อรังและไม่หายได้เอง ผู้ป่วยจะรู้ว่ามีปัญหาเมื่อมีอาการเจ็บปวดหรือมีอาการอื่นๆ เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งหมายถึงอาการ
โรคอยู่ในขั้นรุนแรงแล้ว และนอกจากนี้อาการและปริมาณของโรคมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นตามอายุ การรักษาทางทันตกรรมไม่สามารถ
ทดแทนส่วนของฟัน หรืออวัยวะรอบรากฟันที่ถูกท�าลายแล้วได้ แต่ท�าการรักษาเพื่อให้ฟันอยู่ในสภาพที่สามารถท�าหน้าที่ได้
เช่น การอุดฟันเป็นการบูรณะซ่อมแซมส่วนที่ผุให้สามารถใช้ฟันเคี้ยวอาหารได้ การขูดหินปูนหรือเกลารากฟันเป็นการก�าจัดสาเหตุ
ของโรคส่วนหนึ่งออกไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการท�าลายของกระดูกรอบรากฟันซึ่งมีผลท�าให้ฟันโยก ประสิทธิภาพในการบดเคี้ยว
อาหารลดลง การใส่ฟันปลอมเพื่อให้ท�าหน้าที่บดเคี้ยวอาหารได้ทดแทนฟันที่ถูกถอนไป เป็นต้น การป้องกันโรคในช่องปาก
จึงเป็นเรื่องที่ส�าคัญและจ�าเป็นมากและขึ้นกับการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากอนามัยส่วนบุคคลเป็นหลัก
จากการศึกษาในหน่วยทหารของสหรัฐอเมริกาหน่วยที่ให้การทันตกรรมป้องกันแก่ก�าลังพล ปัญหาฉุกเฉินทางทันตกรรม
จะมีจ�านวนลดลง หน่วยที่มีการตรวจสุขภาพช่องปากประจ�าปีสามารถลดอัตราเจ็บป่วยฉุกเฉินทางทันตกรรมลงได้ถึงร้อยละ ๕๐
ทุกหน่วยในกองทัพเรือควรจัดให้มีการตรวจกรองหาปัญหาสุขภาพของก�าลังพลและให้การดูแลรักษาในที่ตั้งปกติก่อนส่งก�าลังพล
ไปประจ�าการในเรือและควรจัดอยู่ในระเบียบปฏิบัติประจ�าของหน่วยทั้งที่ตั้งปกติและหน่วยทหาร
หน่วยควรจัดให้มีโครงการทันตกรรมป้องกันประจ�าหน่วย โดยแพทย์ทหารเป็นผู้รับผิดชอบดูแลในกรณีที่ไม่มีทันตแพทย์
บรรจุ ซึ่งรายละเอียดของโครงการควรประกอบด้วย ๕ ส่วนส�าคัญดังนี้คือ
๑. การตรวจสุขภาพช่องปากประจ�าปีและให้การรักษาผู้ป่วยที่ตรวจพบมีปัญหาทันตกรรมในหน่วยที่มีทันตแพทย์หรือส่งต่อ
เพื่อการรักษาเฉพาะในหน่วยที่ไม่มีทันตแพทย์เพื่อป้องกันการลุกลามของโรคต่อไป รวมทั้งการฟื้นฟูสุขภาพในช่องปาก
๒. ก�าลังพลควรได้รับอนุญาตไปพบทันตแพทย์ปีละสองครั้งเพื่อท�าความสะอาดช่องปากเช่น ขูดหินปูน ขัดคราบฟัน เป็นต้น
แม้ไม่รู้สึกว่ามีอาการผิดปกติใดๆ ก็ตาม เพื่อป้องกันโรคปริทันต์และฟันผุ
๓. หน่วยควรให้สุขศึกษาเกี่ยวกับโรคในช่องปากที่ส�าคัญและการป้องกัน การดูแลรักษาฉุกเฉินรวม ทั้งการดูแลสุขภาพอนามัย
ช่องปากที่ถูกต้อง
๔. ส่งเสริมให้ก�าลังพลดูแลสุขภาพและรักษาอนามัยช่องปากเป็นอย่างดี ดังมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ คือแปรงฟันอย่างน้อย
วันละ ๒ ครั้ง หลังอาหารเช้าและที่ส�าคัญคือก่อนนอน ถ้าอยู่ในสถานะการณ์ที่ไม่เอื้ออ�านวยเช่นในหน่วยสนามไม่สามารถแปรงฟันได้
ให้ใช้นิ้วมือถูแทนแปรงได้และบ้วนปากแรงๆ ดูแลรักษาสภาพแปรงสีฟันให้ดี เมื่อใช้เสร็จ ผึ่งให้แห้ง หมั่นเปลี่ยนแปรงสีฟันเมื่อ
หมดสภาพ เพื่อให้สมรรถภาพการแปรงดีอยู่เสมอ ใช้ใหมขัดฟัน (Dental floss) ท�าความสะอาดซอกฟันเพื่อก�าจัดเศษอาหาร
และคราบจุลินทรีย์ที่อยู่ระหว่างซอกฟันให้สะอาด หน่วยควรจัดให้มีกระจกเงาที่ส�าหรับแปรงฟันของก�าลังพลเพื่อสามารถมองเห็น
ช่องปากได้ดี ท�าให้การแปรงมีประสิทธิภาพขึ้น
๕. การป้องกันจะมีประสิทธิผลได้ก็จากความร่วมมือของทุกฝ่าย แต่ที่ส�าคัญคือก�าลังพลได้ตระหนักว่าการรักษาสุขภาพ
และอนามัยช่องปากส่วนบุคคล เป็นสิ่งที่จ�าเป็นต้องกระท�าเป็นอย่างดีและต่อเนื่องไปตลอดชีวิต และกองทัพควรสนับสนุนให้มี
การตรวจสุขภาพช่องปากเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจโรคประจ�าปีของก�าลังพล และจัดให้มีบริการทันตกรรมให้ทั่วถึงและ
มีประสิทธิภาพ ให้ก�าลังพลสามารถเข้าถึงบริการได้เท่าเทียมกันในทุกหน่วย
ข่าวสารแพทย์นาวี ปีที่ ๖๔ เล่มที่ ๙ เดือน กันยายน พ.ศ.๒๕๖๕ หน้า ๑๑

