Page 14 - 11Nov63
P. 14
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนแบบมัลติมิเดียสู่การเรียนรู้
แบบ Active Learning ในยุค ๔.๐
โดย....พ.จ.อ.นัฐวุฒิ รอดโฉม ผู้ช่วยครูแผนกศึกษำ โรงเรียนนำวิกเวชกิจ ศวก.พร.
สิ่งที่ครูในยุค ๔.๐ จ�าเป็นต้องมี คือ
๑. Growth Mindset ต้องเชื่อว่าเด็กทุกคนมีศักยภาพและสามารถพัฒนาได้
๒. ต้องเปลี่ยนห้องเรียน สร้างแรงจูงใจให้เด็กอยากเรียน
๓. ต้องเปลี่ยนการสอน สอนแบบ Active Learning เพื่อให้เด็กมีประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยตนเอง มีทักษะในการท�างาน
ฝึกทักษะการคิด และการแก้ปัญหา
๔. ต้องแสวงหาความรู้ใหม่และใช้ IT เป็น สามารถใช้ IT ให้เป็นประโยชน์กับการจัดการเรียนการสอน
๕. ครูเข้าใจสถานการณ์สังคม และชุมชนได้
๖. ต้องมีจิตวิญญาณความเป็นครู รักและห่วงใยลูกศิษย์อย่างจริงใจ จะเห็นได้ว่าครูในยุคนี้จ�าเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง
โดยเฉพาะรูปแบบการเรียนการสอน หรือแม้กระทั่งสื่อการสอนที่ตอบสนองกับยุคสมัยในปัจจุบันด้วย
สื่อการสอนไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ หรือชนิดใดก็ยังคงเป็นองค์ประกอบส�าคัญในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ทักษะต่างๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสาร และเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว การใช้สื่อการสอนในรูปแบบ
ที่เหมาะสมกับสภาวะสังคมในปัจจุบัน จะช่วยให้การรับรู้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพ และวิธีการน�าเสนอของ
สื่อนั้นๆ ด้วย มัลติมีเดียเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงเนื่องจาก คอมพิวเตอร์ และโปรแกรมคอมพิวเตอร์มีการพัฒนา
ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องอย่างไม่มีขอบเขตจ�ากัด และทุกคนสามารถเข้าถึงได้
สื่อมัลติมีเดีย เพื่อการเรียนการสอนนั้น คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบเพื่อใช้ในการเรียนการสอน โดยผู้ออกแบบ
หรือกลุ่มผู้ผลิตโปรแกรมได้บูรณาการเอาข้อมูลรูปแบบต่างๆ เช่น ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง วีดีทัศน์ และข้อความ เข้าไปเป็น
องค์ประกอบเพื่อการสื่อสารและการให้ประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพนั้นเอง โดยมีเป้าหมายคือ การสอน และผู้เรียน
ใช้เรียนด้วยตนเองหรือ กลุ่มย่อย ๒ - ๓ คน โดยเนื้อหาต้องครอบคลุมทักษะความรู้ ความจ�า ความเข้าใจ และเจตคติ เป็นการสื่อสาร
แบบสองทาง การผสมผสานสื่อมัลติมีเดียหลากหลายรูปแบบผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันนี้เรียกว่า CAI (Computer Assisted
Instruction) จากการศึกษาพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการสอนด้วยการใช้สื่อมัลติมีเดียสูงกว่าการสอนแบบปกติ
อย่างมีนัยส�าคัญทางสถิติ เมื่อมีสื่อการสอนที่ดีมีประสิทธิภาพแล้วก็ยอมต้องมีรูปแบบการเรียนการสอนที่สอดคล้องกันไปด้วย
ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้และตอบสนองต่อการพัฒนาของสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
อย่างรวดเร็ว การเรียนรู้แบบลงมือท�า หรือ การเรียนแบบ Active Learning เป็นการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจ และเรียนรู้
อย่างมีความหมาย ผ่านการกระท�า และร่วมมือกันระหว่างผู้เรียนด้วย โดยมีกระบวนการเรียนรู้ แบบผ่านการท�างาน ผ่านโครงการ
ผ่านกิจกรรม ผ่านการแก้ปัญหา และผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือวิธีวิจัย
โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ถึงแม้ว่าจะมีครูผู้สอนหลายช่วงอายุ แต่รูปแบบการเรียนการสอน
ก็ยังคงเดิม รูปแบบการเรียนการสอนแบบดั่งเดิม เป็นการเรียนรู้แบบ Passive Learning ได้แก่ การเรียนรู้ที่เกิดจากการฟัง การท่องจ�า
การเห็น การรับชม โดยจะเน้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ผ่านการถ่ายทอดของครูผู้สอนเป็นหลัก ส่วนสื่อการเรียนการสอนที่ใช้จะเป็น
รูปแบบของหนังสือ ตัวบุคคล ห้องเรียน คอมพิวเตอร์ โปรแกรมการน�าเสนอ PowerPoint LCD Projector และกิจกรรมต่างๆ
โดยยังขาดแนวทางในการจัดท�าสื่อมัลติมีเดียที่ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ จากการประเมินการเรียนสอนของนักเรียนยังพบว่า
การใช้สื่อในการเรียนที่ทันสมัยอยู่ในระดับพอใช้ ประกอบกับผลการวิจัยของผู้เขียน เรื่องปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ของ นรจ. หลักสูตร ปวส. สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ รร.นวก.ศวก.พร. พบว่าปัจจัยด้านครูผู้สอนมีรูปแบบการสอนที่น่าสนใจ
มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในทางบวกของ นรจ. หลักสูตร ปวส. สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ รร.นวก.ศวก.พร.อย่างมีนัยส�าคัญ
ทางสถิติ รร.นวก.ศวก.พร. เล็งเห็นความส�าคัญของปัญหาดังกล่าว จึงจัดท�าการจัดการความรู้เรื่องการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนแบบ
มัลติมิเดียสู่การเรียนรู้แบบ Active Learning ในยุค ๔.๐ นี้ขึ้น
หน้า ๑๑ ข่าวสารแพทย์นาวี ปีที่ ๖๒ เล่มที่ ๑๑ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๓

