Page 24 - ข่าวสารแพทย์นาวีฉบับเดือน มกราคม ๒๕๖๖
P. 24

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter




        การวินิจฉัยโรคสะเก็ดเงิน
               การวินิจฉัยโรคสะเก็ดเงินอาศัยอาการแสดงทางคลินิกเป็นหลัก ด้วยลักษณะของผื่นแดงหนา ขอบชัด มีสะเก็ดขุย

        ขาว และต�าแหน่งการกระจายตัวของผื่น จะช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยได้ แต่ในบางกรณีที่อาการแสดงยังไม่ชัดเจน อาจ
        พิจารณาท�าการตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจทางพยาธิ เพื่อตรวจหาลักษณะที่จ�าเพาะของสะเก็ดเงินต่อไป ได้แก่ regular acanthosis

        with thinning/absent of granular layer, club shaped rete ridges, confluent parakeratosis, Munro microabscesses
        และ spongioform pustules
        การพยากรณ์โรค

               โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคที่มีการอักเสบของผิวหนังเรื้อรัง ไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่มีการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อให้กับบุคคลรอบข้าง
        เนื่องด้วยสาเหตุการเกิดโรค เกิดจากหลายปัจจัยได้แก่ พันธุกรรม ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน และ ปัจจัยกระตุ้นจาก
        สิ่งแวดล้อมภายนอก การรักษาโรคสะเก็ดเงินจึงไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ การรักษาจะมุ่งเน้นให้โรคสงบ กล่าวคือไม่มี

        ผื่นหรือมีผื่นน้อยที่สุด โดยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนหรือเกิดน้อยที่สุด
        การรักษาโรคสะเก็ดเงิน
               การรักษาขึ้นกับความรุนแรงของโรค กล่าวคือหากโรคไม่รุนแรง (มีพื้นที่ผิวที่เป็นรอยโรค (BSA) น้อยกว่าร้อยละ ๑๐

        หรือประเมิน PASI < 10) จะให้การรักษาด้วยยารูปแบบทาเป็นหลัก แต่หากอาการของโรคมีระดับความรุนแรงปานกลาง
        หรือรุนแรงมาก (BSA > 10 หรือ PASI >10) แพทย์ควรพิจารณาให้การรักษาด้วยยารับประทาน และหรือร่วมกับการฉาย

        แสงอาทิตย์เทียม  หากการรักษายังไม่ได้ผลดี  อาจพิจารณาใช้ยาฉีดกลุ่มชีวภาพ  (Biologic  agents)  ซึ่งปลอดภัยและมี
        ประสิทธิภาพที่ดีมาก แต่ราคาค่อนข้างสูง
        ยารูปแบบทา (Topical treatments) เช่น

               ๑. ยาทาคอร์ติโคสเตียรอยด์ นิยมใช้มากที่สุด เนื่องจากใช้ง่าย มีประสิทธิภาพดี แต่หากใช้ยาที่แรงเกินไป หรือระยะเวลา
        นานเกินไป โดยไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจเกิดผลข้างเคียงเช่น ผิวหนังด่าง บาง แตกเป็นรอย

        และอาจเกิดการดื้อยา หรือกดการท�างานของต่อมหมวกไตได้ (ข้อสังเกต การฉีดยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ ไม่ถูกจัดอยู่ในการ
        รักษาโรคสะเก็ดเงิน  เนื่องจากอาจท�าให้โรครุนแรงขึ้น  หรือเกิดผลข้างเคียงระยะยาวได้  ทั้งนี้พบว่ามีผู้ป่วยสะเก็ดเงินบาง
        กลุ่มได้รับการฉีดยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ ซึ่งมักเกิดจากการวินิจฉัยผิดพลาด หรือการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงควรมีการเฝ้าระวัง

        และให้ความรู้กับผู้ป่วยเหล่านี้ด้วย)
               ๒. น�้ามันดิน มีประสิทธิภาพดี ช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังที่ผิดปกติ แต่มีกลิ่นเหม็น และอาจเปื้อนเสื้อผ้าได้
               ๓. ยาทาอนุพันธุ์วิตามินดี ประสิทธิภาพดี ช่วยท�าให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวเป็นปกติ ราคาค่อนข้างสูง สามารถใช้ร่วมกับ

        หรือสลับกับยาทาคอร์ติโคสเตียรอยด์ ในระยะยาวเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและลดผลข้างเคียง
               ๔. ยาทากลุ่ม calcineurin inhibitor ได้แก่ tacrolimus และ pimecrolimus สามารถทาผิวหนังบริเวณที่บาง
        เช่น หน้า คอ ซอกพับ ได้ระยะยาวอย่างปลอดภัย เกิดผลข้างเคียงน้อยกว่ายาทาคอร์คิโคสเตียรอยด์ แต่ราคาค่อนข้างสูง

        ยารูปแบบรับประทาน (Systemic drugs) เช่น
               ๑  . Methotrexate ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังที่ผิดปกติ มีประสิทธิภาพที่ดี สามารถใช้รักษาโรคสะเก็ดเงินได้

        เกือบทุกชนิด มีฤทธิ์กดภูมิคุ้มกันของร่างกาย ผลข้างเคียงที่พบได้ คือ ตับอักเสบ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่รับประทานแอลกอฮอล์
        ร่วมด้วย  หากรับประทานยาต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานหลายปี  อาจท�าให้เกิดตับแข็งได้  มีผลต่อการสร้างเม็ดเลือด  และ
        อาจท�าให้เกิดปอดอักเสบได้ ทั้งนี้ จึงควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

               ๒. Cyclosporin มีประสิทธิภาพที่ดี ออกฤทธิ์ไว ช่วยลดการอักเสบและยับยั้งภูมิคุ้มกันของร่างกาย เหมาะกับสะเก็ดเงิน
        ชนิดที่รุนแรง และใช้ในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่แนะน�าให้ใช้ยาต่อเนื่องนานเกิน ๒ ปี ผลข้างเคียงที่พบบ่อยได้แก่ ความดันโลหิตสูง และ

        การท�างานของไตผิดปกติ  จึงจ�าเป็นต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด  เพื่อประเมินค่าการท�างานของไต  และ
        ตรวจวัดความดันโลหิตอยู่เสมอ




       หน้า ๑๒   ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๕ เล่มที่  ๑  เดือน มกราคม พ.ศ.๒๕๖๖
   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29