Page 12 - 11Nov63
P. 12

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter





              แนวทางในการให้การดูแลทางด้านนิรภัยเวชกรรมใต้น�้า




           ในห้วงการระบาดของไวรัสโคโรนาที่มีสถานการณ์ผ่อนคลาย (ฉบับปรับปรุง)

                                                   โดย...กองเวชศำสตร์ใต้น�้ำและกำรบิน กรมแพทย์ทหำรเรือ


               เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาก่อโรคโควิด-๑๙ ในปัจจุบัน ที่พบมีการแพร่ระบาดทั่วโลก และอาจมี
        ผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการหรือแสดงอาการแต่น้อยหรือปกปิด กระจายอยู่ในทุกพื้นที่ของประเทศรวมถึงการปฏิบัติการใต้น�้า

        หรืออุตสาหกรรมด�าน�้า เพื่อท�าให้การนิรภัยเวชกรรมใต้น�้า (ความปลอดภัยด้านการแพทย์ในการด�าน�้าหรือปฏิบัติการใต้น�้า)
        ทั้งต่อก�าลังพลของหน่วยและผู้เกี่ยวข้อง

        เห็นสมควรให้แนวทำงกำรด�ำเนินกำรเฉพำะในส่วนป้องกันกำรแพร่ระบำดของไวรัสโคโรนำที่เกี่ยวข้องโดยตรง ดังนี้
        นิรภัยเวชกรรมใต้น�้ำในส่วนของกำรป้องกันควบคุมกำรแพร่ระบำดของโรค
                •  การด�าน�้านันทนาการหรือการปฏิบัติการใต้น�้ามีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายหรือรับเชื้อหากสถานการณ์

        แพร่ระบาดรุนแรง เนื่องจากผู้ติดเชื้อส่วนหนึ่งไม่มีอาการหรืออาการไม่ชัดเจนสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ และอุปกรณ์ด�าน�้า
        มีโอกาสถูกน�ามาใช้ร่วมกันหากไม่มีการท�าความสะอาดฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสม

                •  การปฏิบัติการใต้น�้าหากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้หรือประเมินแล้วสถานการณ์ผ่อนคลาย  ให้ปฏิบัติตามค�าแนะน�า
        ของทางราชการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคทั่วไปอย่างเคร่งครัด  โดยเฉพาะในด้านของการเว้นระยะห่างทางกาย
        อย่างน้อย ๒ เมตร การสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ร่วมกันโดยเฉพาะอุปกรณ์ที่จะต้อง

        ใช้ปากสัมผัส หากมีความจ�าเป็นให้ปฏิบัติตามค�าแนะน�าด้านล่าง
                •  เนื่องด้วยอุปกรณ์การด�าน�้าทั้งสคูบาวงจรเปิด กึ่งเปิด และปิด และชุดประดาน�้าระบบเปิด มีชิ้นส่วนที่อาจปนเปื้อนเชื้อ

        จากการใช้งานก่อนหน้า ได้แก่ หน้ากาก สน็อร์กเกิล ส่วนปาก (mouthpiece) ของ second-stage regulators และที่เป่า
        ลมเข้า BCD โดยเฉพาะหน่วยปฏิบัติการใต้น�้าที่มีอุปกรณ์จ�ากัดและใช้เป็นการส่วนรวม  จึงเห็นควรให้แนวทางส�าหรับมาตรการ
        ท�าความสะอาดภายหลังการใช้งาน ดังนี้

        กำรท�ำควำมสะอำดฆ่ำเชื้ออุปกรณ์ด�ำน�้ำ
                • น�้ายาที่มีประสิทธิภาพในการใช้ท�าความสะอาดฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาที่ก่อโรคโควิด-๑๙  แม้มีค�าแนะน�าหลากหลาย

        หากยังมีข้อมูลจ�ากัด ควรพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะสมเนื่องจากน�้ายาบางชนิดอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์หากสัมผัสโดยตรง
        หรือทางอ้อม และน�้ายาบางชนิดมีฤทธิ์กัดกร่อนโลหะหรือพลาสติกที่เป็นส่วนประกอบของอุปกรณ์ด�าน�้า
                • ในล�าดับแรกควรเลือกใช้ท�าความสะอาดและแช่ด้วยน�้ายาตามที่บริษัทอุปกรณ์ด�าน�้าของอุปกรณ์จ�าเพาะต่างๆ

        เช่น Superlite 17B, KM37, rebreathers ของแต่ละชนิดอุปกรณ์ที่ให้ค�าแนะน�า โดยควรตรวจสอบว่าน�้ายาดังกล่าว
        มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อทั้งแบคทีเรียและไวรัส โดยให้ความส�าคัญกับระยะเวลาในการแช่อุปกรณ์ (contact time)

        หากสงสัยสามารถสอบถามทาง  กวตบ.พร.  หรือ  กวตบ.รพ.อาภากรเกียรติวงศ์  ฐท.สส.  ในกรณีที่บริษัทก�าหนดเป็นน�้ายา
        Quaternary  Ammonium  Compounds  (QACs)  ห้ามทิ้งน�้ายาปนเปื้อนลงในทะเล  ควรก�าจัดและทิ้งอย่างเหมาะสม
        เนื่องจากเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศวิทยาในทะเล

                •  มีข้อมูลการศึกษาเร็วๆ นี้พบว่า คลอโรไซลีนอล (Chloroxylenol) (ซึ่งพบจ�าหน่ายในไทยในน�้ายาฆ่าเชื้อโรค เดทตอล
        (Dettol Antiseptic Liquid) โดยสามารถใช้กับเยื่อบุผิวหนังได้ โดยก่อนจัดหาให้ตรวจสอบส่วนประกอบส�าคัญให้ชัดเจน)

        มีคุณสมบัติสามารถฆ่าเชื้อไวรัสโรโคนาดังกล่าวได้ ค�าแนะน�าให้ผสมน�้ายาเดทตอลดังกล่าวที่มีส่วนประกอบเป็น ๔.๘% Chloroxylenol
        เจือจางด้วยน�้าสะอาดเพื่อให้มีความเข้มข้นไม่ต�่ากว่า ๐.๑๒% (เช่น การผสมน�้ายาเดทตอล ๔.๘% Chloroxylenol จ�านวน
        ๓๐ ซีซีต่อน�้า ๑ ลิตร) โดยแนะน�าให้มีระยะเวลาในการแช่ (contact time) ไม่น้อยกว่า ๑๕ นาที



          หน้า ๙  ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๒ เล่มที่  ๑๑ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๓
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17