Page 22 - nmdNewsletter-6110
P. 22
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
นักวิจัยจากสถาบัน Karolinska ในสวีเดน เปิดเผยว่าระบบโดพามีน (ระบบตอบสนองการให้รางวัลและการสร้างแรง
จูงใจของสมอง) ในกลุ่มคนที่มีหัวคิดสร้างสรรค์และจินตนาการสูงส่ง เช่น นักเขียน ศิลปิน และนักดนตรี มีลักษณะที่คล้ายกัน
มากกับกลุ่มคนที่เป็นโรคจิตเภท (Schizophrenia หรือกลุ่มอาการของโรคที่มีความผิดปกติทางความคิด) คนทั้งสองกลุ่มนั้นมีตัว
รับโดพามีน (dopamine receptor) น้อยกว่าคนทั่วไปในสมองส่วนที่เรียกว่าธาลามัส (thalamus) ซึ่งทำาหน้าที่เป็นศูนย์กลาง
การรับส่งข้อมูลโดยผ่านกระบวนการกลั่นกรองก่อนที่จะเข้าไปถึงจิตสำานึกของเรา ประเด็นนี้ทำาให้สามารถวิเคราะห์ได้ว่า การมี
ตัวรับโดพามีนน้อยกว่าคนทั่วไปนั้น จึงเป็นสาเหตุที่ทำาให้กลุ่มคนที่มีหัวคิดสร้างสรรค์สามารถคิดอะไรที่แปลกแหวกแนวกว่าคน
ทั่วไป และมีความคิดที่หลากหลายในการแก้ไขปัญหา และในขณะเดียวกันกลุ่มคนที่มีปัญหาทางจิตก็จะมีความคิดที่หลุดโลกหรือ
ผิดเพี้ยนไปจากคนปกติทั่วไปเช่นกัน ประเด็นจึงอยู่ที่ระดับของการกลั่นกรองข้อมูลของคนทั้งสองกลุ่มนี้เมื่อเทียบกับคนปกติ ดัง
ที่ ดร.อุลเลน ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงนี้กล่าวว่า “การส่งเสริมให้คนคิดออกนอกกรอบนั้น อาจทำาได้โดยลดความแน่นหนาหรือความ
แข็งแรงของกรอบที่มีอยู่ให้น้อยลง (จะได้ทะลุออกนอกกรอบได้ง่ายขึ้น)”
แนวทางเริ่มต้นเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในรายบุคคล
สมองของเรามีพฤติกรรมคล้ายกับวัยรุ่นใจร้อนมาก ที่ชอบหาเส้นทางลัดมากกว่าจะใส่ความพยายามให้มากเป็นพิเศษเพื่อ
หาแนวทางใหม่ๆ ซึ่งนั่นถือเป็นการประหยัดพลังงานให้กับสมองและก็เข้าทางสมองที่ต้องการจะประหยัดพลังงานอยู่แล้ว ดังนั้น
เมื่อเราได้รับโจทย์ปัญหาเชาน์ให้เราคิดเช่นนี้ เราจึงพยายามมองหาทางออกอย่างรวดเร็วที่เราคุ้นเคยโดยอัตโนมัติ ยกเว้นแต่ว่า
ทางออกนั้นไม่สามารถใช้ได้ในสถานการณ์นี้ การเปลี่ยนแปลงวิถีทางตามปกติในการทำาสิ่งใดๆ ด้วยการค้นหาวิธีการที่เราไม่คุ้นเคย
หรือไม่เคยรู้จักมาก่อนนั้นทำาให้เราต้องใช้ความพยายามมากขึ้น แต่เมื่อเราพบวิธีการที่เกิดประสิทธิผลนั้นแล้ว ควาพยายาม
ของเราที่มากเป็นพิเศษนั้นจะสร้างการเชื่อมโยงรูปแบบใหม่ของเซลล์ประสาทในสมองของคุณให้มีความแข็งแรงมากขึ้น จนกลายเป็น
สูตรสำาเร็จที่คุณใช้งานในคราวหน้าที่พบเจอกับสถานการณ์แบบเดียวกัน
การฝึกฝนการขบคิดปัญหาเชาวน์ต่างๆ ถือเป็นแนวทางที่ยอดเยี่ยมในการพัฒนาความคิดของคุณ “ให้ออกนอกกรอบ”
และช่วยเตรียมความพร้อมให้กับคุณเมื่อต้องเผชิญกับความท้าทายหรือปัญหาในที่ทำางานที่ดูเหมือนไม่มีทางแก้ไขได้ การฝึกสมอง
จะช่วยให้คุณมุ่งเน้นไปที่การค้นหาแนวทางการแก้ไขปัญหา และเปิดใจมองว่าทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้ในการค้นหาทางเลือกและ
แนวทางแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่มีอยู่ เมื่อเราให้ความสนใจกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่อยู่นอกเหนือขอบเขตที่เรามีความเชี่ยวชาญ
จะช่วยให้เราขยายกรอบความคิดและสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากขึ้น ดังนั้น ถ้าคุณได้พบกับเรื่องราวใดๆ ที่คุณยังไม่รู้อะไรมาก
นักและทำาให้คุณรู้สึกสนใจ ขอให้คุณลองค้นหาเกี่ยวกับมัน และลองสำารวจตัวเองว่ามีการเชื่อมโยงองค์ความรู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นในหัว
สมองของคุณหรือไม่ ความคิดสร้างสรรค์คือความสามารถในการเชื่อมต่อความคิดหรือไอเดียที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด
ให้สามารถรวมเข้าหากันได้ในแนวทางที่แปลกใหม่ และ จากผลการศึกษาจากประเทศฟินแลนด์ โดย ออคโคนิน ที่ประเมินเกี่ยว
กับความคิดสร้างสรรค์ในการเล่นดนตรีนั้นทำาให้ค้นพบว่า การเล่นดนตรีช่วยให้เกิดการหลั่งสารเซโรโทนิน (serotonin) ในระดับ
สูง ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อ (plasticity) ของเซลล์ประสาทภายในสมองส่วนที่เรียกว่า Posterior Cingulate Cor-
tex (PCC) และส่งผลให้มีความคิดสร้างสรรค์ในระดับสูงด้วย
References
1. Brockis, J. (2015). Future Brain: The 12 Keys to Create Your High-performance Brain. John Wiley & Sons.
2. Jönsson, E. G., Nöthen, M. M., Grünhage, F., Farde, L., Nakashima, Y., Propping, P., & Sedvall, G. C. (1999). Polymorphisms
in the dopamine D2 receptor gene and their relationships to striatal dopamine receptor density of healthy volunteers.
Molecular psychiatry, 4(3), 290.
3. สัจจะ จรัสรุ่งรวีวร (2017) Future Brain : เปลี่ยนสมองทั้งทีอย่ามีดีแค่ฉลาดขึ้น. บริษัท ไอดีซี พรีเมียร์ จำากัด.
ติดตามต่อฉบับหน้า
หน้า ๑๔ ข่าวสารแพทย์นาวี ปีที่ ๖๐ เล่มที่ ๑๐ เดือน ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๑

