Page 12 - ข่าวสารแพทย์นาวีฉบับเดือน กรกฎาคม ๒๕๖๖
P. 12
ข่าวสารแพทย์นาวี : Naval Medical Newsletter
รอบรู้เรื่องโรคผิวหนัง
Pemphigus vulgaris
โรคตุมนํ้าพองเพมฟิกัส
โดย...วาที่ น.ท.ปุณยวีร์ อองศรี แผนกโรคผิวหนัง กองอายุรเวชกรรม
รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ
โรคตุมนํ้าพองเพมฟิกัส (Pemphigus vulgaris) โรคตุ่มน�้าพอง จริงๆ แล้วมีหลายโรคและเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ
ไม่ว่าจะเป็นจากสาเหตุจากความผิดปกติทางพันธุกรรมแต่ก�าเนิด ความผิดปกติทางระบบภูมิคุ้มกัน โรคติดเชื้อ ปัจจัยทางกายภาพ
หรือการสัมผัสสารเคมีหรือสารระคายเคืองต่างๆ โดยรอยโรคที่เห็นเป็นตุ่มน�้าเกิดจากความผิดปกติหรือการถูกท�าลายของโครงสร้าง
ที่ท�าหน้าที่ยึดติดเซลล์ผิวหนังไว้ด้วยกัน ท�าให้เกิดการหลุดลอกของเซลล์ผิวหนังออกจากกันเกิดการแยกชั้นของผิวหนัง
ในกรณีที่เกิดการแยกชั้นในชั้นหนังก�าพร้า (intraepidermal separation) จะเห็นรอยโรคเป็นตุ่มน�้าที่แตกออกได้ง่าย (flaccid
bullae) หรือเห็นเป็นเพียงรอยถลอก (abrasion) และแผลตกสะเก็ด (crusted patch) ตัวอย่างเช่น ในโรค pemphigus vulgaris
ในกรณีที่เกิดการแยกชั้นในชั้นรอยต่อของหนังก�าพร้าและหนังแท้ (subepidermal separation, dermo-epidermal
junction) จะเห็นรอยโรคเป็นตุ่มน�้าพองใส เต่ง (tense bullae) ตัวอย่างเช่น ในโรค bullous pemphigoid
ในที่นี้จะกล่าวถึงโรคตุ่มน�้าพองที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่พบได้บ่อย คือ โรคตุ่มน�้าพองเพมฟิกัส (pemphigus
vulgaris)
โรคตุ่มน�้าพองเพมฟิกัส พบได้ทุกเพศทุกวัย แต่ส่วนมากพบในผู้ป่วยช่วงอายุเฉลี่ย ๓๕ - ๗๐ ปี ความชุกประมาณ ๐.๓๘ - ๓๐ เคส
ต่อประชากร ๑๐๐,๐๐๐ คน
สาเหตุการเกิดโรคตุมนํ้าพองเพมฟิกัส
เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ร่วมกับปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม ท�าให้ร่างกายสร้างโปรตีน immunoglobulin
ที่ผิดปกติ (autoantibodies) มาท�าลายโครงสร้างที่ท�าหน้าที่ยึดติดเซลล์ผิวหนังในชั้นหนังก�าพร้าไว้ด้วยกัน (โดยเฉพาะ desmoglein
๑,๓) ท�าให้เกิดการหลุดลอกของเซลล์ผิวหนังในชั้นหนังก�าพร้า เกิดเป็นลักษณะรอยโรคตุ่มน�้าที่แตกออกได้ง่าย (flaccid bullae)
หรือเห็นเป็นเพียงรอยถลอก (abrasion) และแผลตกสะเก็ด (crusted patch) ตามผิวหนัง และเยื่อบุต่างๆ โดยเฉพาะในปาก
อวัยวะเพศ และทวารหนัก
การวินิจฉัยโรคตุมนํ้าพองเพมฟิกัส
การวินิจฉัยอาศัยลักษณะอาการและอาการแสดงของโรค โดยผู้ป่วยมักจะมาด้วย ตุ่มน�้าพอง แผลถลอก ตามผิวหนังและ
เยื่อบุ โดยเฉพาะในปาก จึงมักมีอาการเจ็บแผลในปาก และกลืนเจ็บร่วมด้วย ร่วมกับการตรวจทางพยาธิวิทยา (histopathology)
และการตรวจยืนยันทางระบบภูมิคุ้มกันวิทยาเพื่อหาโปรตีนที่ผิดปกติ ด้วยการตรวจ direct immunofluorescence, indirect
immunofluorescence หรือ ELISA for Anti-Dsg1,3 Autoantibodies
การพยากรณ์โรคตุมนํ้าพองเพมฟิกัส
ตุ่มน�้าพองแตกออกง่าย และแผลถลอกตามผิวหนัง มักท�าให้เกิดอาการคัน ปวดแสบ เวลาหายจะทิ้งรอยด�า แต่มักไม่เกิด
แผลเป็น แผลในเยื่อยุต่างๆ มักมีอาการปวดแสบ โดยเฉพาะในช่องปากท�าให้เกิดการกลืนล�าบาก แผลรอบรูทวารหนัก ช่องคลอด
หรืออวัยวะเพศท�าให้มีเจ็บแสบเวลาปัสสาวะและขับถ่าย ทั้งนี้แผลตุ่มน�้าถลอกอาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ�้าซ้อน ท�าให้เกิดตุ่มหนอง
หากอาการรุนแรงอาจเกิดการลุกลามติดเชื้อในกระแสเลือด มีไข้สูง และอาจถึงแก่ชีวิตได้
การรักษาโรคตุมนํ้าพองเพมฟิกัส
การรักษาโรคตุ่มน�้าพองเพมฟิกัส ได้แก่
๑. การดูแลแผล ไม่ให้เกิดการติดเชื้อซ�้าซ้อน
๑.๑ แผลตุ่มแตกเป็นแผลที่ผิวหนัง
ใช้น�้าเกลือล้างแผล และพิจารณาทายาครีมฆ่าเชื้อ เช่น silver sulfadiazine
หรือ antibiotic ointment หลีกเลี่ยงการใช้สมุนไพร พอก ประคบ หรือพ่นที่แผล เนื่องจากจะท�าให้ติดเชื้อซ�้าซ้อนได้
หน้า ๘ ข่าวสารแพทย์นาวี ปีที่ ๖๕ เล่มที่ ๗ เดือน กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๖

